svasdssvasds
เนชั่นทีวี

คอลัมนิสต์

แพ้ภัยตัวเอง “ฮุนเซน” เล่นกลพึ่งทรัมป์ “ฮุนมาเนต” ไม่ทิ้งจีน-เวียดนาม

เซ่นพิษสงคราม 5 วัน “ฮุนเซน” มนต์เสื่อม “ฮุนมาเนต” เล่นกลพึ่งทรัมป์ ไม่ทิ้งพี่ใหญ่จีน ไม่ลืมพระคุณเวียดนาม

พิษสงคราม 5 วัน ฮุนเซน ศรัทธาเสื่อมถอย ฮุนมาเนต พึ่งบารมีพ่อ เล่นเกมหลายหน้า หวนซบสหรัฐฯ ไม่ทิ้งจีน-เวียดนาม

ฝ่ายค้านรุมแฉตระกูลฮุนเซนร่ำรวยมั่งคั่ง กองทัพกัมพูชาอ่อนแอ ไร้อาวุธทันสมัย จึงพ่ายกองทัพไทย เสียดินแดน 11 จุด

เช้าวันที่ 23 ส.ค.2568 สมเด็จฮุน เซน โพสต์เฟซบุ๊คว่า “เมื่อวานนี้(22 ส.ค.) เป็นวันครบรอบ 2 ปี ที่ผมลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี โดยมี ฮุน มาเนต มาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีสืบต่อ (22 ส.ค.2566 – 22 ส.ค.2568)…ตลอดระยะเวลา 2 ปี ถือว่าเพียงพอที่จะเข้าใจได้ว่าการนำและการบริหารจากฝ่ายผู้นำรุ่นใหม่ในทุกๆด้าน”

คำว่า “ผู้นำรุ่นใหม่” ของสมเด็จฮุน เซน หมายถึงลูกหลานในตระกูลผู้นำพรรคประชาชนกัมพูชา(CPP) และพวกพ้อง

พูดตรงๆ ราชอาณาจักรกัมพูชา ไม่ต่างอะไรกับ “รัฐส่วนตัว” ของฮุนเซน จะถ่ายโอนและจ่ายแจกอำนาจทางการเมืองให้ใครก็ได้

ทุกวันนี้ สมเด็จฮุน เซน สั่งการรัฐบาลได้ในฐานะประธานพรรคประชาชนกัมพูชา(CPP) โดยที่นายกรัฐมนตรี ต้องเคารพและปฏิบัติตามนโยบายและผู้นำของพรรค

อันที่จริงสถานะตามกฎหมายของสมเด็จฮุน เซน ดำรงตำแหน่งประธานวุฒิสภา ประธานองคมนตรี และหัวหน้าพรรคประชาชนกัมพูชา

หลังสงคราม 5 วัน กองทัพกัมพูชาสูญเสียทหารไปเป็นจำนวนมาก ภาพทหารแนวหน้าโพสต์เฟซบุ๊กขอรับบริจาคเงินทอง มอเตอร์ไซค์ และอื่นๆ ทำให้คนเขมรวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้าง

รวมถึงกลุ่มนักการเมืองฝ่ายค้านในต่างแดนได้อ้างข้อมูลจากทหารแนวหน้าว่า กัมพูชาสูญเสียปราสาทตาเมือนธม ตาควาย ช่องอานม้า ภูมะเขือ และบ้านหนองจานให้ทหารไทย

สมเด็จฮุน เซน จึงพยายามปกปิดความล้มเหลวในการสู้รบที่ชายแดน โดยการมอบหมายให้สาขาพรรคประชาชนกัมพูชาในจังหวัดต่างๆ จัดเดินขบวนเพื่อแสดงความกตัญญูต่อประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา โดนัลด์ ทรัมป์ และร้องขอให้ช่วยไกล่เกลี่ยเพื่อปล่อยตัวทหารกัมพูชา 18 นาย

กิจกรรม “อวยทรัมป์” ก็เป็นกลเกมสร้างภาพให้คนเขมรรู้ว่า กัมพูชาไม่โดดเดี่ยวในเวทีสากล

