svasdssvasds
เนชั่นทีวี

กีฬา

"อาร์เจนตินา vs ฝรั่งเศส" โหมโรงก่อนตัดสินแชมป์ "ฟุตบอลโลก 2022"

16 ธันวาคม 2565
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

ใกล้เข้ามาแล้วกับ "ฟุตบอลโลก 2022" รอบชิงชนะเลิศ "อาร์เจนตินา vs ฝรั่งเศส" สองทีมดังที่มีประวัติศาสตร์ในฟุตบอลโลกอันยาวนาน และครั้งนี้จะมี "แชมป์โลกสมัย 3" เป็นเดิมพัน

ฟุตบอลโลก 2022 ที่ประเทศกาตาร์ รอบชิงชนะเลิศ "ฟ้าขาว" อาร์เจนตินา พบ "ตราไก่" ฝรั่งเศส ที่สนาม ลูซาอิล ไอคอนิก สเตเดี้ยม ในวันอาทิตย์นี้ (18 ธ.ค.) เวลา 22.00 น. ตามเวลาประเทศไทย ถ่ายทอดสดทางช่อง True4U และ CH7

"อาร์เจนตินา vs ฝรั่งเศส" โหมโรงก่อนตัดสินแชมป์ "ฟุตบอลโลก 2022"

อาร์เจนตินา
คว้าแชมป์โลกมาแล้ว 2 สมัยเมื่อปี 1978 ที่พวกเขาเป็นเจ้าภาพ และมี ดาเนียล พาสซาเรลล่า กับ มาริโอ เคมเปส เป็นตัวชูโรง และปี 1986 ที่มี ดีเอโก้ มาราโดน่า ตำนานนักเตะหมายเลข 1 ของโลกตลอดกาลนำทัพ

 

นอกจากนี้ อาร์เจนตินา ยังเข้ารอบชิงชนะเลิศอีก 3 ครั้ง ในปี 1930, 1990 และ 2014 หลังจากการแพ้ครั้งสุดท้ายในปี 2014 พวกเขาก็แพ้ให้กับชิลีในรอบชิงชนะเลิศศึก โกปา อเมริกา 2 ครั้งติดต่อกันในปี 2015 และ 2016 

 

หลังจากผลงานที่น่าผิดหวังในศึกฟุตบอลโลก 2018 ที่รัสเซีย ซึ่งพวกเขาแพ้ให้กับฝรั่งเศสในรอบ 16 ทีมสุดท้าย ต่อด้วยการจบอันดับที่ 3 ในศึกโกปา อเมริกา 2019 "ลิโอเนล สกาโลนี" ก็ได้รับการแต่งตั้งให้เข้ามาเป็นกุนซือคนใหม่ และสามารถพาอาร์เจนตินาคว้าแชมป์เมเจอร์ได้เป็นครั้งแรกในรอบ 28 ปี ในศึก โกปา อเมริกา 2021 ด้วยการเอาชนะ บราซิล ในรอบชิงชนะเลิศ 1-0 และนับเป็นแชมป์แรกในนามทีมชาติของ ลิโอเนล เมสซี่ ด้วย

 

จากนั้น อาร์เจนตินาก็มาคว้าแชมป์อีก 1 รายการ ในศึก "ฟินาลิสซิม่า 2022" ที่เป็นการเจอกันระหว่างแชมป์ยุโรปกับแชมป์อเมริกาใต้ โดย อาร์เจนตินา ชนะ อิตาลี ขาดลอย 3-0 

"อาร์เจนตินา vs ฝรั่งเศส" โหมโรงก่อนตัดสินแชมป์ "ฟุตบอลโลก 2022" ฝรั่งเศส
อดีตแชมป์โลก 2 สมัยเมื่อปี 1998 และ 2018 ซึ่งนี่เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2002 ที่มีทีมเข้าชิงชนะเลิศ 2 ครั้งติดต่อกัน และเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 1998 ที่แชมป์เก่าได้เข้ามาป้องกันแชมป์ นอกจากนี้ ฝรั่งเศส ยังเคยผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศมาอีก 1 ครั้งเมื่อปี 2006 แต่แพ้อิตาลีในการดวลจุดโทษ 

 

