
ข้อมูลเหล่านี้ได้มาจากการเปิดเผยของเว็บไซต์ Distributed Denial of Secrets เป็นการรวมตัวของกลุ่มนักข่าวที่ไม่แสวงหาผลกำไร โดยมุ่งหวังเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารให้สาธารณชนได้รับรู้กันแบบฟรีๆ และส่วนใหญ่เป็นข่าวลับหรือข่าวรั่ว โดยไม่อิงเข้ากับกลุ่มการเมือง ธุรกิจห้างร้าน หรือบุคคลใดใดเลย
Distributed Denial of Secrets ประเมินว่า ThaiBev, Heineken และ Carlsberg ซึ่งขยายเครือข่ายมาในเมียนมา อาจต้องจ่ายเงินภาษีสูงถึง 2 แสน 5 หมื่นล้านจ๊าด หรือกว่า 5 พันล้านบาท ต่อปี ให้กับรัฐบาลทหารเมียนมา
ThaiBev ขยายเครือข่ายในเมียนมาโดยใช้ชื่อว่า Grand Royal Group เป็นผู้ที่เสียภาษีหนักที่สุดในกลุ่มบริษัทที่ดำเนินธุรกิจเครื่องดื่มในเมียนมา โดยเมื่อไตรมาสสี่ของปี 2021 ก็จ่ายเงินภาษีสินค้าพิเศษให้กับรัฐบาลทหารเมียนมาสูงเกือบ 2 หมื่น 6 พันล้านจ๊าด หรือประมาณ 5 ร้อยล้านบาท จากบทวิเคราะห์ของ Distributed Denial of Secrets
นอกจากภาษีสินค้าพิเศษแล้ว ThaiBev, Heineken และ Carlsberg ยังต้องจ่ายภาษีการค้าและภาษีรายได้ให้กับรัฐบาลทหารเมียนมาอีกด้วย
Grand Royal Group International ก่อตั้งเมื่อปี 1995 ภายใต้การดูแลของบริษัท Distillery Company Limited ดำเนินการโดย Aung Moe Kyaw ลูกเขยของนายพล Thein Tun อดีตคนในรัฐบาลทหารเมียนมา แล้วพอปี 2017 ThaiBev ก็เข้ามาถือหุ้น Grand Royal Group International ไป 75% ส่งผลให้คณะกรรมการบริษัทในขณะนี้ ส่วนใหญ่เป็นคนไทย แต่ Aung Moe Kyaw ก็ยังนั่งเป็นกรรมการอยู่ด้วยเช่นกัน ผลิตวิสกี้ ยิน และวอดก้า วางขายในเมียนมา
ส่วน Myanma Golden Star Group ของนายพล Thein Tun ซึ่งเขาดูแลอยู่พร้อมด้วยบุตรชายและบุตรสาว จนกระทั่งเสียชีวิตไปเมื่อปี 2022 ก็เป็นหุ้นส่วนกับ Carlsberg ซึ่งยังผลิตเบียร์ของตัวเองภายใต้แบรนด์ Tuborg, Yoma และ Black Eagle วางขายในเมียนมา
กลุ่มนักเคลื่อนไหว Justice For Myanmar (JFM) ระบุว่า เงินภาษีก้อนโตที่บริษัทเครื่องดื่มต่างชาติเสียให้กับรัฐบาลทหารเมียนมา เหมือนเป็นการสนับสนุนทางอ้อมให้พวกเขานำไปซื้อหาอาวุธมาเข่นฆ่าประชาชน รวมถึงการนำไปซื้อเชื้อเพลิง จ่ายค่าแรงทหาร ซึ่งเชื้อเพลิงก็นำมาใช้กับปฏิบัติการทางอากาศโจมตีผู้คนไม่เลือกหน้า ถือเป็นการก่ออาชญากรรมสงคราม และอาชญากรรมต่อมวลมนุษยชาติ
JFM จึงเรียกร้องบริษัทเครื่องดื่มจากต่างชาติให้ทำตามคำแนะนำของรัฐบาลเอกภาพแห่งชาติ ซึ่งเป็นรัฐบาลพลเรือนพลัดถิ่นของเมียนมา และแสดงความรับผิดชอบต่อสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศ ด้วยการเลิกจ่ายภาษีให้รัฐบาลทหารเมียนมา
แหล่งข่าวที่ใกล้ชิดกับสำนักงานพลาธิการกองทัพในกรุงเนปิดอว์ ระบุว่า Grand Royal Group International ซึ่ง ThaiBev ถือหุ้นสูงสุด ยังได้บริจาคเงินกว่า 1 พันล้านจ๊าด หรือกว่า 13 ล้านบาท ให้กับรัฐบาลทหารเมียนมา ใช้ในการจัดงานเฉลิมฉลองเนื่องในวันกองทัพ เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา
สำหรับประวัติของนายพล Thein Tun นั้น เขาเป็นที่รู้จักกันดีในฐานะเป็นผู้นำเป๊ปซี่เข้ามาขายในเมียนมาเมื่อช่วงต้นทศวรรษที่ 1990 ภายใต้การดูแลของบริษัท Myanmar Golden Star Company เขาเสียชีวิตเมื่อเดือนเมษายน ปี 2022 ด้วยวัย 85 ปี ทั้งยังเป็นผู้ก่อตั้งมูลนิธิ Tun Foundation และธนาคารพาณิชย์ Tun Commercial Bank รวมถึงเป็นเจ้าของหนังสือพิมพ์ Myanmar Times ซึ่งเลิกกิจการไปแล้วในปัจจุบัน
ลูกชายของเขาเป็นประธาน Mandalay Novotel Hotel และ LP Holding Group ส่วนลูกชายอีกคนเป็นกรรมการผู้จัดการบริษัท Myanmar Golden Star (MGS) Beverages ซึ่งมีบริษัทของเกาหลีใต้เป็นหุ้นส่วนคือ LOTTE Chilsung Beverage ในเครือของ LOTTE Corporation ผลิตน้ำอัดลม Pepsi, 7UP, Mirinda ตลอดจนเครื่องดื่มชูกำลังและน้ำดื่มบรรจุขวดอีกหลายยี่ห้อในเมียนมา