กันยาเดือด “ฮิงบุนเฮียง” BHQ โผล่แนวหน้า “แม่ทัพกุ้ง” ขยับเปลี่ยนม้ากลางศึก
ทัพไทยเปลี่ยนม้ากลางศึก “ฮิงบุนเฮียง” ผบ.BHQ ฉวยจังหวะโผล่พระวิหาร “พล.ท.บุญสิน” ขยับตอบโต้แผนลอบกัด
กันยาส่อเดือด ฮิงบุนเฮียง ผบ.BHQ โผล่ชายแดนพระวิหาร พล.ท.บุญสิน สั่งทหารยิงทันที ถ้าเขมรลอบวางทุ่นระเบิด
แม่ทัพ BHQ กบดานนาน 1 เดือนเต็ม ท่ามกลางกระแสข่าวลือ ฮุนมาเนต สั่งเคลื่อนทหารสายตรงตระกูลฮุน มุ่งสู่ชายแดน
จบไปแล้ว การประชุม RBC ไทย-กัมพูชา ครบทั้ง 3 พื้นที่ รอวัดใจในการพูดคุยระดับ GBC รอบใหม่ที่ จ.เสียมราฐ
พลันที่การเจรจา RBC จบลง ทหารไทยเหยียบได้กับระเบิดขาขาด เป็นรายที่ 6 พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 จึงอนุมัติให้ทุกหน่วยยิงได้ทันที หากพบการเคลื่อนไหวของทหารเขมร ที่จะลอบเข้ามาวางทุ่นระเบิด หรือเจตนารุกล้ำดินแดนไทย
ฝั่งกองทัพภาคที่ 1 กองกำลังบูรพาได้ประกาศใช้กฎอัยการศึกคุมพื้นที่บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ขีดเส้น ถ.ศรีเพ็ญ เป็นแนวรักษาความสงบ เนื่องจากที่ผ่านมา มีมวลชน 2 ชาติมาเผชิญหน้ากันที่รั้วลวดหนาม
ขณะที่ พล.อ.ฮิง บุนเฮียง รองผู้บัญชาการทหารสูงสุด และผู้บัญชาการทหารอารักขา BHQ ได้ปรากฏตัวที่ จ.พระวิหาร หลังเขาหายหน้าไป 1 เดือนเต็ม
เขมรเล่นกลซ่อนกาย
ดังที่เคยวิเคราะห์เรื่องการหายตัวไปของ พล.อ.ฮิง บุนเฮียง ว่าเล่นบทมังกรซ่อนกาย เพื่อทำภารกิจลับ หรือหายตัวไปรักษาการบาดเจ็บในโรงพยาบาลแห่งใดแห่งหนึ่ง
ล่าสุด วันที่ 28 ส.ค.นี้ พล.อ.ฮิง บุนเฮียง ผบ.หน่วย BHQ ได้ปรากฏตัวที่วัด 2 แห่งใน อ.จอมกระสาน จ.พระวิหาร โดยมีการนำสิ่งของอุปกรณ์และปัจจัยไปถวายแด่พระสงฆ์ที่จำพรรษา
เย็นวันเดียวกัน ผู้ใช้บัญชีเฟซบุ๊ค ANöuch ÄLeäp ที่เป็นลูกสาวของ พล.อ.ฮิง บุนเฮียง ได้โพสต์ภาพเก่ามารดาหอมแก้มบิดา พร้อมข้อความว่า
“พ่อของลูกที่รัก ห่างหายจากแม่และลูกไป 3 เดือนเพื่อประเทศชาติ คิดถึงมาก” (ลูกสาวของเขาหมายถึงนับแต่วันที่พ่อไปประจำการที่ชายแดนปลายเดือน พ.ค.นี้)
นับว่าเป็นครั้งแรกของ พล.อ.ฮิง บุนเฮียง ที่มีความเคลื่อนไหวต่อสาธารณชน หลังเขาหายตัวไปพร้อมกับ พล.อ.สรัย ดึก รองผู้บัญชาการทหารบก ตั้งแต่วันหยุดยิง 28 ก.ค.2568