พ่อลูกในวันที่กระแสตก ฮุนเซนจะอุ้มลูกไปได้นานแค่ไหน

เกมพึ่งพาพญาอินทรี

นักสังเกตทางการเมืองในไทยบางกลุ่ม รู้สึกตื่นเต้นกับท่าทีของกัมพูชาที่มีความโน้มเอียงไปหาสหรัฐฯ โดยเฉพาะกองเรือรบสหรัฐฯ ที่จะเข้าเทียบท่าฐานทัพเรือเรียม ในวันที่ 25 ส.ค.นี้

จริงๆแล้ว เมื่อเดือน ธ.ค.2567 เรือประจัญบานกองทัพเรือสหรัฐฯ ได้เข้าเทียบท่าที่ท่าเรือน้ำลึกสีหนุวิลล์ มาแล้ว ซึ่งเป็นการฟื้นฟูมิตรภาพสหรัฐ-กัมพูชา อีกครั้ง

10 กว่าปีที่แล้ว สหรัฐฯ เคยเป็นพันธมิตรที่เข้มแข็งของกองทัพกัมพูชา สหรัฐฯ ได้ใช้ฐานทัพเรือเรียม สำหรับการฝึกร่วมทางทหารกับกัมพูชา

หลังปี 2560 สหรัฐฯ ประกาศระงับความร่วมมือระหว่างกองทัพทั้งสองประเทศ เพื่อลงโทษกัมพูชา กรณีสมเด็จฮุน เซน ยุบพรรคฝ่ายค้าน และกลั่นแกล้งจับกุมอดีตหัวหน้าพรรคกู้ชาติกัมพูชา(CNRP)

ประกอบกับเวลานั้น รัฐบาลฮุนเซน ได้หันไปพึ่งพาจีนเต็มที่ และเปิดทางให้มีการพัฒนาฐานทัพเรือเรียม จนมีข่าวลือมากมาย

ดังนั้น บทวิเคราะห์ที่ว่า ฮุนเซนหักปักกิ่ง ซบวอชิงตัน เพื่อขอความช่วยเหลือมาพัฒนากองทัพกัมพูชา ไม่น่าจะเป็นข้อสรุปที่ถูกต้องเสียทีเดียว

“จีน-เวียดนาม” สหายเก่า

นักการเมืองที่เติบโตมาจากภารกิจงานต่างประเทศอย่างสมเด็จฮุน เซน เลือกที่จะใช้กลยุทธ์การทูต “สองหน้า” จึงไม่คิดจะทิ้งจีน และไปพึ่งพาสหรัฐฯอย่างเดียว

กรณีพระบาทสมเด็จพระบรมนาถ นโรดม สีหมุนี และพระบรมราชชนนี นโรดม มุนีนาถ สีหนุ เสด็จพระราชดำเนินสู่กรุงปักกิ่ง ประเทศจีน เพื่อตรวจสุขภาพประจำปี เมื่อ 23 ส.ค.นี้ นี่คือรูปธรรมของการยืนยันความสัมพันธ์กัมพูชา-จีน ยังไม่เปลี่ยน

ทำนองเดียวกัน สมเด็จฮุน เซน ก็ไม่เคยลืมผู้มีพระคุณอย่างเวียดนาม โดยพิธีเฉลิมฉลองครบรอบ 80 ปี ปฏิวัติเดือนสิงหาคม และวันชาติสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม ในวันที่ 2 ก.ย.นี้ ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรี จะเดินทางไปร่วมงานดังกล่าวในฐานะแขกพิเศษ

นอกจากนี้ ฮุน มาเนต ได้ส่งทหารกัมพูชา 2 กองร้อย เข้าร่วมพิธีสวนสนามที่ยิ่งใหญ่ เช่นเดียวกับทหารจีน และทหารลาว

เมื่อค่ำวันที่ 21 ส.ค.ที่ผ่านมา สมเด็จฮุน เซน สมเด็จพิชัยเสนาเตีย บัญ และแกนนำพรรค CPP ได้เข้าร่วมพิธีฉลอง 80 ปีวันปฏิวัติ และวันชาติเวียดนาม ที่โรงแรม Sofitel Phnom Penh ซึ่งจัดโดยสถานทูตเวียดนาม

การรักษาความสัมพันธ์กับจีน และเวียดนาม น่าจะเป็นทางรอดของพ่อลูก สมเด็จฮุน เซน และฮุน มาเนต ในวิกฤตชายแดนไทย-กัมพูชาครั้งนี้
 

งานฉลองสายสัมพันธ์กัมพูชา-เวียดนาม ที่กรุงพนมเปญ