svasdssvasds
เนชั่นทีวี

ต่างประเทศ

ทั่วโลกใช้จ่ายทางทหารพุ่งสูงสุด 76.8 ล้านล้านบาท

24 เมษายน 2566
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

ทั่วโลกมียอดใช้จ่ายทางทหารสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 76.8 ล้านล้านบาท ในปี 2565 สืบเนื่องจากสงครามระหว่างรัสเซียและยูเครน ทำให้ยอดใช้จ่ายทางทหารในยุโรปพุ่งสูงสุดในรอบ 30 ปี

สถาบันวิจัยสันติภาพระหว่างประเทศสต็อกโฮล์ม (SIPRI)  เผยแพร่รายงานประจำปีเกี่ยวกับการใช้จ่ายทางทหารทั่วโลกในวันจันทร์ (24 เม.ย.) ระบุว่า ยอดใช้จ่ายทางทหารทั่วโลกในปี 2565 มีมูลค่า 2.24 ล้านล้านดอลลาร์ (76.8 ล้านล้านบาท) ซึ่งเพิ่มสูงขึ้นเป็นปีที่ 8 ติดต่อกัน  และเพิ่มขึ้น 3.7%  จากปี 2564 ประเทศที่มียอดใช้จ่ายมากที่สุด 3  อันดับแรก คือ สหรัฐฯ จีน และรัสเซีย คิดเป็นสัดส่วน 56% ของทั้งโลก

นักวิจัยอาวุโสของ SIPRI กล่าวว่า “การเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องของยอดใช้จ่ายทางทหารทั่วโลกในช่วงหลายปีนี้ เป็นสัญญาณว่า เรากำลังอยู่ในโลกที่ไม่มั่นคงปลอดภัยเพิ่มขึ้น”  และแต่ละประเทศเพิ่มความแข็งแกร่งของกองทัพเพื่อตอบสนองต่อสภาพแวดล้อมด้านความมั่นคงที่เลวร้ายลง และไม่เห็นว่าจะพัฒนาดีขึ้นในอนาคตอันใกล้

นอกจากนี้นักวิจัยอีกคน บอกว่า แม้รัสเซียเปิดฉากสงครามในยูเครนในเดือนก.พ. 2565 ซึ่งกระทบต่อการตัดสินใจใช้จ่ายทางทหารในปีเดียวกัน แต่ความกังวลต่อการรุกรานจากรัสเซียมีมาตั้งแต่รัสเซียผนวกไครเมียของยูเครนเข้าเป็นส่วนหนึ่งเมื่อปี 2557 แล้ว

การซ้อมรบร่วมระหว่างทหารโปแลนด์และทหารนาโตในวันที่ 17 เม.ย. 2566

ทหารยูเครนฝึกซ้อมการใช้รถลำเลียงพลหุ้มเกราะ APC ในภูมิภาคบักห์มุต เมื่อวันที่ 6 เม.ย. 2566 รายงานฉบับล่าสุด ระบุว่า ยุโรปมียอดใช้จ่ายเพิ่มขึ้น 13% ซึ่งเพิ่มขึ้นมากที่สุดในรอบ 30 ปี  ประเทศเพื่อนบ้านของรัสเซีย หรือ เคยเป็นส่วนหนึ่งของสหภาพโซเวียต ล้วนมียอดใช้จ่ายทางทหารเพิ่มสูงขึ้นอย่างมาก โดยฟินแลนด์มียอดใช้จ่ายสูงขึ้นถึง 36% และลิทัวเนีย 27% 

ส่วนยูเครนมียอดใช้จ่ายทางทหารเพิ่มสูงขึ้นกว่า 6 เท่า เป็น 44,000 ล้านดอลลาร์ ในปี 2565 ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นสูงสุดในปีเดียวของประเทศหนึ่งประเทศใดเท่าที่เคยบันทึกสถิติของ SIPRI และเมื่อเทียบสัดส่วนยอดใช้จ่ายทางทหารต่อมูลค่าผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) พบว่า ยูเครนมียอดใช้จ่ายทางทหารคิดเป็น 34% ของจีดีพีในปี 2565 เมื่อเทียบกับเพียง 3.2% ในปี 2564

ขณะที่รัสเซียมียอดใช้จ่ายทหารเพิ่มขึ้น 9.2% เป็น 86,400 ล้านดลลาร์ ในปี 2565 หรือคิดเป็นสัดส่วน 4.1% ของจีดีพี  เพิ่มขึ้นจากสัดส่วน 3.7% ในปี 2564

ขีปนาวุธ อิสกันเดอร์ ของรัสเซีย ในงานแสดงด้านเทคนิคและการทหารนอกกรุงมอสโก ปี 2565

ทหารสหรัฐฯ ยิงขีปนาวุธต่อต้านรถถัง (Javelin) ระหว่างซ้อมรบร่วมกับทหารฟิลิปปินส์เมื่อวันที่ 13 เม.ย. 2566 รายงานระบุด้วยว่า สหรัฐฯ ยังคงเป็นประเทศที่มียอดใช้จ่ายทางทหารมากที่สุดโลก 877,000 ล้านดอลลาร์ในปี 2565 ซึ่งเพิ่มขึ้น 0.7% หรือราว 30 ล้านล้านบาท และคิดเป็นสัดส่วน 39% ยอดใช้จ่ายทางทหารของทั้งโลก  โดยตัวเลขเพิ่มสูงขึ้นจากการให้ความช่วยเหลือทางการทหารแก่ยูเครนในระดับที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน รวม 19,900 ล้านล้านดอลลาร์ ในปี 2565

จีนยังเป็นประเทศที่มียอดใช้จ่ายทางทหารมากเป็นอันดับ 2 ของโลกรวมมูลค่า 292,000 ล้านดอลลาร์ มากเป็นอันดับ 2 ของโลก เพิ่มขึ้น 4.2% จากเมื่อปี 2564 และเป็นการเพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นปีที่ 28 ติดต่อกัน

และญี่ปุ่นมียอดใช้จ่ายทางทหาร 46,000 ล้านดอลลาร์ ในปี 2565 เพิ่มขึ้น 5.9% จากปี 2564 ซึ่งเป็นยอดใช้จ่ายสูงที่สุดนับตั้งแต่ปี 2503

เรือรบจีนซ้อมรบใกล้มณฑลฝูเจี้ยน ใกล้ไต้หวันเมื่อวันที่ 8 เม.ย. 2566
ทั้งจีนและญี่ปุ่น ทำให้ยอดใช้จ่ายทางทหารในเอเชียและโอเชียเนีย เพิ่มขึ้นเป็น 575,000 ล้านดอลลาร์ ซึ่งเพิ่มขึ้น 2.7%  และยอดใช้จ่ายของภูมิภาคนี้เพิ่มขึ้นต่อเนื่องนับตั้งแต่ปี 2532

ความตึงเครียดในเอเชียตะวันออก มีปัจจัยจากความขัดแย้งหลายเรื่อง เช่น ไต้หวัน ทะเลจีนใต้ หมู่เกาะพิพาทระหว่างจีนและญี่ปุ่น และหมู่เกาะพิพาทระหว่างญี่ปุ่นและรัสเซีย

ส่วนอินเดียใช้จ่ายทางทหารมากเป็นอันดับ 4 ของโลก มูลค่า 81,400 ล้านดอลลาร์ในปี 2565 และซาอุดิอาระเบียอยู่ในอันดับ 5 มูลค่า 75,000 ล้านดอลลาร์

logoline