
หลังจาก ซาร่า คาซิงกินี ได้มาออกรายการ โหนกระแส ทางช่อง 3 เพื่อพูดในส่วนของตัวเองไปแล้ว
ล่าสุดวันนี้(17 กันยายน 2563) ก็เป็นฝ่าย ไมค์ พิรัชต์ ที่มาออกรายการโหนกระแสเช่นกัน โดยบอกว่า ที่ตนเองไม่ได้มาออกรายการพร้อมกับซาร่า เพราะรู้สึกถึงความไม่เหมาะสม เดี๋ยวจะต้องเจอกันในศาลอยู่แล้ว มีอะไรไปคุยกับศาลดีกว่า อีกทั้งเรื่องพวกนี้มันอยู่ในอินเทอร์เน็ตมันลบไม่ได้ ถ้าในอนาคตลูกมาเห็น มันจะไม่เหมาะสม เลยไม่มาเจอดีกว่า ค่อยไปเจอกันที่ศูนย์ไกล่เกลี่ย วันที่ 2 พ.ย. ครั้งเดียวเลย ซึ่งเป็นครั้งแรกเลยที่จะได้เจอกัน หลังจากไม่เจอกันเกือบปี
ต้นเหตุที่ทำให้ต้องไปร้องต่อศาลในการรับรองบุตรกับลูก มันมีหลายสาเหตุ จริงๆ มี 2 จุดที่ไม่โอเค คือ ลูกมีพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปตอนเริ่มเจอ มีความกลัว ผวา ดูเหมือนอยากจะแสดงอะไรบางอย่าง แต่กั๊กเอาไว้ ดูเกร็งๆ จากที่เมื่อก่อนเคยบอกรัก วิ่งมากอดแดดดี้สอง คือเมื่อตอนวันเกิดลูก เดือน ก.ค. ตนเองเหมือนถูกสับขาหลอก ว่าลูกกลับภูเก็ตแล้ว แต่ลูกยังไม่ได้กลับ นั่นคือฟางเส้นสุดท้าย
ส่วนเรื่องที่ ซาร่า ให้สัมภาษณ์ในรายการว่า ไมค์ ไปลดคุณภาพชีวิต 2 เรื่อง คือ เรื่องโรงเรียน กับ เรื่องที่อยู่อาศัย ไมค์ ได้ถามกลับว่า คุณภาพชีวิตของคนๆหนึ่ง มันเทียบได้กับราคาและขนาดของห้องที่อยู่เหรอ คุณภาพชีวิตมันตัดสินด้วยขนาดและราคาของห้องเหรอ ตนเองได้ส่งที่อยู่ไปให้เลือก ซึ่งราคาก็ไม่ได้ขี้เหร่อะไร เพราะมองว่าเราไม่จำเป็นต้องอยู่ในที่แพงที่สุด อยู่ในห้องเล็กๆ เราก็มีความสุขได้ ห้องที่ให้อยู่ปัจจุบันกับลูก คือห้องขนาด 66 ตร.ม. คุณภาพชีวิตไม่ได้แย่อะไรเลย
ส่วนเรื่องโรงเรียนของลูก ตอนแรกเข้าไปคุยในช่วงเดือน มี.ค. ว่าเจอวิกฤติโควิดนะ ทำให้ทุกอย่างแย่ลง รายจ่ายลดลง เลยไปขอว่าช่วยหน่อย ย้ายโรงเรียนได้มั้ย จะได้ลดรายจ่ายได้ด้วย ซึ่งตนเองก็ไปทำการบ้านและดูโรงเรียนมาให้ ซึ่งแต่ละที่ที่เลือกมา ตนเองก็ได้ถามไปทาง ซาร่า ว่าโอเคมั้ย แต่ก็ไม่ได้คำตอบ ปล่อยยาวจนกระทั่งโรงเรียนจะเปิดเทอม เลยเลือกโรงเรียนเลิศหล้า ให้ราคา 1.5 แสน แต่อีกฝ่ายก็ไม่โอเค ไมค์เลยให้ไปดูเอง แต่ฝ่ายนั้นก็ยังไม่จัดการ จนกระทั่งตอนนี้ยังไม่รู้เลยว่าลูกจะเรียนที่ไหน เพราะพิมพ์อะไรไปก็ไม่ตอบไมค์เลย
ไมค์ บอกต่อว่า ตนเองขอแค่ต้องการเจอลูกแบบง่ายๆ แค่ต้องการช่วยตัดสินใจว่าชีวิตลูกจะเดินไปทางไหนเท่านั้นเอง ที่ผ่านมาตั้งแต่ ซาร่า คลอดลูกออกมา ไมค์ ดูแลน้องตั้งแต่คลอด จ่ายมาตลอดตั้งแต่ค่าทำคลอดจนถึงปัจจุบัน ซึ่งตนเองได้ให้ฝ่ายบัญชีทำแฟ้มรายจ่ายขึ้นมา ไล่เรียงทุกอย่าง แยกค่าใช้จ่ายเป็นปี รายละเอียดทุกอย่างจำได้หมดเลย มีทั้งค่าคอนโด ค่าประกันชีวิตของลูก เซ็นเช็คจ่ายหมดเลย แม้กระทั่งค่าจัดวันเกิดตนเองก็จ่ายหมดทุกอย่าง
ส่วนเรื่องค่าเทอม ที่ซาร่าเคยให้สัมภาษณ์ว่า ช่วยกันจ่ายกับไมค์ ไมค์บอกว่า รบกวนให้ซาร่าทำบัญชีมาชี้แจงได้มั้ย เพราะตนเองจ่ายทั้งหมด 100%
ส่วนเรื่องการตรวจดีเอ็นเอ มันมีเหตุการณ์แปลกๆ เกิดขึ้นในช่วงนั้น แต่ไม่ขอพูดว่าเรื่องอะไร และการตรวจเป็นการยินยอมทั้ง 2 ฝ่าย และ ซาร่า ก็ยอมตรวจ เพราะกระแสสังคมมันรุนแรงมาก เพื่อความสบายใจของผู้ใหญ่ด้วย
เมื่อ หนุ่ม กรรชัย ถามว่า กรณีบางเรื่องที่ไม่อยากพูด มันไปเกี่ยวข้องกับเพจดอกจิก ที่ลงล่าสุดมั้ย ว่าซาร่าเหมือนกับตั้งครรภ์มาก่อน ที่ตรวจดีเอ็นเอเพราะว่าคบซ้อนตลอด เกี่ยวโยงมั้ย ทำให้จำเป็นต้องตรวจดีเอ็นเอ ไมค์บอกว่า เรื่องนี้ขอไม่พูด เพราะคิดว่ามันเป็นเรื่องของอดีต มันอาจจะเอฟเฟกต์ในอนาคตได้ ปล่อยผ่านไปไม่เป็นไร เรื่องนี้มีคนมาบอกเหมือนกัน แต่ยังไม่มีเวลาเข้าไปอ่าน
ส่วนข่าวเรื่องคอนโด ที่ ไมค์ เอาคอนโดของพี่ชายให้ ซาร่า อยู่ แล้วมีการไปตัดไฟ ไมค์บอกอันนี้ไม่ใช่เรื่องจริง ตนเองไม่สามารถตัดไฟเค้าได้ เพราะช่วงโควิดพี่ชายก็ช็อต เพราะไม่มีคนจ่ายค่าเช่าเลย เค้าเลยอยากจะขายคอนโดห้องที่ซาร่าอยู่ เลยมาคุยกับ ไมค์ อีกทั้งตนเองได้ไปเห็นผู้ชายคนอื่นมาอยู่ในห้อง กลัวว่าจะมีปัญหาเกิดขึ้นในภายหลัง พี่แซนเลยให้นิติตัดคีย์การ์ดกับตัดน้ำ
ส่วนเรื่องที่มีภาพหลุดออกมา ภาพที่ซาร่าท้อง หนุ่ม กรรชัย บอกว่า ซาร่ายอมรับว่า เป็นตัวเค้าเอง ไมค์บอกว่า เห็นข่าวแล้ว แต่ไม่ขอมีความคิดเห็น เมื่อถามว่ารู้จักผู้ชายที่มีข่าวว่าเป็นแฟนซาร่ามั้ย ไมค์บอกว่าเห็นในข่าว ชื่อ วาดิน แต่ไม่ได้รู้จักเป็นการส่วนตัว
เมื่อ หนุ่ม กรรชัย ถามว่า อยากให้เรื่องนี้จบยังไง ไมค์ บอกว่าอยากให้จบเร็วที่สุด อยากให้จบตั้งแต่การไปศาลครั้งแรกของตนเองแล้ว แต่มันยืดเยื้อมาจนวันนี้ ทำให้ตนเองกลับไปทำงานที่จีนไม่ได้ เพราะเรื่องพวกนี้ ตอนนี้ใช้เงินเก่าจ่ายเงินพนักงานทุกคน และตนเองทุกวันนี้ใช้เงินเดือนละ 15,000 บาท ทำอาหารกินเอง เพื่อเซฟค่าใช้จ่าย