
กองทัพอิสราเอลระดมกองพลสำรองราว 100,000 นายอยู่ในพื้นที่ภาคใต้ใกล้ฉนวนกาซา หลังจากรัฐบาลอิสราเอลประกาศสงครามอย่างเป็นทางการเพื่อตอบโต้กลุ่มติดอาวุธ “ฮามาส” ของปาเลสไตน์ ที่โจมตีอิสราเอลโดยไม่ให้ทันตั้งตัวเมื่อเช้าวันเสาร์ที่ 7 ตุลาคมที่ผ่านมา
โฆษกกองทัพอิสราเอล ระบุว่า เป้าหมายของปฏิบัติการทางทหารในขณะนี้ คือ ทำให้มั่นใจได้ว่า เมื่อสิ้นสุดสงคราม ฮามาสจะไม่มีศักยภาพทางทหารที่จะคุกคามพลเรือนอิสราเอลได้อีกต่อไป และจะไม่สามารถปกครองฉนวนกาซาได้อีก ทั้งยังส่งกองกำลังทหารไปตามล่านักรบกลุ่มฮามาสที่แทรกซึมอยู่ในภาคใต้ของอิสราเอลด้วย
ขณะเดียวกันกองทัพอิสราเอลยังคงโจมตีทางอากาศเหนือฉนวนกาซาเป็นวันที่ 3 ในเช้าวันจันทร์ ที่ 9 ตุลาคม เพื่อทำลายเป้าหมายที่เป็นหน่วยงานรัฐบาลและกองทัพของฮามาสอย่างต่อเนื่อง พร้อมสั่งตัดไฟฟ้า เชื้อเพลิง และการขนส่งสินค้าไปยังฉนวนกาซา
อย่างไรก็ตาม แม้อิสราเอลสร้างความเสียหายอย่างหนักในฉนวนกาซา แต่ฮามาสยังคงโจมตีด้วยการยิงจรวดเข้าไปในเมืองอัชเคลอน ทางภาคใต้ของอิสราเอล และพุ่งเป้าการโจมตีสนามบินนานาชาติเบนกูเรียนนอกกรุงเทลอาวีฟ ขณะที่ยังมีการปะทะกันระหว่างทหารอิสราเอลและนักรบฮามาสในเมืองอัชเคลอน และ สเดร็อต
การสู้รบทำให้ยอดผู้เสียชีวิตทั้งในฝั่งอิสราเอลและปาเลสไตน์เพิ่มสูงขึ้นเกิน 1,000 รายแล้ว โดยมีในอิสราเอลมีผู้เสียชีวิตกว่า 700 ราย และผู้บาดเจ็บอีกกว่า 2,000 ราย และในฉนวนกาซามีผู้เสียชีวิตกว่า 400 ราย และผู้บาดเจ็บอีกกว่า 2,000 ราย
ด้านสื่อสหรัฐฯ รายงานอ้างแหล่งข่าวในรัฐบาลว่า อิสราเอลอาจเปิดปฏิบัติการสู้รบภาคพื้นดินในฉนวนกาซาภายใน 48 ชม. แต่นักวิเคราะห์ปาเลสไตน์ เตือนว่าหากอิสราเอลตัดสินใจบุกเข้าฉนวนกาซาจริง อาจเป็นการสู้รบที่สร้างความสูญเสียแก่ฝ่ายอิสราเอลมากกว่าฝ่ายฮามาส