ประธานาธิบดีเรเจป ไตยิบ แอร์โดอัน สาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีสมัยที่ 3 ต่อที่ประชุมสภาแห่งชาติในวันเสาร์ (3 มิถุนายน 2566) หลังได้รับเลือกตั้งด้วยคะแนนเสียง 52.2% ในการเลือกตั้งรอบสองเมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2566 ผู้นำวัย 69 ปี กล่าวปฏิญาณว่า ด้วยเกียรติและความซื่อสัตย์ เขาจะรักษาการดำรงอยู่และเอกราชของประเทศตุรกี
หลังจากนั้นเขาแถลงครั้งแรกในพิธีฉลองรับตำแหน่งที่ทำเนียบประธานาธิบดี ที่มีผู้นำและเจ้าหน้าที่ระดับสูงจาก 78 ประเทศ และองค์กรระหว่างประเทศ รวมถึง เยนส์ สโตลเตนเบิร์ก เลขาธิการองค์การสนธิสัญญาป้องกันแอตแลนติกเหนือ (นาโต) และประธานาธิบดีนิโคลัส มาดูโร ของเวเนซุเอลา เข้าร่วมด้วย
ในวันเดียวกันประธานาธิบดีแอร์โดอันประกาศแต่งตั้งคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ ที่มีการเปลี่ยนตัวรัฐมนตรีเกือบทั้งหมด ยกเว้นตำแหน่งรัฐมนตรีสาธารณสุขและรัฐมนตรีวัฒนธรรม และคาดว่า รัฐบาลชุดนี้จะดำเนินนโยบายเศรษฐกิจที่ยึดแนวทางดั้งเดิมมากขึ้น เนื่องจากเขาแต่งตั้ง เมห์เม็ต ซิมเซ็ก อดีตรัฐมนตรีคลังและอดีตรองนายกรัฐมนตรี เป็นรัฐมนตรีคลังและการเงิน และแต่งตั้งเซฟเด็ต ยิลมาซ อดีตรัฐมนตรีกระทรวงการพัฒนา เป็นรองประธานาธิบดี และนักวิเคราะห์คาดว่า อาจมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า ซึ่งจะเป็นการปรับเปลี่ยนนโยบายของแอร์โดอัน ที่เน้นคงอัตราดอกเบี้ยระดับต่ำอย่างยาวนาน แม้อัตราเงินเฟ้อพุ่งสูง
นอกจากนี้แอร์โดอันแต่งตั้งฮาคัน ฟิดาน ผู้อำนวยการสำนักข่าวกรอง เป็นรัฐมนตรีต่างประเทศคนใหม่ แทนเมฟลุต คาวูโซกลู ที่ดำรงตำแหน่งนี้มาตั้งแต่ปี 2557
และการได้รับอาณัติครั้งใหม่จากประชาชนจะทำให้แอร์โดอันสานต่อนโยบายที่เผด็จการมากยิ่งขึ้นและจะสร้างความแตกแยกในประเทศมากขึ้น และเพิ่มความเข็มแข็งของตุรกีในฐานะมหาอำนาจทางการทหารระดับภูมิภาค
ชัยชนะของแอร์โดอันที่ทำให้เขาสามารถกุมอำนาจบริหารในตุรกีเข้าสู่ทศวรรษที่ 3 เป็นผลการเลือกตั้งที่พลิกความคาดหมายของโพลล์ส่วนใหญ่ ที่คาดว่า เขาอาจพ้นจากอำนาจ หลังเผชิญกระแสความไม่พอใจอย่างมากจากวิกฤตเศรษฐกิจ และความล่าช้าในการบรรเทาภัยพิบัติแผ่นดินไหวครั้งวิปโยคเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ที่มีผู้เสียชีวิตมากกว่า 50,000 ราย
แอร์โดอันเริ่มดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีในปี 2546 และได้รับเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีในปี 2557 และได้รับเลือกตั้งสมัยที่สองในปี 2561 หลังมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญยกเลิกตำแหน่งนายกรัฐมนตรี และเปลี่ยนแปลงสู่ระบบประธานาธิบดี โดยรวบอำนาจบริหารไว้ทั้งหมดที่ประธานาธิบดี