Intergovernmental Authority on Development (IGAD) ซึ่งเป็นกลุ่มการค้า 8 ประเทศในแอฟริกา ยื่นข้อเสนอให้ขยายเวลาหยุดยิงอีก 72 ชม. ก่อนที่ข้อตกลงหยุดยิงนาน 72 ชม. ที่ได้รับการไกล่เกลี่ยจากสหรัฐฯ และชาติแอฟริกา กำลังจะสิ้นสุดในคืนวันพฤหัสบดี (27 เม.ย.) และเบื้องต้นผู้บัญชาการกองทัพซูดานเห็นด้วยกับเรื่องนี้ แต่กองกำลัง RSF ยังไม่ตอบตกลง
อย่างไรก็ตามกองกำลังคู่ขัดแย้งยังคงเดินหน้าต่อสู้กันในหลายพื้นที่ของประเทศตลอด 3 วันมานี้ และกองทัพยังคงโจมตีทางอากาศถล่มฐานของ RSF ในกรุงคาร์ทูม และหนึ่งในจุดที่มีการปะทะเลวร้ายที่สุด คือ เมืองออมดูร์มาน ใกล้กับกรุงคาร์ทูม มีเสียงปืนและการโจมตีทางอากาศหลายระลอก
กระทรวงสาธารณสุขซูดาน รายงานว่า การสู้รบที่เริ่มขึ้นเมื่อวันที่ 15 เม.ย. จนถึง 25 เม.ย. ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 512 ราย และผู้บาดเจ็บอีก 4,193 ราย โดยเฉพาะในกรุงคาร์ทูม มีผู้เสียชีวิต 169 ราย และผู้บาดเจ็บ 2,403 ราย
ขณะที่สถานการณ์ด้านมนุษยธรรมเลวร้ายลงจนอาจกลายเป็นหายะ ขณะนี้ประชาชนกำลังขาดแคลนทั้งอาหาร เชื้อเพลิง และยา นอกจากนี้ชาวซูดานราว 20,000 คน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงและเด็ก ทยอยอพยพออกจากแคว้นดาร์ฟูร์ทางภาคตะวันตกไปยังหลายจังหวัดทางภาคตะวันออกของชาด จนเกิดวิกฤตผู้อพยพในชาด แต่คาดว่า จะเพิ่มถึง 200,000 คน
บางชาติกำลังทำงานแข่งกับเวลาเพื่อเร่งอพยพพลเมืองออกจากซูดานก่อนข้อตกลงหยุดยิงจะสิ้นสุดลง โดยรัฐบาลฝรั่งเศส เปิดเผยว่า สามารถอพยพคนออกจากซูดานเพิ่มขึ้น และจนถึงขณะนี้ช่วยลำเลียงคนออกมาได้ 936 ซึ่งมีทั้งพลเมืองชาวฝรั่งเศสและชาวต่างชาติ ส่วนจีน เปิดเผยว่า อพยพพลเมืองได้เกือบ 1,300 คน
เจมส์ เคลฟเวอร์ลี รัฐมนตรีต่างประเทศอังกฤษ แนะนำให้พลเมืองรีบอพยพออกจากประเทศโดยทันทีในช่วงก่อนที่การหยุดยิงจะสิ้นสุดลง และบอกว่า อาจไม่สามารถปฏิบัติการอพยพพลเมืองออกจากซูดานเมื่อข้อตกลงหยุดยิงสิ้นสุดลง ที่ผ่านมาอังกฤษอพยพคนได้กว่า 530 คนด้วย 6 เที่ยวบิน โดยใช้เครื่องบินทหารอพยพคนไปที่ไซปรัส ก่อนเดินทางต่อไปลอนดอน
ส่วนสหรัฐฯ กำลังถูกวิจารณ์จากการอพยพเพียงเจ้าหน้าที่สถานทูตเกือบ 70 คน ออกจากซูดานด้วยเฮลิคอปเตอร์ภายใต้ปฏิบัติการของหน่วยคอมมานโดซีลเมื่อวันเสาร์ (22 เม.ย.) และเตือนให้พลเมืองชาวอเมริกันราว 16,000 คน เข้าใจว่า อาจไม่มีปฏิบัติการอพยพพวกเขาออกมา โดยบอกว่า สถานการณ์ที่ไม่แน่นอนและการปิดสนามบินในคาร์ทูม ทำให้ไม่สามารถดำเนินการอพยพได้อย่างปลอดภัย
ชาวอเมริกันต้องหาทางออกจากซูดานผ่านเมืองท่าพอร์ตซูดานไปยังซาอุดิอาระเบีย หรือข้ามพรมแดนไปอียิปต์ หรือขึ้นเที่ยวบินอพยพของประเทศอื่น ทำให้บางครอบครัวไม่พอใจ และวิจารณ์ว่า รัฐบาลไม่ให้ความสำคัญกับสุขภาพและความปลอดภัยของพลเมือง และกระทรวงต่างประเทศไร้ประโยชน์