ข้อนิ้วมือที่หายไป ช่วยพิสูจน์ศพผู้นำ “แวกเนอร์”

ร่างของเยฟเกนี พริโกซินถูกดึงออกมาจากซากเครื่องบิน พร้อมกับนักบินและผู้โดยสารคนอื่นๆ อีก 9 คน เมื่อวันพุธ (23 สิงหาคม) หลังจากเครื่องบินเจ็ตส่วนตัวรุ่น "Embraer Legacy 600" ที่เขาโดยสาร ตกที่ภูมิภาคตะเวียร์ (Tver) ของรัสเซีย ขณะอยู่ในเส้นทางจากกรุงมอสโคว์ไปยังนครเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก และรายงานในเบื้่องต้นสันนิษฐานว่า เครื่องบินเกิดระเบิดก่อนตก

แอปพลิเคชั่น "Telegram channel VChK-OGPU" ของรัสเซีย รายงานว่า หนึ่งในผู้บัญชาการระดับสูงของ "PMC Wagner" เป็นคนระบุเอกลักษณ์บุคคลศพของพริโกซินที่สถานที่เก็บศพ โดยสิ่งที่ยืนยัน คือ "ข้อนิ้วมือที่หายไป"  ในสมัยที่พริโกซินอยู่ที่ "ทัณฑนิคม" เขาได้รับบาดเจ็บที่มือซ้าย ทำให้ข้อปลายนิ้วนางหายไป

นอกจากนี้ร่างของดมิทรี อุตคิน ผู้บัญชาการหมายเลข 2 ของแวกเนอร์ ได้รับการพิสูจน์เอกลักษณ์บุคคลจากรอยสัก เขาเป็นทั้งผู้ร่วมก่อตั้งแวกเนอร์, ผู้จัดการด้านโลจิสติกส์, ผู้ดูแลความปลอดภัยส่วนบุคคลและช่างภาพ 

การเผยผลการพิสูจน์เอกลักษณ์บุคคล มีขึ้นในขณะที่หน่วยข่าวกรองของสหรัฐฯ ได้ประเมินว่า สาเหตุที่เครื่องบินตกเกิดจากการระเบิดภายในเครื่องบิน แต่กระทรวงกลาโหม หรือ เพนตากอน (Pentagon) ระบุว่า ยังไม่มีหลักฐานที่ชี้ว่า สาเหตุการระเบิดเกิดจากถูกยิงด้วยขีปนาวุธชนิดพื้น-สู่-อากาศ

เจ้าหน้าที่ตะวันตกหลายคน ลงความเห็นว่า พริโกซินเป็นเป้าหมายที่เป็นไปได้อย่างยิ่ง และชี้ว่า น่าจะมีการซุกระเบิดไว้บนเครื่องบิน หรือการก่อวินาศกรรมบนเครื่องบินอย่างจงใจ แต่ก็ไม่มีใครกล้าฟันธง และไม่มีความชัดเจนว่า พริโกซินกับคนของเขาถูกสังหาร เพื่อเป็นการล้างแค้นที่เขาท้าทายอำนาจของประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน หรือไม่ 

มีสื่อรัสเซีย 2 สำนัก รายงานอ้างแหล่งวงในด้านความมั่นคงว่า ทำเนียบเครมลิน ระบุว่า มีความเป็นไปได้ว่ามีการวางระเบิด 1 หรือ 2 ลูก บนเครื่องบิน ขณะที่รายงานที่ไม่ได้รับการยืนยัน อ้างว่า ระเบิดถูกวางไว้ส่วนท้ายของเครื่องบินใกล้กับห้องน้ำ เรื่องนี้ยิ่งสนับสนุนข้อความที่คริสตินา รัสโปโปวา พนักงานต้อนรับบนเครื่องบินโพสต์ในโซเชียล มีเดียว่า เที่ยวบินของเธอต้องดีเลย์เพราะต้อง "ซ่อม" ในนาทีสุดท้าย ซึ่งเป็นไปได้ว่า ระเบิดอาจถูกนำไปซุกซ่อนไว้ในตอนนั้น แต่เรื่องนี้ก็ไม่ได้รับการยืนยัน

การประเมินของตะวันตก มีขึ้นในขณะที่ประธานาธิบดีปูติน แสดงความเสียใจไปยังครอบครัวของผู้เคราะห์ร้าย และระบุว่า "พริโกซินเคยทำสิ่งผิดพลาดอย่างมหันต์"

ก่อนหน้านี้ มีรายงานที่ไม่ได้รับการยืนยันว่า พริโกซินเดินทางโดยเครื่องบินอีกลำหนึ่ง และอยู่ในบริเวณเดียวกันตอนที่เกิดเหตุ แค่ถ้าเขาเสียชีวิตจริง เหตุการณ์นี้ได้ส่งผลกระทบที่ร้ายแรงที่สุดอย่างที่องค์กรทหารรับจ้างแห่งนี้ไม่เคยประสบมาก่อน และอาจต้องเผชิญอนาคตที่ไม่แน่นอนเพราะไร้ผู้นำ