ซีอีโอ Binance ลาออก ยอมรับว่าทำผิดกฎหมายฟอกเงิน

ฉางเผิง จ้าว ซีอีโอของ Binance ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มซื้อขายคริปโตเคอร์เรนซีที่ใหญ่ที่สุดในโลก และเป็นหนึ่งในบุคคลที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลกในวงการคริปโตเคอร์เรนซี ตัดสินใจลาออกจากตำแหน่ง และยอมรับว่าได้กระทำความผิดเกี่ยวกับกฎหมายฟอกเงินตามที่ถูกกล่าวหา ซึ่งการลาออกของเขาเป็นการแสดงความรับผิดชอบต่อสิ่งที่เกิดขึ้น โดยเขาได้โพสต์ข้อความว่า ‘วันนี้ ผมก้าวลงจากตำแหน่งซีอีโอของ Binance ยอมรับว่าเป็นเรื่องที่ทำใจได้ยาก แต่ผมรู้ว่านี่คือการกระทำที่ถูกต้อง ผมทำผิดพลาด และผมต้องรับผิดชอบ นี่คือสิ่งที่ดีที่สุดต่อสังคม ต่อ Binance และต่อตัวผม’

Binance เจอการฟ้องร้องจากหน่วยงานสหรัฐฯ ในหลายประเด็น ทั้งเรื่องการทำผิดกฎหมายต่อต้านการฟอกเงิน การธุรกิจโดยไม่มีใบอนุญาต และไม่มีกระบวนการตรวจสอบผู้ซื้อขายตามที่กฎหมายกำหนด ทำให้บุคคลและองค์กรที่ถูกสหรัฐฯ คว่ำบาตรสามารถซื้อขายคริปโตเคอร์เรนซีบนแพลตฟอร์มของ Binance ได้ เช่น มีการซื้อขายจากลูกค้าในอิหร่านมูลค่าสูงถึง 900 ล้านดอลลาร์ และยังมีการทำธุรกรรมจากซีเรียและรัสเซียด้วย ซึ่งการที่ Binance ไม่ปฏิบัติตามกฎหมายของสหรัฐฯ ทำให้องค์การก่อการร้ายเคลื่อนย้ายเงินได้ง่ายขึ้น

Binance ตกลงที่จะจ่ายค่าเสียหายกว่า 4,000 ล้านดอลลาร์ ให้กับกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ และการลาออกของ ฉางเผิง จ้าว จะทำให้เขาได้รับการลดโทษจำคุกจาก 10 ปี เหลือ 18 เดือน

แม้จะยอมรับในการเรื่องการกระทำผิดดังกล่าว แต่ ฉางเผิง จ้าว ยืนยันว่า Binance ไม่เคยแตะต้องสินทรัพย์ของลูกค้า ทำให้ Binance ยังคงให้บริการต่อไปได้ตามปกติ แต่ต้องมีการปรับปรุงโครงสร้างและระบบการทำงานเพื่อไม่ให้การทำธุรกิจละเมิดกฎหมายฟอกเงินและการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ และหากพบการทำธุรกรรมทางการเงินที่น่าสงสัย ต้องแจ้งเจ้าหน้าที่ทุกครั้ง

ในส่วนของซีอีโอคนใหม่ ที่มารับหน้าที่ต่อจาก ฉางเผิง จ้าว คือ ริชาร์ด เติ้ง ที่ดำรงตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายตลาดภูมิภาคทั่วโลก และตอนนี้ได้รับการแต่งตั้งเป็นซีอีโอคนใหม่ของ Binance แล้ว