หน่วยงานบรรเทาภัยพิบัติจังหวัดสุมาตราตะวันตก รายงานว่า จนถึงเช้าวันจันทร์มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 41 ราย และผู้สูญหาย 17 ราย หลังจากฝนตกหนักเมื่อคืนวันเสาร์ ทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน และโคลนถล่ม โดยกระแสโคลนมาจากลาวาเย็น ที่หลากทะลักจากภูเขาไฟ “เมราปี” ซึ่งเป็นภูเขาไฟที่ปะทุบ่อยที่สุดบนเกาะสุมาตรา ตำรวจ ทหารและหน่วยกู้ภัยรวมเกือบ 400 คน ใช้ทั้งเครื่องขุดและโดรนเร่งค้นหาผู้สูญหาย
ลาวาเย็น ซึ่งเรียกว่า ลาฮาร์ ประกอบด้วยเถ้าถ่าน ทราย และก้อนหิน ที่ไหลไปตามเนินของภูเขาไฟหลังฝนตกหนัก
ฝนตกหนักยังทำให้ถนนหลายสายกลายเป็นแม่น้ำที่เต็มไปด้วยโคลน ซัดรถยนต์ลอยไปไกล ต้นไม้หักโค่น บ้านเรือนและอาคารกว่า 100 หลัง และสะพาน 16 แห่ง ได้รับความเสียหาย และถนนที่ถูกตัดขาดยังเป็นอุปสรรคต่อภารกิจค้นหากู้ภัย
ภูเขาไฟ “เมราปี” ที่สูง 2,891 เมตร ปะทุ 11 ครั้งแล้วในช่วงต้นศตวรรษที่ 21 และการปะทุเมื่อเดือนธันวาคม 2566 ทำให้นักปีนเขาเสียชีวิต 23 ราย นอกจากนี้ในการปะทุเมื่อเดือนที่แล้ว พ่นเถ้าขึ้นสู่ท้องฟ้าสูง 2 กม. ทำให้ต้องระงับเที่ยวบิน ปิดถนน และประชาชนกว่ 11,000 คนต้องอพยพออกจากบ้านเรือน