เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ หรือ สศช.ดนุชา พิชยนันท์ ระบุ นโยบายการแจกเงิน 10,000 บาท หรือ Digital Wallet คาดว่าจะดำเนินการได้ในไตรมาสแรกปี 2567 แต่ในรายละเอียดยังต้องหารือ ส่วนจะมีผลต่อภาระหนี้ หรือ ภาระทางการคลัง จะต้องพิจารณาในรายละเอียดก่อน โดยกระทรวงการคลังจะเป็นผู้ดูเรื่องนี้เป็นหลัก ด้านการตั้งงบขาดดุลเพิ่มขึ้นกว่า 1 แสนล้านบาทนั้น ยืนยันว่าเป็นไปตามแผน เพื่อไปใช้ในการลงทุนเป็นหลักซึ่งจะต้องดูว่าสุดท้ายงบลงทุนที่เกิดขึ้นมีอะไรบ้าง และคำนวณว่าจะมีผลต่อระบบเศรษฐกิจมากน้อยแค่ไหน
สำหรับงบประมาณปี 2567 คาดว่าจะออกได้ในช่วงปลาย มี.ค.-เม.ย.67 เมื่อออกมาแล้วคงต้องเร่งใช้จ่ายเต็มที่ เพื่อเร่งการเบิกจ่าย โดยเฉพาะงบลงทุนใหม่ ที่จะมีเวลาไม่นานจะสิ้นสุดปีงบประมาณ ดังนั้นหลายหน่วยงานที่ได้รับการจัดสรรงบประมาณจะต้องเตรียมการจัดซื้อจัดจ้างเตรียมไว้ให้พร้อม เมื่อมีผลบังคับใช้จะสามารถจัดซื้อจัดจ้างได้ในทันที เพราะต้องเร่งนำเงินออก
อย่างไรก็ตาม ยังคงจีดีพีปีนี้อยู่ที่ 2.5-3% ส่วนกรณีที่รัฐบาลตั้งเป้า GDP ปีหน้าโต 5% มองว่าเป็นเรื่องที่รัฐบาลแสดงความมุ่งที่จะตั้งเป้าให้การพัฒนาในเชิงเศรษฐกิจขยายตัวให้ได้มากที่สุดตามศักยภาพที่เรามีอยู่ เรื่องนี้ก็ขึ้นอยู่ที่หน่วยงานทุกหน่วยต้องเร่งดำเนินการว่าส่วนไหนที่จะทำให้จีดีพีขยับตัวดีขึ้น โดยเฉพาะปัญหาที่เกิดขึ้นมา 3-4 ไตรมาส ต้องเร่งการส่งออก แน่นอนว่าเศรษฐกิจโลกปีนี้มีแนวโน้มที่จะชะลอตัวลง มองว่าปีหน้าจะปรับตัวดีขึ้น แต่ไม่แน่ว่าจะมีสถานการณ์อะไรเกิดขึ้นอีก