LEGO เลิกผลิตสินค้าจากพลาสติกรีไซเคิล

เชื่อว่าหลายคนน่าจะโตมากับของเล่นตัวต่อพลาสติกชิ้นเล็ก ๆ อย่าง Lego ที่ทุกวันนี้ก็ยังได้รับความนิยมกันอยู่ ไม่ว่าจะเป็นการต่อแบบอิสระ หรือต่อเป็นรูปร่างตามที่จัดเป็นคอลเลกชันมาให้ก็ได้ ในแต่ละปีมีชิ้นส่วนเลโก้ถูกผลิตออกมาถึง 6 หมื่นล้านชิ้น หรือเกือบ 2000 ชิ้นในทุก ๆ วินาที และในกระบวนการผลิตแต่ละชิ้น มีการใช้น้ำมันปิโตรเลียมในปริมาณที่เยอะมาก ทางเลโก้ก็เริ่มเป็นกังวลว่าสินค้าที่ตัวเองผลิตออกมาจะกลายเป็นการทำลายสิ่งแวดล้อมหรือเปล่า แล้วถ้าเป็นจะทำอย่างไรให้ชิ้นส่วนพลาสติกเล็ก ๆ เหล่านั้นเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น





 

เมื่อปี 2021 เลโก้ได้พัฒนาวิธีการผลิตชิ้นส่วนจากขวดพลาสติก PET หรือขวดน้ำพลาสติกที่เราใช้ นำมารีไซเคิลทำเป็นชิ้นส่วนเลโก้ ซึ่งเลโก้คิดว่าน่าจะช่วยลดการใช้น้ำมันปิโตรเลียมในการผลิต และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น 

แต่ผลลัพท์มันตรงกันข้าม! เลโก้เลยบอกว่า "ไม่เอาแล้ว พลาสติกรีไซเคิล" เพราะจากการทดสอบมานานกว่าสองปี พบว่าการใช้พลาสติกรีไซเคิลมันไม่ได้ช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์อย่างที่คิด เพราะมันยุ่งยาก ต้องมีขั้นมีตอนเพิ่มเติมในกระบวนการผลิต ซึ่งพอขั้นตอนเพิ่มขึ้นก็ต้องใช้พลังงานมากขึ้นอยู่ดี

สุดท้ายเลโก้ตัดสินใจว่าจะ "ไม่ใช้กระบวนการรีไซเคิล" ในการผลิตชิ้นส่วนตัวต่ออีก แต่ก็ยังไม่รู้จะหาวิธีไหนมาใช้ให้มันเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากกว่านี้ เพราะที่ผ่านมาเลโก้ลองทดสอบการผลิตชิ้นส่วนด้วยวัสดุหลายร้อยชนิด ก็ยังไม่มีวัสดุชนิดไหนที่แก้ปัญหาเรื่องความยั่งยืนหรือสิ่งแวดล้อมให้บริษัทได้เลย

แต่ไม่ได้หมายความว่าจะล้มเลิกการปรับปรุงกระบวนการผลิตไปเลย เลโก้ยังมีการลงทุนเพื่อวิจัยและพัฒนาด้านความยั่งยืนไปถึง 1.2 พันล้านดอลลาร์ เพื่อผลิตตัวต่อเลโก้จากวัสดุที่ยั่งยืนให้ได้ภายในปี 2032 พร้อมกับสัญญาด้วยว่าการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้จะไม่ส่งผลกระทบต่อผู้บริโภค พูดง่าย ๆ คือจะไม่ทำให้เลโก้มีราคาแพงขึ้นแน่นอน