svasdssvasds
เนชั่นทีวี

ต่างประเทศ

อีลอน มัสก์ และผู้นำธุรกิจไฮเทคอื่นๆ เรียกร้องให้หยุดแข่งพัฒนาเอไอ

30 มีนาคม 2566
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

ผู้นำธุรกิจไฮเทคชื่อดังของโลกบางส่วน ออกมาเรียกร้องให้ห้องทดลองเอไอ หยุดการฝึกระบบเอไออย่างน้อย 6 เดือน เพราะการแข่งกันพัฒนาเอไอที่ไม่สามารถควบคุมผลลัพธ์ได้ อาจนำไปสู่ความเสี่ยงต่อสังคมและมวลมนุษยชาติ

บรรดาผู้นำธุรกิจไฮเทค  ศาสตราจารย์และนักวิจัยหลายสิบคน โดยมี อีลอน มัสก์ รวมอยู่ในนั้นด้วย ร่วมลงนามจดหมายเปิดผนึก ได้รับการตีพิมพ์โดยสถาบันฟิวเจอร์ ออฟ ไลฟ์  องค์กรไม่แสวงหาผลกำไรที่สนับสนุนโดยมัสก์ 

จดหมายเรียกร้องให้หยุดพัฒนาเอไอชั่วคราว มีขึ้นเพียง 2 สัปดาห์ หลังบริษัท OpenAI ประกาศเปิดตัว GPT-4 เป็นเวอร์ชั่นล่าสุดของเอไอแชทบ็อท ChatGPT ซึ่งกำลังได้รับการกล่าวขวัญถึงในขณะนี้ 

จากการทดสอบและสาธิตการใช้งาน พบว่า เวอร์ชั่นล่าสุดนี้สามารถร่างสำนวนคดี  นำไปใช้สอบในระบบที่ได้มาตรฐาน และออกแบบเว็บไซต์สำหรับองค์กรจากการร่างภาพลายเส้น

จดหมายระบุให้ทุกฝ่ายควรหยุดการพัฒนาระบบเอไอ ที่ทรงอานุภาพมากกว่า GPT-4  และมองว่า กลุ่มผู้เชี่ยวชาญอิสระควรร่วมกันจัดทำสนธิสัญญาและนำออกใช้เพื่อให้การใช้งานเอไอเป็นไปอย่างปลอดภัยจริงๆ

เนื้อความในจดหมายอ้างว่า ความก้าวหน้าของเอไออาจก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างลึกซึ้งในประวัติศาสตร์ของสิ่งมีชีวิตบนโลก  แต่โชคร้ายที่ทุกฝ่ายยังไม่คิดจะวางแผนหรือจัดการเรื่องนี้    

อีลอน มัสก์ และผู้นำธุรกิจไฮเทคอื่นๆ เรียกร้องให้หยุดแข่งพัฒนาเอไอ อีลอน มัสก์ และผู้นำธุรกิจไฮเทคอื่นๆ เรียกร้องให้หยุดแข่งพัฒนาเอไอ

ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ยังคงเห็นห้องทดลองเอไอพากันแข่งพัฒนาและติดตั้งระบบเอไอที่ทรงอานุภาพมากขึ้น ทั้งที่คนที่พัฒนาเองก็ยังไม่สามารถเข้าใจ คาดเดา หรือ ควบคุมได้อย่างจริงจัง  และถ้ายังไม่มีการหยุดในเรื่องนี้  จดหมายฉบับนี้เสนอให้รัฐบาลควรยื่นมือเข้ามาจัดการ

ChatGPT ได้รับความสนใจอย่างมากเมื่อปีที่แล้ว ก่อให้เกิดการแข่งขันในกลุ่มบริษัทเทคโนโลยีเพื่อพัฒนาและติดตั้งเอไอในผลิตภัณฑ์ของตนบ้าง  โดยมีไมโครซอฟท์และกูเกิ้ลเป็นผู้นำเทรนด์  แต่ไอบีเอ็ม อเมซอน ไป่ตู้ และเทนเซนต์ ก็กำลังพัฒนาด้วยเช่นกัน  ทั้งยังมีพวกสตาร์ทอัพ หรือ บริษัทเทคโนโลยีเกิดใหม่จำนวนมาก ร่วมผสมโรงเข้าไปด้วย

ผู้เชี่ยวชาญเอไอจึงเริ่มวิตกมากขึ้นว่า เอไออาจตอบโต้ด้วยข้อมูลที่อคติ  แพร่กระจายข้อมูลแบบผิดๆ และกระทบกับความเป็นส่วนตัวของผู้บริโภค  อีกทั้งยังก่อให้เกิดคำถามตามมาว่า เอไออาจทำลายอาชีพต่างๆ ช่วยให้เด็กโกงการสอบ  และกระทบกับสัมพันธภาพของมนุษย์  

ซึ่งปัจจุบัน ก็มีหน่วยงานของรัฐบางแห่งในจีน สหภาพยุโรป และสิงคโปร์ แนะนำให้ใช้กรอบธรรมาภิบาลเอไอในขั้นเบื้องต้น  อีลอน มัสก์ และผู้นำธุรกิจไฮเทคอื่นๆ เรียกร้องให้หยุดแข่งพัฒนาเอไอ


 

logoline