ประมาณต้นเดือน ส.ค.นี้ มีการเคลื่อนไหวของ พล.อ.นพ รัตนนิมล รองผู้บัญชาการกองบัญชาการทหารองครักษ์ BHQ โดยเดินสายออกเยี่ยมทหารที่ได้รับบาดเจ็บ และมอบสิ่งของช่วยเหลือครอบครัวทหาร BHQ ในฐานะผู้แทน พล.อ.ฮิง บุนเฮียง
นัยว่า กองกำลังหน่วย BHQ ,รบพิเศษ 911 และกองพลน้อยที่ 70 ยังประจำการที่ชายแดนด้าน จ.พระวิหาร และ จ.อุดรมีชัย
นอกจากนี้ ยังมีการเคลื่อนกำลังหน่วยรบพิเศษเข้ามาที่แนวหน้า เพื่อผลัดเปลี่ยนกองกำลังชุดเดิมที่เหนื่อยล้า
แหล่งข่าวความมั่นคงประเมินว่า สงครามรอบใหม่จะเกิดขึ้นอีกหรือไม่ ก็ต้องดูบทสรุปจากเวทีประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป(GBC) ในวันที่ 8-10 ก.ย. 2568 ที่ จ.เสียมราฐ กัมพูชา
หากผลประชุม GBC รมว.กลาโหม 2 ชาติคุยกันไม่รู้เรื่อง กัมพูชายังเล่นเกมสองหน้า การสู้รบครั้งใหม่ย่อมหลีกเลี่ยงไม่พ้น
ไทยเปลี่ยนม้ากลางศึก
สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ฝ่ายความมั่นคงไทยกังวลว่า อาจจะเกิดการปะทะรอบใหม่ ตั้งแต่ต้นเดือนกันยายนเป็นต้นไป เนื่องจากช่วงนั้น เป็นช่วงเวลาการเปลี่ยนม้ากลางศึกของกองทัพไทย
นัยว่าระดับ ผบ.เหล่าทัพ ที่จะเกษียณพร้อมกัน ตั้งแต่ปลัดกระทรวงกลาโหม ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ผู้บัญชาการทหารอากาศ และผู้บัญชาการทหารเรือ
ส่วนระดับปฏิบัติการ พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 เกษียณอายุราชการ และ พล.ท.อมฤต บุญสุยา แม่ทัพภาคที่ 1 มีแนวโน้มน่าจะมีการปรับย้าย
“แม่ทัพปู” พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ยังคงเป็นผู้บัญชาการทหารบกโดยตำแหน่งที่ถูกจับตามองคือ “แม่ทัพใหญ่” พล.ท.อมฤต บุญสุยา จะขยับขึ้นเป็นผู้ช่วย ผบ.ทบ.ตามไลน์
นักข่าวสายทหารคาดว่า พล.อ.พนา จะเสนอชื่อ พล.ท.วรยส เหลืองสุวรรณ แม่ทัพน้อยที่ 1 (ตท.28) เป็นแม่ทัพภาคที่ 1 คนใหม่ เพื่อจะไปจ่อเข้าไลน์ 5 เสือ ทบ.ในปี 2569
ด้านกองทัพภาคที่ 2 “รองเติ่ง” พล.ต.วีระยุทธ รักษ์ศิลป์ รองแม่ทัพภาคที่ 2 เต็งจ๋าคว้าตำแหน่งแม่ทัพภาคที่ 2 แทนเพื่อนรัก พล.ท.บุญสิน
ดังนั้น ช่วงเปลี่ยนม้ากลางศึกในกองทัพไทย ส่วนใหญ่จะเป็นช่วงสุญญากาศของการทำงาน จึงต้องจับตาความเคลื่อนไหวของฝ่ายกัมพูชาอย่างใกล้ชิด
ฝั่งกัมพูชา อาจอาศัยช่วงเวลาเปราะบางนี้เข้าโจมตีฝ่ายไทยอีกครั้ง เมื่อเห็นภาพ พล.อ.ฮิง บุนเฮียง แม่ทัพใหญ่ BHQ ปรากฏตัวที่ชายแดนใกล้ภูมะเขือ-ช่องอานม้า จ.พระวิหาร