svasdssvasds
เนชั่นทีวี

ต่างประเทศ

หญิงสิงคโปร์ถูกมิจฉาชีพหลอกขายทุเรียนเงินเก็บเกลี้ยงบัญชี

17 พฤษภาคม 2566
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

หญิงชาวสิงคโปร์คนหนึ่งต้องสูญเสียเงินเก็บทั้งชีวิต เพราะมิจฉาชีพหลอกขายทุเรียนสายพันธุ์อันดับ 1 ของมาเลเซีย จากร้านที่โพสต์ขายในเฟซบุ๊กในราคาที่ถูกกว่าท้องตลาด กว่าจะรู้ตัวก็เหลือเงินติดบัญชีเพียง 5 ดอลลาร์

หนังสือพิมพ์ภาษาจีน "เหลียนเหอ เส่าเป้า" รายงานว่า หญิงชาวสิงคโปร์ที่เปิดเผยเพียงว่า "นางซู่" เห็นโฆษณาขายทุเรียนยอดนิยมทางเฟซบุ๊ก ในราคาที่ถูกกว่าครึ่งของราคาที่ขายตามท้องตลาด โดยพันธุ์ "เหมาซานหวาง" หรือ "มูซังคิง" หรือ D197 ที่เป็นที่นิยมในสิงคโปร์กับมาเลเซีย ราคากิโลกรัมละ 4.50 ดอลลาร์ (153 บาท) กับสายพันธุ์สุลต่าน (Sultan) หรือ D24 ราคากิโลกรัมละ 2.25 ดอลลาร์ (77 บาท) จึงได้ติดต่อขอซื้อ โดยหารู้ไม่ว่าเป็น "มิจฉาชีพ" กว่าจะรู้ตัวก็พบว่าเงินที่เก็บออมมาทั้งชีวิต 37,400 ดอลลาร์ (1,277,000 บาท) เหลือติดบัญชีแค่ 5 ดอลลาร์ (170 บาท) 

หญิงสิงคโปร์ถูกมิจฉาชีพหลอกขายทุเรียนเงินเก็บเกลี้ยงบัญชี

สื่อสิงคโปร์ สเตรท ไทม์ส รายงานว่าเมื่อเดือนธันวาคมราคาทุเรียนค่อนข้างสูง โดยทุเรียนมูซังคิงราคากิโลกรัมละ 16 ดอลลาร์ (540 บาท) ส่วน D24 กิโลกรัมละ 12 ดอลลาร์ (410 บาท) เมื่อเห็นโฆษณาชวนเชื่อในเฟซบุ๊กชื่อ "TMZ Fresh" ทำให้นางซู่วัย 50 ปี รีบติดต่อไปสั่งซื้อ เมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม 2566 และขอกำหนดส่งมอบ ส่วนผู้ขายที่เป็นมิจฉาชีพได้ขอเบอร์โทรศัพท์ของเธอไว้ และบอกว่าทางทีมดูแลลูกค้าจะติดต่อกลับไป 

เส่าเป้ารายงานว่า หลังจากนั้นไม่นานนางซู่ได้รับการติดต่อจากผู้ชายที่พูดสำนียงมาเลย์ แนะนำให้เธอติดตั้งแอปพลิเคชัน  "E2 Mall" ในโทรศัพท์มือถือ และป้อนรายละเอียดส่วนตัวของเธอเพื่อรับการเป็นสมาชิก แถมยังหว่านล้อมว่าจะแถมทุเรียนให้จำนวนหนึ่งอีกด้วย เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม 2566 และ มิจฉาชีพได้ล่อลวงจนเธอใส่รายละเอียดของข้อมูลสำคัญของบัญชีธนาคารลงไปในแอปพลิเคชัน โดยไม่รู้ตัวว่า "เงินหายไปจากบัญชีเกือบหมด" จนกระทั่งล็อกอินเข้าแอปพลิเคชัน PayNow เพื่อจะซื้ออาหารในวันรุ่งขึ้น 

หญิงสิงคโปร์ถูกมิจฉาชีพหลอกขายทุเรียนเงินเก็บเกลี้ยงบัญชี

นางซู่พบว่าเงินถูกโอนจากบัญชีโดยไม่ได้รับอนุญาตถึง 2 ครั้ง เมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม 2566 ครั้งแรกจำนวน 20,695 ดอลลาร์ และครั้งที่สอง 16,700 ดอลลาร์ และยังพบด้วยว่ามิจฉาชีพได้ปิดเฟซบุ๊กหนี และการติดต่อทาง Whatsapp ก็ทำไม่ได้ 

นางซู่บอกว่าเงินในบัญชีเป็นเงินเก็บทั้งชีวิตของเธอ เธอได้แจ้งความและแจ้งไปที่ธนาคารแต่ก็สายเกินไป ตำรวจยืนยันว่าจะสืบสวนและติดตามเรื่องนี้ ส่วน นางซู่เชื่อว่ามิจฉาชีพได้ใช้วิธีเข้าไปควบคุมโทรศัพท์ของเธอผ่าน "remote" เพื่อจัดการโอนเงิน และเธอจำได้ว่าโทรศัพท์ของเธอร้อนมากหลังจากเธอกรอกข้อมูลธนาคารเข้าไปในแอปของมิจฉาชีพ ตอนนี้เธอซื้อโทรศัพท์และเปลี่ยนหมายเลขใหม่ เพราะไม่อยากให้มิจฉาชีพติดต่อเธอได้อีกและไม่อยากตกเหยื่ออีกแล้ว พร้อมกับยอมรับว่าเป็นการซื้อทุเรียนที่แพงมากจริง ๆ

หญิงสิงคโปร์ถูกมิจฉาชีพหลอกขายทุเรียนเงินเก็บเกลี้ยงบัญชี

logoline