svasdssvasds
เนชั่นทีวี

เศรษฐกิจ

สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ลุยตั้งกองทุนฯ 2 พันล้าน

26 มีนาคม 2567
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

โครงการเรือธงปี 2566 จะตั้งกองทุนนวัตกรรม (Innovation One) ซึ่งเป็นแหล่งเงินทุนสำคัญของสมาชิกที่เป็นเอสเอ็มอีและสตาร์ตอัป รวมมูลค่า 2,000 ล้านบาท

วานนี้ (25 มี.ค.) สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) จัดประชุมใหญ่ประจำปี 2567 เพื่อลงคะแนนเลือกกรรมการวาระปี 2567-2569 ประเภทเลือกตั้ง 244 คน ณ ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โดยพบว่ามีผู้มาใช้สิทธิเลือกตั้งครั้งนี้ 2,700 คน มากสุดเป็นประวัติการณ์ ทั้งยังเป็นผู้บริหารระดับสูงและเจ้าของกิจการที่เดินทางมาด้วยตนเอง

 

การเลือกตั้งครั้งนี้มีผู้เสนอตัวเป็นประธาน ส.อ.ท.รวม 2 คน ประกอบด้วย 1.เกรียงไกร เธียรนุกูล ประธาน ส.อ.ท. และ 2. สมโภชน์ อาหุนัย รองประธาน ส.อ.ท.และ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.พลังงานบริสุทธิ์

 

โดยการเลือกตั้งครั้งนี้ถือเป็นการรวมตัวของซีอีโอและเจ้าของกิจการจากทั่วประเทศที่เดินทางมาลงคะแนนเอง ซึ่งประเด็นไม่ได้อยู่ที่จะเลือกนายเกรียงไกร แต่เชื่อว่าทุกกลุ่มอุตสาหกรรมออกมาปกป้อง ส.อ.ท.และธรรมเนียมปฏิบัติที่มีมาตั้งแต่ที่เปิดสภาฯ ที่ควรให้กรรมการดำรงตำแหน่ง 2 วาระ หรือ 4 ปี จึงเป็นเวลาที่เหมาะสมในการขับเคลื่อนงาน

 

สำหรับผลการเลือกตั้งพบว่าผู้สนับสนุนนายเกรียงไกรผ่านการเลือกตั้งเป็นกรรมการเข้ามามากกว่านายสมโภชน์ ซึ่งจะทำให้นายเกรียงไกรมีโอกาสได้รับเลือกตั้งเป็นประธาน ส.อ.ท.สมัยที่ 2

ส่วนกรรมการประเภทแต่งตั้ง 122 คน ได้แต่งตั้งเสร็จเรียบร้อยตั้งแต่เดือน ก.พ.2567 แบ่งเป็นกลุ่มอุตสาหกรรม 46 คน และสภาอุตสาหกรรมจังหวัด 77 คน โดยกรรมการ ส.อ.ท.ทั้งหมด 366 คน จะประชุมภายใน 30-45 วัน โดยกำหนดการคาดว่าจะเป็นวันที่ 23 เม.ย.2567 เพื่อลงคะแนนเลือกประธาน ส.อ.ท.

 

ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย หรือ ส.อ.ท. เกรียงไกร เธียรนุกูล ระบุว่า โครงการสำคัญและจะขับเคลื่อนต่อไป คือ การยกระดับและปรับโครงสร้างภาคการผลิต โดยการใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยี เพื่อสร้างสินค้าของคนไทย รวมทั้งผลักดัน BCG และ S-Curve เพื่อให้ไทยรักษาความสามารถในการเป็นฐานผลิต และเชื่อมโยงกับซัพพลายเชนระดับโลก อาทิ กลุ่มยานยนต์และชิ้นส่วนที่ต้องปรับตัวให้เข้ากับการผลิตยานยนต์ไฟฟ้า (อีวี)

 

รวมทั้งโครงการเรือธงปี 2566 จะตั้งกองทุนนวัตกรรม (Innovation One) ซึ่งเป็นแหล่งเงินทุนสำคัญของสมาชิกที่เป็นเอสเอ็มอีและสตาร์ตอัป โดยได้รับการสนับสนุนจากกระทรวงอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) มูลค่า 1,000 ล้านบาท เป็นเวลา 3 ปี และ ส.อ.ท.สมทบเข้ากองทุนอีก 1,000 ล้านบาท รวมมูลค่า 2,000 ล้านบาท

สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ลุยตั้งกองทุนฯ 2 พันล้าน

ทั้งนี้ คาดว่าจะกระจายการให้ทุนสำหรับกลุ่มสตาร์ตอัปและเอสเอ็มอีภายใน 3 ปีนี้ ซึ่งเชื่อว่าจะช่วยพัฒนาความสามารถในการแข่งขันด้วยการคิดไอเดียใหม่ๆ โดยเฉพาะเรื่องการพัฒนาด้านพลังงานสะอาด และแนวคิด BCG

 

สำหรับประเด็นเรื่องค่าไฟฟ้าที่เป็นต้นทุนซึ่งไทยมีค่าไฟแพงกว่าประเทศเพื่อนบ้านที่เป็นคู่แข่งนั้น ยังเป็นประเด็นที่จะผลักดันต่อเนื่องในการพูดคุยกับภาครัฐและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน อาทิ การปรับโครงสร้างและปรับสูตรแหล่งเชื้อเพลิง ให้ไทยมีความสามารถในการแข่งขันได้ในระยะยาว

 

ด้านประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.พลังงานบริสุทธิ์ สมโภชน์ อาหุนัย ระบุว่า การประชุมถือว่ามีบรรยากาศที่ดี มีความคึกคักในการเลือกตั้งและสมาชิกมีความตื่นตัว สิ่งเหล่านี้น่าจะนำพาให้ส.อ.ท.เดินไปข้างหน้าอย่างแข็งแรงและเป็นที่น่าเชื่อถือของสาธารณชนและรัฐบาลในอนาคต กาารเลือกตั้งถือเป็นการแข่งขันด้านความคิดและนโยบาย เป็นการระดมความเห็น โดยไม่วิจารณ์ผู้อื่น ทุกคนเป็นมืออาชีพ เชื่อว่าบรรยากาศการแข่งขันหลังจบการเลือกตั้งมีบทสรุปชัดเจนจะผ่านไป ไม่ใช่ความขัดแย้งแตกแยก หากใครมีอุดมการณ์ที่ดีควรนำไปใช้ต่อ

logoline