svasdssvasds
เนชั่นทีวี

บันเทิง

Avatar : The Way of Water "วิกฤต" จะทำให้เราเติบโต

19 ธันวาคม 2565
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

Avatar : The Way of Water มีแง่มุมที่น่าสนใจมากมาย และพยายามถ่ายทอดให้เข้าใจ เข้าถึงได้โดยง่าย บางประเด็นก็ทรงพลัง จนทำให้ต้องขบคิด อาทิ Coming of Age ที่ไม่ได้หมายถึงเฉพาะการก้าวข้ามจากวัยรุ่นสู่วัยผู้ใหญ่ของลูกๆ เจค ซัลลี แต่ยังรวมถึงเจคเอง ในฐานะตัวเอกของเรื่อง

ทิ้งห่างจากภาคแรกไปรวม 13 ปี ก่อนกลับมาอย่างสมศักดิ์ศรีสำหรับภาคต่อของ Avatar ภาพยนตร์ทำเงินสูงที่สุดในโลก กวาดรายได้ไปเกือบ 3,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่ง Avatar : The Way of Water ใช้ทุนสร้างมหาศาลเกือบ 400 ล้านเหรียญสหรัฐ และจะทยอยสร้างต่อเนื่องจนถึงภาค 5 โดยการปลุกปั้นของ เจมส์ คาเมรอน (James Cameron) อภิมหาผู้กำกับที่มีผลงานระดับตำนานมากมาย อาทิ The Terminator , Aliens และ Titanic ซึ่งแต่ละเรื่องล้วนเป็นภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ที่โลกจดจำจนถึงทุกวันนี้

Avatar : The Way of Water มีแง่มุมที่น่าสนใจมากมาย และพยายามถ่ายทอดเนื้อหาออกมาให้เข้าใจและเข้าถึงได้โดยง่าย แต่บางประเด็นก็ทรงพลัง จนทำให้ต้องกลับมาขบคิด อาทิ Coming of Age ที่ไม่ได้หมายถึงเฉพาะการก้าวข้ามจากวัยรุ่นสู่วัยผู้ใหญ่ของลูกๆ เจค ซัลลี (Jake Sully) เท่านั้น แต่ยังรวมถึงตัวเจคเองด้วย ในฐานะตัวเอกของเรื่อง

Avatar : The Way of Water สงครามที่ไม่อาจหลีกเลี่ยง

จากมนุษย์ สู่ผู้นำเผ่าโอมาติคายา ที่ต่อสู้กับผู้รุกราน

ในภาคแรก เจค ซัลลี (Jake Sully) ได้อาศัยร่างอวตารเป็นชาวนาวี เพื่อปฏิบัติภารกิจแทรกซึมเข้าไปในเผ่าโอมาติคายา (Omatikaya) ชาวนาวีที่อาศัยอยู่บนดาวแพนดอร่า (Pandora)

โดยระหว่างปฏิบัติหน้าที่ เขาก็ได้ตกหลุมรัก เนย์ทีรี (Neytiri) ลูกสาวหัวหน้าเผ่า และต้องเผชิญกับการตัดสินใจครั้งสำคัญ ระหว่างการทำตามหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย ในนามของมนุษยชาติ ซึ่งเป็นเผ่าพันธุ์กำเนิด กับการทำตามสามัญสำนึก ที่ไม่เห็นด้วยกับการรุกรานชาวนาวี อย่างโหดเหี้ยมอำมหิต

และในที่สุดเขาก็ตัดสินใจเลือกข้างอยู่กับฝ่ายที่ถูกข่มเหงรังแก ด้วยการเป็นผู้นำชาวนาวี ต่อสู้กับมนุษย์ ผู้รุกราน

Avatar : The Way of Water สงครามที่ไม่อาจหลีกเลี่ยง

ผู้นำเผ่าโอมาติคายา และหัวหน้าครอบครัว

ช่วงต้นๆ ใน Avatar : The Way of Water เราจะได้เห็นบทบาทของเจค ในฐานะผู้นำเผ่าโอมาติคายา ที่ตอบโต้และต่อสู้กับมนุษย์ อย่างเข้มแข็งและชาญฉลาด แต่อีกบทบาทหนึ่งก็คือสามีและพ่อของลูกๆ ทั้ง 5

โดยเหตุการณ์ที่ทำให้เขาต้องตัดสินใจครั้งสำคัญ (อีกครั้ง) นั่นก็คือเมื่อมนุษย์กลุ่มหนึ่งในร่างอวตารชาวนาวี นำทีมโดยผู้พันไมล์ส คู่ปรับเก่า ได้บุกเข้ามาใกล้อาณาเขตชนเผ่าโอมาติคายา และจับตัว สไปเดอร์ (Spider) บุตรบุญธรรมของเขาไป ทำให้เจคคิดว่าเหตุผลสำคัญที่ผู้พันไมล์สจองเวรอย่างไม่ลดละ ก็คือตัวเขาเอง ที่ได้สร้างปมแค้นให้กับคู่ปรับเก่าอย่างแสนสาหัส

