svasdssvasds
เนชั่นทีวี

ต่างประเทศ

ญี่ปุ่นประหารวัยรุ่นก่อคดีฆาตกรรม-วางเพลิง

19 มกราคม 2567
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

ศาลญี่ปุ่นตัดสินประหารชีวิตชายหนุ่มวัย 21 ปี ที่ก่อเหตุฆาตกรรมและวางเพลิงตั้งแต่ยังเป็นวัยรุ่น ซึ่งเป็นคดีแรกที่ใช้โทษขั้นสูงสุดต่อผู้ประทำผิดในขณะยังเป็นผู้เยาว์ ทั้งยังแก้กฎหมายเยาวชนให้เปิดเผยชื่อและนามสกุลอีกด้วย

ยูกิ เอ็นโดะ วัย 21 ปี ถูกผู้พิพากษาศาลในเมืองโคฟุ จังหวัดยามานาชิทางภาคกลางของญี่ปุ่น ตัดสินประหารชีวิตเมื่อวันพฤหัสบดี (18 มกราคม 2567) ในข้อหาฆาตกรรมเหยื่อ 2 ราย และวางเพลิงเมื่อปี 2564 และนับเป็นคดีแรกในประวัติศาสตร์ของประเทศ ที่ใช้โทษประหารชีวิตแก่ผู้กระทำผิดในขณะยังเป็นเยาวชน

ขณะก่อเหตุ เอ็นโดะ มีอายุ 19 ปี และการแก้กฎหมายเยาวชนเมื่อเดือนเมษายน ปี 2565 ทำให้สื่อสามารถระบุชื่อ-นามสกุลและอายุจริงของเขา หลังจากต้องแทนด้วยคำว่า "ผู้กระทำผิดที่มีอายุระหว่าง 18-19 ปี" เพราะกฎหมายเดิมห้ามเปิดเผยชื่อ นามสกุล อายุ ที่พักอาศัย หรือเผยแพร่ภาพถ่ายของผู้ก่อเหตุที่ยังเป็นเยาวชนและอายุต่ำกว่า 20 ปี การแก้กฎหมายยังขยายขอบเขตให้ผู้กระทำผิดถูกดำเนินคดีในฐานผู้ใหญ่

ภาพ : NHK

เอ็นโดะแทงชายวัย 55 ปี กับหญิงวัย 50 ปี ซึ่งเป็นพ่อแม่ของผู้หญิงที่เขาแอบชอบจนเสียชีวิต เมื่อวันที่ 12 ตุลาคม ปี 2564 และยังทำร้ายน้องสาวจนบาดเจ็บ และแม้เธอจะปลอดภัยแต่เธอก็ระบุในข้อความที่แถลงโดยอัยการว่า

"เขาจะไม่ไว้ชีวิตเธอแน่ ถ้ามีโอกาสได้ออกไปสู่โลกภายนอก เธอไม่ต้องการให้เขาได้ออกไปอีก และต้องการหลักประกันว่าเขาจะไม่ได้ออกไป" 

แม้ว่าทนายจำเลยจะเรียกร้องให้เขาได้รับโทษตามความผิดทางอาญาที่เบาลง แต่หัวหน้าผู้พิพากษา จุน มิคามิ ได้ตัดสินให้เขาได้รับโทษอย่างเต็มที่ โดยระบุว่า

"ไม่ควรเอาอายุมาใช้เป็นเหตุผลที่จะหลีกเลี่ยงโทษประหารชีวิต" 

  ภาพ : TBS NEWS

ภายใต้ประมวลกฎหมายอาญาของญี่ปุ่น การลอบวางเพลิงบ้านที่มีคนอยู่ข้างในมีผลให้รับโทษประหารชีวิตได้ ส่วนเอ็นโดะให้การว่าเขาลงมือเพราะผู้หญิงที่เขาแอบชอบตั้งแต่เรียนอยู่ชั้นมัธยมปลาย ไม่ยอมออกเดทกับเขา ทำให้เขารู้สึก "สิ้นหวังและแค้นเคือง" และพูดถึงความสัมพันธ์ที่ไม่ดีนักของเขากับพ่อแม่

โทษประหารชีวิตของญี่ปุ่นมีชื่อว่า "มาตรฐานนางายามะ" (Nagayama standard) โดยคำนึงถึงปัจจัยประกอบ เช่น

  • จำนวนเหยื่อ
  • ความโหดร้าย
  • ผลกระทบทางสังคมจากอาชญากรรมที่ก่อโดยผู้กระทำผิด

 

logoline