svasdssvasds
เนชั่นทีวี

กีฬา

โค้งสุดท้ายศึกชิงรางวัลส่วนบุคคล "ฟุตบอลโลก 2022"

16 ธันวาคม 2565
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

เหลืออีก 2 นัดเท่านั้น "ฟุตบอลโลก 2022" จะจบลงอย่างเป็นทางการ ซึ่งนอกจากการแย่งชิงตำแหน่งแชมป์โลกแล้ว รางวัลส่วนบุคคลทั้ง 3 รางวัล ก็ถือว่าน่าติดตามไม่แพ้กัน

"ฟุตบอลโลก 2022" เหลืออีกเพียง 2 นัดเท่านั้นเราก็จะได้รู้กันแล้วว่าทีมใดจะคว้าแชมป์โลกครั้งนี้ไปครอง ระหว่าง "อาร์เจนตินา vs ฝรั่งเศส" รวมถึงเกมนัดชิงที่ 3 "โครเอเชีย vs โมร็อกโก" ที่จะตัดสินกันในวันเสาร์และอาทิตย์นี้

 

อีกส่วนหนึ่งที่น่าติดตามไม่แพ้กันก็คือรางวัลส่วนบุคคลอีก 3 รางวัล ที่เหล่านักเตะกำลังขับเคี่ยวแย่งชิงกันอย่างเข้มข้น และยังมองไม่ออกว่าใครจะได้รางวัลไหนไป จนกว่า 2 นัดสุดท้ายจะจบลง

ลิโอเนล เมสซี่ และ ฮูเลี่ยน อัลวาเรซ รางวัลดาวยิงสูงสุด (รองเท้าทองคำ)
รองเท้าทองคำเป็นรางวัลสำหรับผู้ทำประตูสูงสุดในฟุตบอลโลก โดยนับถึงเวลานี้ผู้ที่ทำประตูได้มากที่สุดก็คือ 2 สตาร์ดังจากทีมที่เข้าชิง นั่นคือ ลิโอเนล เมสซี (อาร์เจนตินา) และ คีลิยัน เอ็มบัปเป้ (ฝรั่งเศส) โดยยิงไปแล้ว 5 ประตูเท่ากัน

 

นอกจากนี้ ฮูเลียน อัลวาเรซ ของอาร์เจนตินา และโอลิวิเยร์ ชิรูด์ ของฝรั่งเศส ก็ยังมีลุ้นเช่นกันโดยยิงไปแล้ว 4 ประตู

 

สำหรับรองเท้าทองคำจะตัดสินจากจำนวนประตูทั้งหมดที่ผู้เล่นแต่ละคนทำได้ แต่หากยิงได้เท่ากันมากกว่า 1 คน รางวัลนี้จะไปตัดสินกันที่จำนวนแอสซิสต์ รวมถึงจำนวนนาทีที่ลงสนาม ดังนั้น เมสซี่ จึงได้เปรียบมากที่สุดเพราะทำไปแล้ว 3 แอสซิสต์ ขณะที่ เอ็มบัปเป้ ทำ 2 แอสซิสต์ ส่วนจำนวนนาทีที่ลงสนามนั้น เมสซี่ เล่นไปแล้ว 570 นาที มากกว่าเอ็มบัปเป้ที่เล่นไป 477 นาที

 

ในอดีต การชิงรางวัลรองเท้าทองคำมีความเข้มข้นอย่างมาก ยกตัวอย่างเช่นในศึกฟุตบอลโลก 2010 ที่โธมัส มุลเลอร์ (เยอรมนี) ยิงได้ 5 ประตูเท่ากับเวสลีย์ สไนจ์เดอร์ (เนเธอร์แลนด์), ดาบิด บีย่า (สเปน) และดีเอโก้ ฟอร์ลัน (อุรุกวัย) แต่ มุลเลอร์ ทำแอสซิสต์ได้มากที่สุดจึงคว้ารางวัลนี้ไปครอง

โดมินิค ลิวาโควิช ผู้รักษาประตูยอดเยี่ยม (ถุงมือทองคำ)
ถุงมือทองคำมอบให้กับผู้รักษาประตูที่มีผลงานดีที่สุดในฟุตบอลโลก โดยมีนายทวารชื่อดังที่เคยคว้ารางวัลนี้มาแล้ว เช่น โอลิเวอร์ คาห์น (เยอรมนี), อิเกร์ กาซียาส (สเปน), มานูเอล นอยเออร์ (เยอรมนี), จานลุยจิ บุฟฟ่อน (อิตาลี) นับตั้งแต่มีการมอบรางวัลนี้ครั้งแรกเมื่อปี 1994

