
ศาลในกรุงพนมเปญมีคำตัดสินในวันศุกร์ (3 มี.ค.) ให้นายเกิ้ม สกคา อดีตประธานพรรคสงเคราะห์ชาติกัมพูชา (CNRP) วัย 69 ปี รับโทษจำคุกด้วยการกักบริเวณในบ้านพักเป็นเวลา 27 ปีในข้อหาทรยศต่อชาติจากการสมคบคิดกับชาวต่างชาติเพื่อโค่นล้มรัฐบาลของนายกรัฐมนตรี ฮุน เซน และถูกตัดสิทธิลงสมัครรับเลือกตั้ง และไม่สามารถใช้สิทธิออกเสียงเลือกตั้งได้
นายเกิ้ม สกคา ได้รับการนำตัวออกจากศาลไปยังบ้านพัก โดยศาลห้ามใครเข้าเยี่ยมเขานอกจากสมาชิกในครอบครัว ส่วนทนายความ เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวที่ด้านนอกศาลว่า จะมีการยื่นอุทธรณ์สู้คดี
นอกจากนี้ดับเบิลยู แพทริก เมอร์ฟี เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำกัมพูชา ที่เข้าร่วมฟังคำตัดสิน บอกกับผู้สื่อข่าวว่า ความพยายามปิดปากเกิ้ม สกคา ตลอดหลายปีด้วยข้อกล่าวหาที่กุขึ้น เป็นความล้มเหลวของระบบยุติธรรม และเรียกร้องให้รัฐบาลกัมพูชาอนุญาตให้ประชาชนใช้สิทธิเข้าร่วมการชุมนุมอย่างสันติ แสดงความเห็นได้อย่างเสรี และมีส่วนร่วมในการสร้างระบบประชาธิปไตยอย่างแท้จริง
เกิ้ม สกคา ถูกจับกุมเมื่อปี 2560 ด้วยหลักฐานคลิปวิดีโอที่เขาพูดในปี 2556 ว่า เขาได้รับการสนับสนุนจากกลุ่มประชาธิปไตยในสหรัฐฯ และพรรค CNRP ถูกศาลสั่งยุบก่อนการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อปี 2561 ซึ่งในการเลือกตั้งครั้งนั้นพรรคประชาชนกัมพูชา (CPP) ของนายกรัฐมนตรีฮุน เซน ได้รับชัยชนะ
ศาลเริ่มการพิจารณาคดีกับเขาในข้อหาทรยศต่อชาติในเดือน ม.ค. 2563 ซึ่งเขาปฏิเสธข้อหา แต่การพิจารณาระงับลงในเดือน มี.ค. ปีเดียวกันสืบเนื่องจากการระบาดของโควิด-19 ก่อนกลับมาพิจารณาคดีต่อในปีที่แล้ว
คำตัดสินคดีนี้มีขึ้นเพียงไม่กี่เดือนก่อนที่กัมพูชาจะจัดการเลือกตั้งทั่วไปในเดือน ก.ค. และหลายฝ่ายคาดว่า นายกรัฐมนตรี ฮุน เซน จะลงสมัครเลือกตั้งอีกสมัย แม้บางคนเชื่อว่า เขาวางแผนจะส่งต่ออำนาจให้กับ พลโท ฮุน มาเนต บุตรชายคนโต
ฟิล โรเบิร์ตสัน รองผู้อำนวยการภูมิภาคเอเชียของกลุ่มฮิวแมนไรท์วอทช์ บอกว่า เป็นสิ่งชัดเจนตั้งแต่ต้นว่า การตั้งข้อกล่าวหากับเกิ้ม สกคา มีเหตุจูงใจทางการเมือง ที่นายกรัฐมนตรี ฮุน เซน ต้องการจำกัดผู้นำพรรคฝ่ายค้านสำคัญ และทำลายระบบประชาธิปไตย และการส่งเกิ้ม สกคา เข้าเรือนจำไม่ใช่แค่ทำลายพรรคของเขา แต่ยังทำลายความหวังที่จะมีการเลือกตั้งทั่วไปอย่างแท้จริงในเดือน ก.ค. และฮิวแมนไรท์วอทช์เรียกร้องให้ทางการกัมพูชาล้มคำตัดสิน และปล่อยตัวเขาทันทีอย่างไม่มีเงื่อนไข