อินเดียชี้สัญญาณไฟผิดพลาด ต้นเหตุรถไฟชนกันดับ 275 ราย

อัศวิน วาสนา รัฐมนตรีกระทรวงการรถไฟอินเดีย ลงพื้นที่ตรวจสอบจุดเกิดเหตุรถไฟ 3 ขบวนชนกันที่เมืองบาลาซอร์ ในรัฐโอริสสาในวันอาทิตย์ (4 มิถุนายน 2566) เพื่อติดตามความคืบหน้าของการเคลียร์เศษซากรถไฟ และการตรวจสอบหาสาเหตุของอุบัติเหตุรถไฟครั้งเลวร้ายอันดับ 3 ของประเทศ

เขากล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเกี่ยวข้องกับปัญหาระบบอินเตอร์ล็อกกิง อิเล็กทรอนิกส์ (electronic interlocking) หรือ ระบบบังคับสัมพันธ์ โดยระบบดังกล่าวมีการเปลี่ยนแปลง ทำให้เกิดความผิดพลาดของการแจ้งสัญญาณไฟ ส่งผลให้รถไฟโดยสารวิ่งไปผิดราง และชนกับรถไฟบรรทุกสินค้าจนตู้ขบวนโดยสารตกราง และรถไฟโดยสารอีกขบวนวิ่งเข้าชนตู้ขบวนที่ตกราง   ระบบบังคับสัมพันธ์มีหน้าที่ควบคุมให้อุปกรณ์แจ้งสัญญาณไฟเพื่อเตรียมทางสำหรับการเดินรถ สามารถทำงานได้อย่างสอดคล้องและไม่ขัดแย้งกัน เพื่อให้การเดินรถของรถไฟในแต่ละรางมีความปลอดภัย และเมื่อการเตรียมทางเรียบร้อย ระบบจะถูกล็อกเพื่อควบคุมอุปกรณ์ต่าง ๆ ไม่ให้มีการเปลี่ยนแปลงโดยไม่ตั้งใจ

นอกจากนี้รัฐมนตรี เปิดเผยด้วยว่า ขณะนี้สามารถระบุตัวบุคคลที่มีส่วนรับผิดชอบต่ออุบัติเหตุครั้งนี้แล้ว แต่ไม่ให้รายละเอียด  

ขณะที่การค้นหาและการกู้ภัยในพื้นที่เกิดเหตุเสร็จสิ้นแล้ว และเจ้าหน้าที่กำลังเคลียร์เศษซากรถไฟเพื่อให้เส้นทางรถไฟสามารถเปิดให้สัญจรได้ตามปกติภายในเช้าวันพุธ (7 มิถุนายน 2566) นอกจากนี้ทางการแจ้งลดยอดผู้เสียชีวิตจากเดิม 288 ราย เป็น 275 รายเนื่องจากมีการนับซ้ำ และระบุว่า มีผู้บาดเจ็บ 1,175 ราย ซึ่ง 793 คนออกจากโรงพยาบาลแล้ว โศกนาฏกรรมครั้งนี้เป็นอุบัติเหตุรถไฟที่มีผู้เสียชีวิตมากเป็นอันดับ 3 ของประเทศ และเป็นอุบัติเหตุครั้งเลวร้ายที่สุดในรอบ 20 ปี

ส่วนผลการสอบสวนเบื้องต้น ระบุว่า รถไฟโดยสารสาย โคโรแมนเดล เอ็กซ์เพรส ที่วิ่งจากเมืองกัลกัตตาไปยังเมืองเชนไน วิ่งออกจากทางหลักเข้าสู่รางแยกเพื่อจอดขณะวิ่งด้วยความเร็ว 128 กม./ชม. และชนกับรถไฟบรรทุกสินค้าที่จอดอยู่ ส่งผลให้ส่วนหัวรถไฟและตู้ขบวน 4-5 ตู้แรกของรถไฟโคโรแมนเดล เอ็กซ์เพรส ตกออกนอกราง และเกยทับบนตู้ขบวน 2 ตู้สุดท้ายของรถไฟโดยสารสาย ยศวันต์ปุระ-ฮาวราห์ ซูเปอร์ฟาสต์ ที่วิ่งในทิศทางตรงข้ามด้วยความเร็ว 126 กม./ชม. บนทางรถไฟหลักเส้นที่สอง ทำให้ตู้ขบวนทั้งสองตู้ตกออกนอกราง  
คณะกรรมการกำกับดูแลการรถไฟ แถลงว่า รถไฟโดยสารทั้งสองขบวนที่มุ่งหน้าเข้าสู่สถานีได้รับสัญญาณสีเขียวแสดงว่าเส้นทางปลอดภัย ภายในระยะเวลาห่างกันไม่กี่วินาทีขณะที่วิ่งด้วยความเร็วต่ำกว่า 130 กม./ชม. และควรวิ่งสวนกันบนทางหลัก 2 เส้น แต่หนึ่งในคณะกรรมการ บอกว่า ไม่พบปัญหาเกี่ยวกับระบบ interlocking แต่พบการแทรกแซงสัญญาณไฟมากกว่าเป็นความผิดพลาดของระบบ แต่ยังไม่รู้ว่าเกิดขึ้นจากการกระทำของมนุษย์ เกิดขึ้นโดยบังเอิญ เกี่ยวข้องกับสภาพอากาศ การเสื่อมสภาพ หรือความบกพร่องของการซ่อมบำรุง ซึ่งต้องรอผลการสอบสวนอย่างละเอียด