 

ผู้ชนะจะได้รับการตัดสินโดยคณะกรรมการด้านเทคนิคของฟีฟ่า ซึ่งตัดสินจากฟอร์มการเล่น พัฒนาการ สถิติการเซฟ และจำนวนนาทีที่ลงสนาม

 

สำหรับตัวเต็งรางวัลดังกล่าวในปีนี้ นายทวารจาก 4 ทีมที่ผ่านถึงรอบตัดเชือก ถือว่าเข้าข่ายทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น เอมิเลียโน่ มาร์ติเนซ (อาร์เจนตินา), โดมินิค ลิวาโควิช (โครเอเชีย) และ ยาสซีน บูนู (โมร็อกโก) ที่ระเบิดฟอร์มเซฟจุดโทษจนพาทีมผ่านเข้ารอบมาได้ ขณะที่ อูโก้ โยริส (ฝรั่งเศส) แม้จะไม่ได้โชว์ฝีมือในการดวลจุดโทษ แต่เขาคือผู้รักษาประตูของทีมที่ผ่านเข้าชิงฟุตบอลโลกได้ถึง 2 สมัยติดต่อกัน

คีลิยัน เอ็มบัปเป้ นักเตะยอดเยี่ยม (ลูกบอลทองคำ)
ลูกบอลทองคำจะมอบให้กับผู้เล่นที่ทำผลงานได้ดีที่สุดในฟุตบอลโลก โดยสมาชิกที่ได้รับเลือกจากสื่อทั่วโลกจะลงคะแนนเลือกจากรายชื่อผู้เข้าชิงที่คัดเลือกโดยคณะกรรมการด้านเทคนิคของฟีฟ่า

 

แม้ว่าผลลัพธ์ขั้นสุดท้ายอาจขึ้นอยู่กับผลการแข่งขันในรอบชิงชนะเลิศ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า เมสซี่ และ เอ็มบัปเป้ คือตัวเต็งสำหรับรางวัลดังกล่าวในปีนี้ รวมถึง ลูก้า โมดริช (โครเอเชีย), อองตวน กรีซมันน์ (ฝรั่งเศส), โดมินิค ลิวาโควิช (โครเอเชีย) และ อัชราฟ ฮาคิมี่ (โมร็อกโก) ที่มีลุ้นอยู่ห่างๆเช่นกัน

 

รางวัลลูกบอลทองคำมีการมอบครั้งแรกในฟุตบอลโลกปี 1982 โดย เปาโล รอสซี กองหน้าชาวอิตาลีคว้าไปครอง (เช่นเดียวกับรางวัลรองเท้าทองคำที่เจ้าตัวได้ไปในปีนั้น) นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา มีผู้ได้รับรางวัลมากมาย เช่น ดิเอโก มาราโดนา (1986), โรนัลโด้ (1998) และโมดริช (2018)

 

แต่ช่วงหลังรางวัลนี้ถูกตั้งข้อสังเกตว่ากลายเป็นรางวัลปลอบใจผู้แพ้ เพราะในปี 2018 ลูก้า โมดริช (โครเอเชีย) ได้รางวัลนี้หลังพ่ายฝรั่งเศสในนัดชิง, ปี 2014 ลิโอเนล เมสซี่ (อาร์เจนตินา) ได้รางวัลนี้หลังพ่ายเยอรมนีในนัดชิง, ปี 2006 ซีเนดีน ซีดาน (ฝรั่งเศส) ได้รางวัลนี้หลังพ่ายอิตาลีในนัดชิง และปี 2002 ที่ โอลิเวอร์ คาห์น (เยอรมนี) ได้รางวัลนี้หลังพ่าย บราซิล ในนัดชิง จึงกลายเป็นภาพแปลกตาที่เราต้องเห็นผู้ได้รางวัลนี้ถือลูกบอลทองคำอย่างเศร้าสร้อยพร้อมมองดูการเฉลิมฉลองของทีมคู่แข่งที่คว้าแชมป์โลก

logoline