แฟนนางงามบางคนไม่เคยสนใจเวทีมิสแกรนด์ฯ ก็หันมาเสพติดพากันเป็น “วัยรุ่นเมกา” อดหลับอดนอนรอดู “อิงฟ้า” ไลฟ์สด ส่วนหนึ่งเพราะกระแสของ "อิงฟ้า” ไม่ว่าจะร้องเต้นน่าสนใจไปเสียหมด ท่าเต้นเข็นวีลแชร์ซุปตาร์คนดังพากันเต้นตามจนกลายเป็นไวรัลดัง ยังเป็นสาวที่ปลุกกระแส "LGBTQ" ขึ้นมาอีกด้วย แฟนๆ ออกเรือจับชิปคนโน้นทีคนนี้ที แต่ที่สุดของใจเห็นจะเป็น “อิงล็อต" ของบรรดา “ไอ้แดง” ลูกๆ ของ “เสี่ยเบิ้ม” เค้าล่ะ
หากย้อนไปแล้วเส้นทางชีวิต “อิงฟ้า” ก็แค่ผู้หญิงที่ไล่ตามหาความฝันของตัวเอง การประกวดเวทีมิสแกรนด์ฯ ไม่ใช่งานหน้ากล้องครั้งแรก “อิงฟ้า” เดินสายร้องเพลงตั้งแต่เด็ก โตขึ้นมาหน่อยพาตัวเองไปอยู่ในรายการดังๆ ในฐานะหมอทำขวัญสุดเซ็กซี่ ไม่รวมเอ็มวีซิทคอมต่างๆ ที่เคยเล่นเอาไว้ มาเป็นที่รู้จักก็ตอนเข้าประกวดรายการ เดอะวอยซ์ไทยแลนด์ ซีซั่น 7 ก่อนชีวิตจะพลิกผันได้เป็น "มิสแกรนด์ไทยแลนด์คนที่ 10" ทั้งหมดนี้ต้องบอกว่า “อิงฟ้า” เป็นคนที่มีของมี “พรสวรรค์” เป็นสิ่งที่ฟ้าประทานให้เธอมา
นอกเหนือจาก “พรสวรรค์” แล้ว “แด๊ดดี้” หรือ “เสี่ยเบิ้ม”ยังเป็นคนที่มี “พรแสวง” กว่าจะมาถึงวันนี้ได้ เชื่อว่าต้องผ่านการเรียนรู้ฝึกฝนอย่างหนัก บวกกับความกดดันหลายอย่าง แต่ “อิงฟ้า” พร้อมเรียนรู้เสมอ เห็นได้ชัดก็เรื่องของภาษาที่ พยายามจะพูดและไม่อายที่จะใช้ แม้จะมีเสียหลักไปบ้างกับกระแสข่าวของ “ติ๊นา-ศุภนาฎ จิตตลีลา” ช่วงนั้นดูเหมือนแฟนคลับหลายคนพากันถอยหลังให้ แต่ก็มากู้ศักดิ์ศรีคืนได้ เมื่อ “อิงฟ้า" คว้าตำแหน่งรองอันดับหนึ่งติดมือกลับมาดูมิสแกรนด์ให้สนุกก็จริง แต่ใครจะดูชีวิตของ “อิงฟ้า”แล้วเอาความใฝ่รู้ของเธอไปเป็นแบบอย่างก็ไม่ผิด
คนเราจะ “เฟมัส” ไม่ได้เลย หากไม่มี “พร” ติดตัวมา แต่ “อิงฟ้า” นั้นโชคดีมี “พร” ถึงสองข้อด้วยกัน นั่นก็คือ “พรสวรรค์” และ “พรแสวง”