แมคโดนัลด์ เผยแพร่แถลงการณ์ถึงซีเอ็นเอ็นในวันศุกร์ (15 มีนาคม) ระบุว่า “เราพบปัญหาขัดข้องด้านเทคโนโลยี ที่กระทบต่อร้านค้าของเรา ปัญหานี้กำลังได้รับการแก้ไข” แต่ยืนยันว่า ไม่เกี่ยวข้องกับความมั่นคงทางไซเบอร์
แคชเชียร์ที่ร้านแมคโดนัลด์สาขาหนึ่งในรัฐนิวยอร์ก เปิดเผยว่า ระบบไอทีล่มช่วงเวลา 1.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น และกลับมาใช้งานได้เมื่อเวลาประมาณ 5.00 น.
นอกจากนี้แมคโดนัลด์ในญี่ปุ่น โพสต์ใน X ว่า หลายร้านทั่วประเทศระงับให้บริการชั่วคราว
ส่วนพนักงานของสาขาหนึ่งในกรุงลอนดอนของอังกฤษ บอกว่า ระบบล่มช่วง 6.00-7.00 น. และพนักงานต้องจดออเดอร์จากลูกค้า และไปแจ้งพนักงานในครัว
และสาขาหนึ่งในกรุงเทพฯ ให้บริการตามปกติ แม้เจอปัญหาระบบล่มเกือบ 1 ชม. ทำให้ไม่สามารถรับออเดอร์ออนไลน์ หรือ รับชำระเงินผ่านบัตรเครดิต แต่พนักงานยังรับออเดอร์ และรับการชำระเงินสด
นอกจากนี้ยังพบปัญหาทั้งในออสเตรเลีย ฮ่องกง และไต้หวัน โดยแมคโดนัลด์ในฮ่องกง แจ้งว่า ด้วยระบบคอมพิวเตอร์ล่ม ทำให้การสั่งซื้อผ่านมือถือและเครื่องสั่งอาหารอัตโนมัติไม่สามารถทำงานได้ และในไต้หวันต้องระงับการสั่งซื้อผ่านออนไลน์และมือถือชั่วคราว
แมคโดนัลด์มีสาขารวมกว่า 41,800 แห่งทั่วโลก โดยเกือบ 13,500 อยู่ในสหรัฐฯ ที่เป็นตลาดใหญ่ที่สุด และในบรรดาประเทศที่ได้รับผลกระทบ ญี่ปุ่นมีสาขามากที่สุดเกือบ 3,000 แห่ง ตามด้วยสหราชอาณาจักรเกือบ 1,500 แห่ง และออสเตรเลียกว่า 1,000 แห่ง