ดังนั้นเพื่อความสงบสุขของชนเผ่าโอมาติคายา และความปลอดภัยของภรรยาและลูกๆ เขาจึงตัดสินใจนำครอบครัวออกจากเผ่าโอมาติคายา เดินทางไปยังดินแดนแห่งท้องทะเลอันไกลโพ้น เพื่อใช้ชีวิตอย่างสงบสุขกับครอบครัว

Avatar : The Way of Water สงครามที่ไม่อาจหลีกเลี่ยง

ชีวิตที่พยายามหลีกเลี่ยงความขัดแย้ง

ในดินแดนแห่งท้องทะเล มีเผ่าเม็ตคายีนา (Metkayina) ปกครองอยู่ เรื่องราวส่วนใหญ่จะโฟกัสไปที่กลุ่มลูกๆ ของเจค ซึ่งประกอบด้วย

1. เนเทยัม (Neteyam) ลูกชายคนโต

2. โลแอค (Lo’ak) ลูกชายคนรอง

3. คิริ (Kiri) ลูกสาวบุตรบุญธรรม

4. ทุกติเรย์ (Tuktirey) ลูกสาวคนเล็ก

โดยเฉพาะ เนเทยัม โลแอค และคิริ ที่กำลังอยู่ในช่วงวัยรุ่น ชีวิตในดินแดนใหม่จึงเป็นช่วงเวลาที่พวกเขาต้องปรับตัว และเรียนรู้เพื่อก้าวข้ามจากวัยรุ่นสู่วัยผู้ใหญ่ (Coming of Age)

รวมถึงเจคเอง ก็เปลี่ยนแปลงไปเป็นอย่างมาก จากผู้นำชนเผ่าที่เข้มแข็ง ที่ต่อสู้อย่างไม่หวาดหวั่นต่อภยันอันตราย เพื่อความถูกต้อง และปกป้องผู้ที่ถูกข่มเหงรังแก แต่ในวันที่เขาตัดสินเลือกใช้ชีวิตอย่างสงบสุขกับครอบครัวในดินแดนเม็ตคายีนา เจคก็พยายามหลีกเลี่ยงการปะทะ หลีกเลี่ยงความขัดแย้งทุกๆ รูปแบบ และขอให้ลูกๆ ปฏิบัติตามด้วย อาทิ การบังคับให้โลแอค ลูกชายคนรอง ขอโทษลูกชายหัวหน้าเผ่าเม็ตคายีนา ทั้งๆ ที่ลูกตัวเองเป็นฝ่ายถูกกระทำก่อน

เจคในดินแดนดินแดนแห่งใหม่ จึงราวกับคนละคนกับเจค อดีตผู้นำที่ยิ่งใหญ่แห่งเผ่าโอมาติคายา แต่การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น ไม่ใช่เพราะความขี้ขลาดตาขาว แต่เป็นเพราะเขาคิดว่า การเป็นฝ่ายสยบยอม การหลีกเลี่ยงความขัดแย้ง มันคือการป้องกันครอบครัวที่ดีที่สุด ที่ทำให้คนที่เขารัก รอดพ้นจากภยันอันตราย

กระทั่งเกิดเหตุการณ์ที่ทำให้เขาได้เรียนรู้และเข้าใจว่า การหนี การสยบยอม ไม่ได้ทำให้เกิดสันติภาพเสมอไป และอาจทำให้ถูกกระทำย่ำยีอย่างไม่มีที่สุด การต่อสู้จึงเป็นหนทาง เป็นสงครามที่ไม่อาจหลีกเลี่ยง เพื่อปกป้องครอบครัวอันเป็นที่รัก และดาวแพนดอร่า

ซึ่งการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับเจคในแต่ละช่วง ในแต่ละบทบาท ก็ไม่อาจนำมาตรฐานผิด-ถูก มาตัดสินได้ แต่สิ่งที่ทำให้ผู้ชมรับรู้ได้ก็คือ แรงจูงใจที่เกิดขึ้นกับเจคในแต่ละช่วงของสถานการณ์ ที่ผลักดันนำไปสู่การตัดสินใจต่างๆ  

Avatar : The Way of Water สงครามที่ไม่อาจหลีกเลี่ยง

นอกจากนั้น Avatar : The Way of Water ยังมีประเด็นอื่นๆ ที่น่าสนใจมากมาย โดยเฉพาะคำว่า “I see You” ที่ในเรื่องนี้มีความหมายลึกซึ้งมาก เรียกได้ว่า เป็นอีกไฮไลต์ที่มีการปูและนำมาใช้ได้อย่างกินใจ รวมถึงมีการทิ้งปมปริศนาต่างๆ ไว้มากมาย ทำให้คาดว่า Avatar ในภาคต่อๆ ไปจะทวีความเข้มข้นและสนุกสนานยิ่งๆ ขึ้นไป

Avatar : The Way of Water สงครามที่ไม่อาจหลีกเลี่ยง

Avatar : The Way of Water สงครามที่ไม่อาจหลีกเลี่ยง

Avatar : The Way of Water สงครามที่ไม่อาจหลีกเลี่ยง

logoline