ปลายทศวรรษ 1990 แฮร์รี่ ซู เจ้าของภัตตาคารได้เปิดธุรกิจในเมืองแคนส์ (Cairns) ที่กลายเป็นตลาดเกิดใหม่สำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ซูบอกว่านักท่องเที่ยวจากจีนแผ่นดินใหญ่คือกุญแจสำคัญ และเขาเองก็เคยไปจีนเกือบ 30 ครั้ง และไปพร้อม ๆ กับผู้ประกอบธุรกิจทัวร์อื่น ๆ เพื่อสร้างสายสัมพันธ์และทำให้ชาวจีนรู้สึกด้วยว่า เมืองแคนส์ไม่ใช่แค่ส่วนหนึ่งของควีนแลนด์หรือออสเตรเลีย แต่เป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวชาวจีนด้วย
จุดขายก็คือ Great Barrier Reef ไปจนถึงป่าฝนและสัตว์ป่า ซึ่งหนึ่งในบริษัททัวร์ที่เห็นศักยภาพของนักท่องเที่ยวจีนก็คือ แคปต้า กรุ๊ป (CaPTA) ที่เน้นการท่องเที่ยวเกี่ยวกับป่า
ผู้บริหารของแคปต้า กรุ๊ป กล่าวว่า ภูมิภาคแคนส์และ Great Barrier Reef คือเป้าหมายที่ห้ามพลาดสำหรับนักท่องเที่ยว แต่ปัญหาก็คือเที่ยวบินที่จะบินตรงเข้าไปยังแคนส์ยังมีน้อย อย่างไรก็ตามผู้บริหารการท่องเที่ยวของนอร์ธ ควีนส์แลนด์ กล่าวว่าสถานการณ์เริ่มดีขึ้นเพราะขณะนี้มีมากกว่า 5 สายการบิน ที่บินตรงสู่แคนส์ ซึ่งส่วนใหญ่มาจากภาคใต้ของจีน
ปี 2562 ร้อยละ 60 ของนักท่องเที่ยวต่างชาติคือชาวจีน ซึ่งนิยมมาเที่ยวเป็นเวลานานและใช้จ่ายมากกว่าชาติใด ๆ แต่การระบาดของโควิด -19 ทำให้ต้องปิดพรมแดน สร้างผลกระทบต่อผลิตภัณฑ์ด้านการท่องเที่ยวมากกว่า 2,500 ผลิตภัณฑ์ รวมถึงพนักงานด้วย ตลอด 2-3 ปีที่ผ่านมา จึงถือเป็นช่วงที่ยากลำบากมาก
ปัจจุบันนักท่องเที่ยวต่างชาติค่อย ๆ ทยอยกลับมา แต่ก็ประมาณ 25 เปอร์เซ็นต์ ของช่วงก่อนโควิดเท่านั้น เจ้าของธุรกิจอย่าง แฮร์รี่ ซู จึงต้องหาทางสร้างโมเดลธุรกิจใหม่ ด้วยการปิดภัตตาคารหลายแห่งที่เคยประสบความสำเร็จมาเป็นภัตตาคารขนาดเล็กลง ด้วยความคาดหวังว่านักท่องเที่ยวจากจีนจะเริ่มกลับมาอีกครั้ง หลังจากสะพานที่เคยสร้างสัมพันธ์ไว้พังทลายลง จึงต้องกลับมาสร้างใหม่ แต่มันจะเกิดขึ้นได้ย่อมขึ้นอยู่กับการกลับมาของเที่ยวบิน บินตรงไปยังภูมิภาคดังกล่าวนั่นเอง