สมาชิกสภาเนสเซ็ต ซึ่งเป็นสภาเดียวของอิสราเอล ลงมติช่วงเช้ามืดวันอังคาร (11 กรกฎาคม 2566) หลังอภิปรายข้ามคืนตั้งแต่วันจันทร์ ผ่านร่างกฎหมายปฏิรูประบบตุลาการด้วยเสียงสนับสนุน 64 เสียง และเสียงคัดค้าน 56 เสียงในการแปรญัตติรอบแรก แต่ยังต้องมีการแปรญัตติอีก 2 รอบ จึงจะมีการลงมติอนุมัติเป็นกฎหมาย
ร่างกฎหมายดังกล่าวจุดชนวนประท้วงในประเทศมานานหลายเดือนตั้งแต่ต้นปีนี้เนื่องจากถูกมองว่า มีการลิดรอนอำนาจศาลสูงสุด ซึ่งเป็นการทำลายประชาธิปไตยของประเทศ
ล่าสุดผู้ประท้วงออกมารวมตัวปิดกั้นทางหลวงสายหลักหลายสายในหลายเมืองในวันอังคาร (11 กรกฎาคม) โดยรวมถึง นครเทลอาวีฟ และเยรูซาเลม ผู้ประท้วงบางคนนอนขวางบนพื้นถนน และบางคนปาพลุแฟลร์ใส่ตำรวจ และเกิดการปะทะระหว่างผู้ประท้วงและตำรวจที่พยายามเปิดการจราจร และต้องฉีดน้ำสลายฝูงชนในบางแห่ง ขณะที่มีผู้ประท้วงถูกจับกุมเบื้องต้นแล้ว 42 คน
การประท้วงดังกล่าวจัดขึ้นภายใต้แคมเปญ “วันหยุดชะงัก” (Day of Disruption) ที่มุ่งปิดกั้นถนน และจัดการประท้วงใหญ่ที่สนามบินเบนกูเรียน ที่เป็นสนามบินหลักของประเทศ
ก่อนหน้านี้การลุกฮือประท้วงสามารถกดดันให้นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮูยอมระงับการอภิปรายร่างกฎหมายปฏิรูปตุลาการในเดือนมีนาคมเป็นการชั่วคราว หลังการหยุดงานประท้วงครั้งใหญ่อย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของประเทศ