นายณัฐวุฒิ วงศ์เยาวรักษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.โกลเบล็ก เปิดเผยถึงภาวะตลาดหุ้นไทยปิดที่ระดับ 11,671.34 จุด ลบ 10.77 จุด หรือ 0.64 % ระหว่างวันเคลื่อนไหวสูงสุด 1,684.84 จุด และต่ำสุดที่ 1,667.43 จุด มูลค่าการซื้อขาย 72,411.18 ล้านบาทกับ Nation Online ว่า
ตลาดหุ้นไทยปิดลบ โดยหุ้นที่กดตลาดวันนี้เป็นกลุ่มโรงไฟฟ้า หลังจากที่คณะกรรมการนโยบายการเงินหรือกนง.ปรับขึ้นดอก เบี้ยเมื่อวานนี้ (25 ม.ค.) 0.25% ทำให้ต้นทุนการดำเนินงานของผู้ประกอบการปรับตัวสูงขึ้น และนักวิเคราะห์คาดว่ากำไรจะของธุรกิจจะปรับตัวลงจนส่งผลกระทบต่อผลประกอบการอาจแย่กว่าคาด รวมถึงหุ้นไฟแนนซ์ เพราะการขึ้นดอกเบี้ยทำให้ต้นทุน การกู้ยืมเพิ่ม ขณะที่รายได้เท่าเดิม
นอกจากนี้มีแรงเทขายหุ้นในกลุ่มปิโตรเคมี หลัง SCC ประกาศงบไตรมาส 4/65 ต่ำกว่าตลาดคาดการณ์ ทำให้คาดว่าหุ้น PTTGC ,IVL ปรับตัวลงตามไปด้วย ขณะที่นักลงทุนเริ่มขายหุ้นทำกำไร หลังจากราคาหุ้นได้ปรับขึ้นมากว่า 4%
ด้านมูลค่าการซื้อขายวันนี้พบว่านักลงทุนสถาบันขายสุทธิ 2,881.52 ล้านบาท บัญชีบล.ขายสุทธิ 179.42 ล้านบาท ต่างประ เทศซื้อสุทธิ 1,195.62 ล้านบาท ในประเทศซื้อสุทธิ 1,865.32 ล้านบาท สำหรับปัจจัยที่ติดตามคือการประกาศตัวเลขจีดีพีของสหรัฐฯ และตัวเลขเงินเฟ้อ PCE สหรัฐฯ
ส่วนแนวโน้มพรุ่งนี้คาดว่ายังซึมต่อ เนื่องจากยังไม่มีปัจจัยใหม่เข้ามาหนุน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวที่ 1,660-1,680 จุด เน้นหุ้นได้รับประโยชน์จากท่องเที่ยว เช่น AU,SPA,ERW และ CENTEL
หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 2,788.73 ล้านบาท ปิดที่ 145.50 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท
BBL มูลค่าการซื้อขาย 2,741.89 ล้านบาท ปิดที่ 158.50 บาท เพิ่มขึ้น 3.50 บาท
GPSC มูลค่าการซื้อขาย 2,286.08 ล้านบาท ปิดที่ 68.50 บาท ลดลง 6.00 บาท
JMT มูลค่าการซื้อขาย 2,228.88 ล้านบาท ปิดที่ 53.75 บาท ลดลง 5.75 บาท
EA มูลค่าการซื้อขาย 2,103.92 ล้านบาท ปิดที่ 85.25 บาท ลดลง 2.75 บาท