โฆษกกองทัพอิสราเอล แถลงเมื่อวันพุธว่า กองทัพสามารถควบคุมเชิงปฏิบัติการในพื้นที่ยาว 14 กม. และกว้าง 100 เมตร ตลอดแนวพรมแดนระหว่างฉนวนกาซากับอียิปต์ หรือที่เรียกว่า “ระเบียงฟิลาเดลฟี” (Philadelphi Corridor)
เขาอ้างว่า ระเบียงฟิลาเดลฟีเป็นเส้นทางหล่อเลี้ยงชีวิตของฮามาส ที่มักมักใช้เพื่อลอบขนอาวุธเข้าไปในฉนวนกาซา แต่เขาไม่ให้รายละเอียดว่า การควบคุมเชิงปฏิบัติการหมายถึงอะไร ขณะที่ก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่กองทัพ บอกว่า มีทหารราบอยู่ในพื้นที่บางส่วนของแนวพรมแดนนี้
พื้นที่ดังกล่าวอยู่ติดกับเมืองราฟาห์ทางตอนใต้ของฉนวนกาซา และกองทัพอิสราเอลพบอุโมงค์เกือบ 20 แห่ง ที่ลอดผ่านเข้าไปยังอียิปต์ ตลอดแนวพรมแดนนี้ และเมื่อกองทัพเข้าควบคุมพื้นที่ได้แล้ว ฮามาสจะไม่สามารถใช้อุโมงค์เพื่อลอบขนอาวุธได้อีก
นอกจากนี้ทหารอิสราเอลยังพบปากปล่องอุโมงค์อีก 82 จุด ที่นำไปสู่อุโมงคเหล่านั้นในบริเวณระเบียงฟิลาเดลฟี และพบเครื่องยิงจรวดตลอดพรมแดนด้วย โดยเชื่อว่า ฮามาสตั้งเครื่องยิงขีปนาวุธในบริเวณนี้ เพื่อป้องกันการโจมตีจากอิสราเอล เพราะคิดว่า อิสราเอลจะไม่โจมตีจุดนี้ที่อาจข้ามพรมแดนเข้าไปในอียิปต์ได้
แต่สื่ออียิปต์รายงานอ้างเจ้าหน้าที่ระดับสูงของอียิปต์ ปฏิเสธคำอ้างของอิสราเอลที่ว่า มีอุโมงค์อยู่ตามแนวพรมแดนระหว่างอียิปต์และฉนวนกาซา และบอกด้วยว่า รายงานของสื่ออิสราเอลไม่เป็นความจริง
ขณะที่รถถังของอิสราเอลรุกคืบเข้าสู่ใจกลางเมืองราฟาห์เป็นครั้งแรกเมื่อวันอังคาร แม้ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศมีคำสั่งให้ยุติการโจมตีเมืองนี้ทันที ชาวบ้านเล่าว่า เมื่อรถถังอิสราเอลปฏิบัติการเสร็จ ก็ถอยกลับไปยังเขตกันชนติดกับอียิปต์ แทนที่จะปักหลักอยู่ในพื้นที่เหมือนในพื้นที่สู้รบอื่น ๆ
และการโจมตีของอิสราเอลในราฟาห์นับจากยึดจุดผ่านแดนเมื่อวันที่ 7พฤษภาคม ทำให้ชาวปาเลสไตน์เกือบ 1 ล้านคนต้องอพยพหนีออกนอกเมือง ทั้งที่พวกเขาส่วนใหญ่ก็หนีการสู้รบมาจากหลายเมืองก่อนหน้านี้ และตั้งเต็นท์อาศัยอยู่กันอย่างแออัดที่นี่
ซาชิ ฮาเนกบี ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติของอิสราเอล เปิดเผยว่า การสู้รบในฉนวนกาซาอาจจะลากยาวไปตลอดปีนี้ ซึ่งหมายถึงว่า อาจยืดเยื้อไปอีก 7 เดือน เพื่อให้สามารถบรรลุเป้าหมายทำลายศักยภาพทั้งทางทหารและรัฐบาลของฮามาส
แต่แอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ บอกว่า อิสราเอลจำเป็นต้องวางแผนการบริหารฉนวนกาซาหลังสิ้นสุดสงคราม มิฉะนั้นเสี่ยงเกิดความยุ่งเหยิงและไร้ระเบียบ และฮามาสจะกลับมาอีกครั้ง
ขณะที่หน่วยงานด้านมนุษยธรรมของสหประชาชาติ ระบุว่า การจัดส่งความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมเข้าสู่ฉนวนกาซาลดลงเกือบ 70% นับตั้งแต่อิสราเอลยึดจุดผ่านแดนราฟาห์