ภายใต้การคุมทัพของ ดีดิเยร์ เดส์ชองส์ ที่คว้าแชมป์โลกกับฝรั่งเศสเมื่อปี 1998 "ตราไก่" พลาดแชมป์มาแล้วหลายครั้ง ทั้งฟุตบอลโลก 2014, ยูโร 2016 และ 2020 แต่ก็มาได้แชมป์โลกเมื่อปี 2018 และจากการเป็นแชมป์เก่าจึงปฏิเสธไม่ได้ว่าพวกเขาคือหนึ่งในทีมเต็งแชมป์ครั้งนี้มาตั้งแต่ก่อนทัวร์นาเมนต์ที่กาตาร์จะเริ่มต้นขึ้น

 

ฝรั่งเศสยังตั้งเป้าที่จะเป็นทีมที่ 3 ในประวัติศาสตร์ที่สามารถป้องกันแชมป์โลกไว้ได้สำเร็จ ต่อจากอิตาลี (1934-1938) และ บราซิล (1958-1962) หรือเป็นทีมแรกในรอบ 60 ปีที่ป้องกันแชมป์โลกได้สำเร็จนั่นเอง

 

ขณะที่ ดีดิเยร์ เดส์ชองส์ กุนซือของทีม หากคว้าแชมป์ครั้งนี้ได้ก็จะทำให้เขากลายเป็นกุนซือรายที่ 2 ในประวัติศาสตร์ที่สามารถคว้าแชมป์โลกได้ถึง 2 สมัย ต่อจาก วิตตอริโอ ปอซโซ่ ที่นำทีมชาติอิตาลีคว้าแชมป์เมื่อปี 1934-1938

 

นอกจากนี้ เดส์ชองส์ ยังมีโอกาสเป็นคนที่ 3 ในประวัติศาสตร์ที่คว้าแชมป์โลกได้ 3 สมัยอีกด้วย ต่อจาก เปเล่ ตำนานนักเตะชาวบราซิล ที่คว้าแชมป์โลกในฐานะนักเตะทั้ง 3 ครั้ง (1958, 1962, 1970) และ มาริโอ ซากาโล่  (1958, 1962 ในฐานะผู้เล่น และ 1970 ในฐานะกุนซือ)

"อาร์เจนตินา vs ฝรั่งเศส" โหมโรงก่อนตัดสินแชมป์ "ฟุตบอลโลก 2022" ศึกล้างตารอบ 4 ปี
ทั้งสองชาติจะมีโอกาสพบกันในรอบน็อกเอาต์ฟุตบอลโลกเป็นครั้งที่สองติดต่อกัน ต่อจากปี 2018 ที่ประเทศรัสเซีย ในรอบ 16 ทีมสุดท้าย ซึ่งครั้งนั้นเป็น ฝรั่งเศส ที่ชนะหวุดหวิด 4-3 ในเกมที่สื่อต่างประเทศยกให้เป็น "หนึ่งในเกมฟุตบอลโลกที่ยิ่งใหญ่ที่สุดตลอดกาล" 

 

เกมนั้น อองตวน กรีซมันน์ ยิงจุดโทษให้ "ตราไก่" ออกนำ ก่อนที่ อังเคล ดิ มาเรีย และกาเบรียล เมอร์กาโด้ จะยิงคนละประตูช่วยให้ "ฟ้าขาว" แซงขึ้นนำ 2-1 

 

จากนั้น แบ็งฌาแม็ง ปาวาร์ ก็มายิงวอลเลย์นอกกรอบตีเสมอให้ฝรั่งเศสเป็น 2-2 ซึ่งต่อมาประตูนี้ก็ได้รับการโหวตให้เป็นประตูยอดเยี่ยมของทัวร์นาเมนต์ จากนั้น คีลิยัน เอ็มบัปเป้ ก็มายิง 2 ประตูใน 5 นาที ช่วยให้ "ตราไก่" นำห่าง 4-2 ซึ่งแม้ เซร์คิโอ อเกวโร่ จะมายิงให้อาร์เจนตินาอีกลูกในช่วงทดเจ็บ แต่ก็ไล่ไม่ทัน ต้องตกรอบไปอย่างสุดช้ำ

 

ชมคลิป ฟุตบอลโลก 2018 ฝรั่งเศส 4-3 อาร์เจนตินา >>> คลิกที่นี่

 

ส่วนครั้งนี้ อาร์เจนตินา จะลบรอยแค้นครั้งนั้นได้สำเร็จ หรือจะเป็น ฝรั่งเศส ที่ย้ำแค้นได้อีกครั้ง แฟนบอลรอติดตามกันได้ในคืนวันอาทิตย์นี้

logoline