svasdssvasds
เนชั่นทีวี

คอลัมนิสต์

ศึกชายแดน “จินณ์ตวรรณ” น้ำเงินเป็นต่อ “ภูริกา” แดงกัดฟันสู้บ้านใหญ่

เลือกตั้งซ่อม สส.ศรีสะเกษ ถ้า “จินณ์ตวรรณ” น้ำเงินชนะ แดงสะเทือนทั้งภาคอีสาน “ภูริกา” กัดฟันสู้บ้านใหญ่

ศึกศักดิ์ศรีคนชายแดน จินณ์ตวรรณ ลูกสาวบ้านใหญ่ ขี่กระแสชาตินิยม ภูริกา เรียกคะแนนสงสาร อ้อนขอสู้แทนพ่อ

 

เลือกตั้งซ่อมศรีสะเกษ ยกนี้มีความหมายทั้งแดง-น้ำเงิน ถ้าเพื่อไทยแพ้ที่ขุนหาญ-ภูสิงห์ ก็พ่ายทั้งกระดานภาคอีสาน

 

เหตุปะทะไทย–กัมพูชา ปี 2568 ทำให้ กกต. มีมติเลื่อนวันเลือกตั้งซ่อม สส.ศรีสะเกษ จากเดิมเป็นวันอาทิตย์ที่ 10 ส.ค.2568 เป็นวันอาทิตย์ที่ 28 ก.ย.2568

 

“กุ้ง” ภูริกา สมหมาย ผู้สมัคร สส.หมายเลข 1 พรรคเพื่อไทย และ “อีฟ” จินณ์ตวรรณ ไตรสรณกุล ผู้สมัคร สส.หมายเลข 2 ได้ใช้เวลาช่วงโค้งสุดท้ายหาเสียงอย่างหนัก

 

กูรูการเมืองกำลังเฝ้ารอดูผลการเลือกตั้งซ่อม สส.ศรีสะเกษ เขต 5 (อ.ขุนหาญ อ.ภูสิงห์) เพราะแดงหรือน้ำเงินชนะ ย่อมมีผลลัพธ์ต่างกัน

 

หากเพื่อไทยชนะ ก็จะตรึง สส.ไม่ให้ไหลออกไปสังกัดพรรคใหม่ ตรงกันข้าม ถ้าแพ้ก็เสียหายยับเยิน สส.สายอีสานใต้เผ่นหนีแน่ ไม่เว้นกระทั่งกลุ่มแป้งมันโคราช

 

หากภูมิใจไทยชนะ จะสามารถแย่งชิง สส.อีสานได้เพิ่มขึ้น ไม่จำกัดแค่อีสานใต้ คงจะขยายไปทางอีสานกลาง และอีสานเหนือด้วย

 

จินณ์ตวรรณ์ หวังกู้หน้าพ่อ-ธีระ  

อีฟ-ลูกสาวบ้านใหญ่
 

“อีฟ” จินณ์ตวรรณ ไตรสรณกุล ค่ายน้ำเงิน มีกำลังใจมากขึ้น จากกระแสรักชาติในพื้นที่ชายแดนอีสานใต้ และความไม่พอใจกรณีคลิปเสียง ที่เป็นต้นตอของสงคราม 5 วัน 

 

บ้านใหญ่ “ไตรสรณกุล” ที่มีฐานเสียง สจ.ทั้ง อ.ภูสิงห์ และ อ.ขุนหาญ ย่อมเอื้อต่อการหาคะแนน 

 

บวกการจัดตั้งรัฐบาลเฉพาะกาลของภูมิใจไทย โดย อนุทิน ชาญวีรกูล เป็นนายกรัฐมนตรี ย่อมเปลี่ยนใจโหวตเตอร์บางกลุ่มที่เคยเลือกสีแดง มาเลือกสีน้ำเงินได้เช่นกัน

 

จุดอ่อน “อีฟ” จินณ์ตวรรณ ไตรสรณกุล ไม่ใช่คนท้องถิ่น อ.ขุนหาญ และ อ.ภูสิงห์ เป็นลูกหลานคนจีนจาก อ.กันทรลักษ์

 

แบรนด์พรรคสีน้ำเงิน คนในพื้นที่ยังฝังใจเรื่อง “เนรคุณ” หรือ “งูเห่า” โดยหัวคะแนนของพรรคสีแดง จึงขยายแผลปมคดีเขากระโดง และคดีฮั้ว สว. ทำให้คนบางหมู่บ้านเปลี่ยนใจ หันไปใช้สิทธิ์โหวตโนแทนที่จะเลือกน้ำเงิน ทั้งที่กระแสรักชาติมาแรง 

ภูริกา เดินปราศรัยย่อยทุกหมู่บ้าน

กุ้ง-ลูกขุนหาญหลานภูสิงห์
 

“กุ้ง” ภูริกา สมหมาย ทายาทของ อมรเทพ สมหมาย อดีต สส.ศรีสะเกษ ผู้ล่วงลับ ชูคำขวัญท้องถิ่นนิยม “ลูกขุนหาญ หลานภูสิงห์” มาหาเสียงทุกเวที และเดินเคาะประตูบ้าน

 

เนื่องจาก อ.ขุนหาญ และ อ.ภูสิงห์ ประชากรส่วนใหญ่เป็นชาวกูย (ส่วย) ที่ชื่นชมอดีตนายกฯ ทักษิณ และนโยบายประชานิยม มาตั้งแต่สมัยพรรคไทยรักไทย

 

แบรนด์ทักษิณ แบรนด์แดงเพื่อไทย อยู่ในใจชาวกูย (ส่วย) นับแต่การเลือกตั้งปี 2544 จนถึงการเลือกตั้งปี 2566 พรรคการเมืองของทักษิณชนะในพื้นที่นี้มาโดยตลอด

 

อย่าง อมรเทพ สมหมาย เป็น สส.ศรีสะเกษ พรรคไทยรักไทย ปี 2548 จากนั้น อมรเทพ ย้ายไปอยู่พรรคชาติไทยพัฒนา 2 สมัย ก็สอบตกหมด

 

กระทั่ง ธีระ ไตรสรณกุล อดีต สส.ศรีสะเกษ เขต 5 ทิ้งเพื่อไทยไปอยู่ภูมิใจไทย อมรเทพจึงได้กลับมาเป็น สส.อีกรอบในนามเพื่อไทย

 

จะว่าไปแล้ว “กุ้ง” ภูริกา สมหมาย มีประสบการณ์ทางการเมืองมานานกว่า 20 ปี เพราะเป็น “หลังบ้าน” สนับสนุนบิดา-อมรเทพ สมหมาย และเธอยังเป็นนักปราศรัยฝีปากดี เรียกน้ำตาจากชาวบ้านได้

 

จังหวะนี้ กระแสเพื่อไทยร่วงหนัก หลังคดีคลิปเสียง ที่ส่งผลให้ แพทองธาร ชินวัตร หลุดเก้าอี้นายกฯ ทำให้ขายแบรนด์พรรคขาย แบรนด์ทักษิณขายไม่ได้

 

โค้งสุดท้าย “กุ้ง” ภูริกา จึงหันไปใช้ลูกอ้อนขอคะแนนชาวบ้าน ขอโอกาสไปทำงานแทนบิดา

 

กูรูการเมืองศรีนครลำดวนเชื่อว่า การเลือกตั้งซ่อม สส.ศรีสะเกษ เขต 5 แดง-น้ำเงิน ซึ่งวัดผลแพ้ชนะที่ “กระแส” และ “ทรัพยากร” เพื่อการเลือกตั้ง