ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน ขึ้นกล่าวสุนทรพจน์ต่อที่ประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ (UNGA) ที่นครนิวยอร์กของสหรัฐฯ ซึ่งเป็นการปรากฏตัวครั้งแรกในเวทียูเอ็นนับจากรัสเซียบุกยูเครนในต้นปี 2565 โดยกล่าวว่า นับจากสงครามเปิดฉากขึ้น รัสเซียพยายามใช้การขาดแคลนอาหารในตลาดโลกและพลังงานนิวเคลียร์เป็นอาวุธ
นอกจากนี้เขายังกล่าวว่า รัสเซียกำลังพยายามผลักให้โลกเข้าสู่สงครามครั้งสุดท้าย แต่ยูเครนกำลังพยายามทำทุกอย่างเพื่อให้มั่นใจได้ว่า หลังการรุกรานของรัสเซียครั้งนี้ จะไม่มีประเทศอื่นใดในโลกกล้ารุกรานประเทศอื่นอีก และรัสเซียไม่ควรมีสิทธิครอบครองอาวุธนิวเคลียร์ เขายังบอกด้วยว่า การปรับใช้อาวุธต้องถูกควบคุม อาชญากรรมสงครามต้องได้รับโทษ และผู้ยึดครองต้องถอยกลับไปยังดินแดนของตัวเอง
เซเลนสกี บอกอีกว่า รัสเซียเป็นปิศาจที่ไม่สามารถใว้ใจได้ พร้อมกับยกตัวอย่างชะตากรรมของเยฟกินี พริโกซิน หัวหน้านักรบรับจ้าง “แวกเนอร์” ของรัสเซีย และบอกให้ลองถามพริโกซินว่า ใครจะเชื่อคำสัญญาของประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูตินได้บ้าง
ขณะที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐฯ กล่าวต่อที่ประชุมก่อนหน้าในวันเดียวกัน โดยเรียกร้องให้ทั่วโลกยืนหยัดเคียงข้างยูเครนที่กำลังต่อสู้เพื่อต่อต้านการรุกรานของรัสเซีย และกล่าวว่ารัสเซียเป็นผู้รับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียวสำหรับการก่อสงครามครั้งนี้ และเป็นเพียงผู้เดียวที่จะยุติสงครามได้ทันที
ก่อนหน้านั้นเซเลนสกี กล่าวหลังเดินทางถึงนครนิวยอร์กเมื่อวันจันทร์ว่า ยูเอ็นควรชี้แจงว่า ทำไมยังให้ผู้ก่อการร้ายรัสเซียมีที่นั่งอยู่ในสหประชาชาติ