ระบบเตือนภัย “J-Alert” ของญี่ปุ่น ส่งข้อความแจ้งเตือนภัยฉุกเฉินแก่ประชาชนบนเกาะฮอกไกโดทางตอนเหนือของประเทศผ่านโทรศัพท์มือถือและทางโทรทัศน์ในเช้าวันพฤหัสบดี (13 เม.ย.) แนะนำให้ประชาชนหาที่กำบังทันที และอยู่ภายในอาคาร สืบเนื่องจากเกาหลีเหนือยิงขีปนาวุธครั้งใหม่ และอาจมีเศษชิ้นส่วนขีปนาวุธตกใกล้เกาะฮอกไกโด นอกจากนี้มีเสียงไซเรนเตือนภัยการโจมตีทางอากาศด้วย
โฆษกรัฐบาล แถลงชี้แจ้งว่า การเตือนภัยดังกล่าวคำนึงถึงความปลอดภัยของพลเมืองเป็นอันดับแรก และเป็นการตัดสินใจที่เหมาะสม และไม่ได้เป็นความผิดพลาด เขาระบุด้วยว่า ขีปนาวุธของเกาหลีเหนือหายไปจากจอเรดาร์ของญี่ปุ่นทันทีหลังการตรวจจับได้ และผลวิเคราะห์ต่อมาพบว่า ไม่มีความเป็นไปได้ที่ขีปนาวุธจะตกในอาณาเขตของญี่ปุ่น จึงยกเลิกการแจ้งเตือนในอีก 20 นาทีต่อมา
นอกจากนี้รถไฟทุกขบวนในจังหวัดฮอกไกโดหยุดวิ่งชั่วคราว เพื่อตรวจสอบความปลอดภัยของเส้นทางรถไฟว่า ได้รับความเสียหายจากขีปนาวุธของเกาหลีเหนือหรือไม่ และระบบขนส่งอื่น ๆ เช่น รถโดยสารและรถไฟใต้ดินหยุดวิ่งชั่วคราวเช่นกัน แต่กลับมาให้บริการหลังการยกเลิกเตือนภัย
ขณะที่กองทัพเกาหลีใต้ รายงานว่า เกาหลีเหนือยิงทดสอบขีปนาวุธพิสัยกลาง หรือ พิสัยไกล ซึ่งอาจเป็นรุ่นใหม่ที่ใช้เชื้อเพลิงชนิดแข็ง จากกรุงเปียงยางเมื่อเวลาราว 7.23 น. และเคลื่อนที่ได้ไกลเกือบ 1,000 กม. ก่อนตกลงสู่ทะเล โดยเป็นไปได้ว่า เกาหลีเหนือยิงขีปนาวุธจากสนามบินใกล้กรุงเปียงยาง ซึ่งเป็นสถานที่ทดสอบขีปนาวุธสำคัญสำหรับการยิงขีปนาวุธขนาดใหญ่ตั้งแต่ปี 2560
โฆษกรัฐบาลญี่ปุ่น ระบุว่า การกระทำของเกาหลีเหนือเป็นสิ่งที่ไม่อาจยอมรับได้อย่างสิ้นเชิง และฐบาลได้ยื่นประท้วงอย่างรุนแรงต่อเกาหลีเหนือผ่านสถานทูตญี่ปุ่นในกรุงปักกิ่งของจีนแล้ว โยชิมาสะ ฮายาชิ รัฐมนตรีต่างประเทศ ยังกล่าวด้วยว่า การยิงขีปนาวุธของเกาหลีเหนือซ้ำแล้วซ้ำเล่าเป็นภัยคุกคามร้ายแรงต่อความมั่นคงของญี่ปุ่น
นอกจากนี้โฆษกสภาความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐฯ เตือนว่า รัฐบาลจะใช้มาตรการที่จำเป็นทั้งหมดเพื่อรับประกันความมั่นคงแก่พันธมิตรสำคัญ ได้แก่ ญี่ปุ่นและเกาหลีใต้