
นายสุชาติ ชมกลิ่น รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม แกนนำกลุ่ม 16 ให้สัมภาษณ์ถึงความชัดเจนของกลุ่ม 16 ในการสังกัดพรรคการเมืองว่า มีความชัดเจนนานแล้ว ซึ่งด้วยมารยาท และ สส.บางคน ยังสังกัดพรรคการเมืองเดิมอยู่ แต่ยืนยันว่า ตนและทีมงานผู้ใหญ่ของพรรคภูมิใจไทย โดยเฉพาะนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย และนายไชยชนก ชิดชอบ เลขาธิการพรรคภูมิใจไทย รู้จักกันมาเป็น 10 ปีแล้ว มีความผูกพัน ทำงานร่วมกัน ตั้งแต่ตนได้รับโอกาสในรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งขณะนั้น นายอนุทินเป็นรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ดังนั้น ตนจึงขอพูดอย่างชัดเจนว่า เร็ว ๆ นี้ตนและทีมงานแต่ละจังหวัด จะไปสมัครพรรคภูมิใจไทย ทั้ง จ.เพชรบุรี ครอบครัวอังกินันทน์ และยังมีทีม สส.อีกหลายจังหวัด ซึ่งแต่ละจังหวัดมีแกนอยู่แล้ว จะไปสมัครเป็นสมาชิกพรรคภูมิใจไทย โดยขณะนี้ กำลังประสานหารือกับนายอนุทิน และแกนนำของพรรคภูมิใจไทยอยู่ รอแค่วันเวลา พร้อมยอมรับว่า มีระยะเวลาทำงานแค่ 4 เดือน ตนก็ต้องเร่งงานในส่วนของภารกิจ และหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายในหน้าที่ของรัฐมนตรีด้วย
นายสุชาติ บอกด้วยว่า จะไปเปิดตัวกับพรรคภูมิใจไทย เร็ว ๆ นี้ แต่ขอคุยกับผู้ใหญ่ในเรื่องการจัดสรรลงสมัคร สส.เขตให้ลงตัวก่อน พร้อมย้ำว่า การที่มาร่วมงานกับพรรคภูมิใจไทย มีความตั้งใจตั้งแต่แรกอยู่แล้ว ซึ่งที่ผ่านมาหากตนคนเดียวมาได้อยู่แล้ว แต่มาทั้งทีต้องมาทั้งหมด จึงต้องมีการหารือในเรื่องพื้นที่
ส่วนการย้ายพรรคครั้งนี้ พื้นที่จะไม่ทับซ้อนกันใช่หรือไม่นั้น นายสุชาติ กล่าวว่า ไม่ทับซ้อนอยู่แล้ว เช่น ที่จังหวัดนครศรีธรรมราช มี นางสาวพิมพ์ภัทรา วิชัยกุล สส.นครศรีธรรมราช ซึ่งไม่ได้ทับซ้อน และคนที่เป็น สส.อยู่ต้องได้รับสิทธิก่อนในทางการเมือง
ส่วนสส.บัญชีรายชื่อนั้น นายสุชาติ บอกว่า อย่างตนก็ต้องลงพื้นที่เอง ซึ่งตนเคยเป็น สส.เขตมาแล้วถึง 3 รอบ ยังไงก็มีพื้นที่อยู่แล้ว และจะไม่ทำอะไรให้พรรคภูมิใจไทยหนักใจ และจะไม่ทำอะไรให้เพื่อนที่มาด้วยกันเสียสิทธิ และเพื่อนที่มาทุกคนด้วยกันต้องได้สิทธิ แต่ที่ยากคือการไปพูดคุยกับผู้บริหารพรรคภูมิใจไทยในเรื่องสิทธิของคนเดิมที่ได้เป็น สส.อยู่ ที่ควรจะต้องได้สิทธิ์ตามนั้น เพราะเรามากันเป็นทีมแบบพี่ แบบน้อง เหมือนที่นายกรัฐมนตรี ได้พูดในคณะรัฐมนตรีว่า ทำงานเหมือนพี่น้อง และกับตน ถ้าทำงานการเมืองในภาค สส.ก็เหมือนพี่เหมือนน้อง ทิ้งกันไม่ได้ ต้องเจรจากันในเรื่องนี้
ส่วนของผู้สมัครคนเดิมของพรรคภูมิใจไทยที่เคยแพ้ให้สส.กลุ่ม 16 จะพูดคุยเรื่องนี้อย่างไรนั้น นายสุชาติ กล่าวว่า ต้องไปคุยกับผู้ใหญ่ในพรรคภูมิใจไทยในเรื่องนี้ แต่เชื่อว่า บนพื้นฐานของนักการเมืองด้วยกัน เข้าใจว่าคนที่เป็น ต้องได้รับสิทธิก่อน คนที่สอบไม่ผ่าน ก็ต้องไปยืนในตำแหน่งอื่นทางการเมืองแทน
ส่วนต้องมีการทำโพลหรือไม่นั้น นายสุชาติ กล่าวว่า พวกเราเป็น สส.กันแล้ว ไม่ใช่การขายสินค้า บางทีก็ต้องให้ให้เกียรติ สส.ที่เป็นสส.อยู่แล้ว เพราะเหนือกว่าผู้สมัครหลาย ๆ คน ต้องยอมรับในศักยภาพ และอาจอาศัยว่า ขอดูแลพื้นที่ของเพื่อนเราที่สนิทสนม อาทิ ฉะเชิงเทรา เพชรบุรี พร้อมมั่นใจว่า ไม่มีใครประสานได้ดีเท่ากับตนเอง แม้ว่าตนเองจะไม่ได้มีทั้งภาค แต่ก็มีจังหวัดละ 2-3 คน
ส่วนหากนายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ อดีตเลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ จะไปร่วมกับพรรคภูมิใจไทยด้วยนั้น นายสุชาติ กล่าวว่า ไม่มีประเด็น พรรคการเมืองเหมือนชายคาบ้านที่อบอุ่น วันนี้พรรคภูมิใจไทย เป็นที่อบอุ่นสำหรับตน และทุกคนในกลุ่มเห็นตรงกันว่า การทำการเมืองครั้งหน้าต้องไปอยู่พรรคภูมิใจไทย ด้วยความเคารพนับถือหัวหน้าพรรค และเลขาธิการพรรค โดยเฉพาะนายอุทิน ในฐานะหัวหน้าพรรคที่มีความกรุณาต่อตนเองหลายเรื่อง
ส่วนจะเข้ามาดูแลในภาคตะวันออกให้พรรคภูมิใจไทยใช่หรือไม่นั้น นายสุชาติ ยืนยันว่า แน่นอน และดูอย่างเต็มที่ เพราะพรรคภูมิใจไทยมีแกนหลักที่ดูแลภาคตะวันตก ก็มาผสมกันทำให้ดีขึ้น
ส่วนภาคใต้ อาจจะต้องชนกับร้อยเอกธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรมนั้น นายสุชาติ กล่าวว่า ทุกอย่าง รู้อยู่แล้วว่า ศักยภาพของใครเป็นอย่างไร เช่น ตนเองเป็นแชมป์อยู่แล้ว จะมาแข่งกับตนก็ต้องคิดเยอะ หรือถ้าตนจะไปแข่งกับแชมป์ก็ต้องคิดเยอะ แต่ย้ำว่า หลีกให้กันไม่ได้ ต้องสู้กัน