svasdssvasds
เนชั่นทีวี

กีฬา

สรุป "ตารางคะแนนพรีเมียร์ลีก" และสถานการณ์ลุ้นแชมป์ หลังผ่าน 11 นัด

21 ตุลาคม 2565
เกาะติดข่าวสาร >> Nation Story
logoline

สรุป "ตารางคะแนนพรีเมียร์ลีก" และสถานการณ์ลุ้นแชมป์ซีซั่นนี้ หลังผ่านช่วงออกสตาร์ต 10-11 นัดแรก "อาร์เซน่อล-แมนซิตี้" ฟอร์มแรง ส่วน "ลิเวอร์พูล" เครื่องร้อนช้า

หลังจบเกม พรีเมียร์ลีก ช่วงกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นการผ่านพ้นช่วงควอเตอร์แรกของซีซั่นไปแล้ว ทำให้เราเริ่มเห็นตัวเต็งที่จะขับเคี่ยวลุ้นแชมป์ของฤดูกาลนี้กันมากขึ้น

โดย "ตารางคะแนนพรีเมียร์ลีก" ล่าสุดยังเป็น อาร์เซน่อล ที่นำเป็นจ่าฝูง มี 27 คะแนนจาก 10 นัด นำหน้าแชมป์เก่า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ถึง 4 แต้ม หลัง "เรือใบสีฟ้า" พลาดท่าพ่าย ลิเวอร์พูล 0-1 ตั้งแต่สุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ส่วนที่ 3 เป็นของ สเปอร์ส ที่มี 23 แต้มเช่นกัน ถือว่าเป็นอีกทีมที่ทำผลงานได้อย่างร้อนแรง ก่อนจะมาพลาดท่าแพ้ แมนฯยูไนเต็ด 0-2 ในนัดล่าสุด

ด้านสองทีมขวัญใจชาวไทย ถือว่าฟอร์มยังไม่สม่ำเสมอทั้งคู่ โดย แมนฯยูไนเต็ด รั้งที่ 5 มี 19 คะแนน ส่วน ลิเวอร์พูล อยู่ที่ 7 มี 16 คะแนน

ตารางคะแนนพรีเมียร์ลีก

ซึ่งนับจากช่วง 10-11 นัดที่ผ่านมา สามารถบอกได้ว่าสองทีมที่น่าจะขับเคี่ยวลุ้นแชมป์ไปจนจบซีซั่นนี้น่าจะเป็น อาร์เซน่อล และ แมนฯซิตี้ โดยทีมอื่นน่าจะเป็นเพียงตัวสอดแทรกเท่านั้น
 

สำหรับ อาร์เซน่อล หลังจากที่กุนซือ มิเกล อาร์เตต้า ใช้เวลาสร้างทีมมาพักใหญ่ตั้งแต่ฤดูกาลก่อน บวกกับการเสริมทัพในช่วงซัมเมอร์ที่ทำได้อย่างยอดเยี่ยม โดยเฉพาะการได้ตัว กาเบรียล เชซุส และ โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้ 2 ดาวเตะคนสำคัญมาจากแมนฯซิตี้ ที่ทำให้ทีมมีความลงตัวมากขึ้นอย่างชัดเจน ทั้งแนวรุกที่เฉียบคม และแนวรับที่เหนียวแน่น ทำให้พวกเขากวาดชัยชนะได้ถึง 9 จาก 10 นัด มีหลุดไปแค่นัดเดียวโดยแพ้ แมนฯยูไนเต็ด 1-3 เมื่อช่วงต้นเดือน ก.ย.

สิ่งเดียวที่น่าห่วงสำหรับ "ปืนใหญ่" ก็คือจะสามารถรักษาความฟิตและรอดพ้นจากปัญหาอาการบาดเจ็บของนักเตะไปได้จนจบฤดูกาลหรือไม่ เพราะที่ผ่านมาในหลายๆซีซั่น พวกเขามักจะ "แผ่วปลาย" เมื่อเจอปัญหานักเตะตัวหลักบาดเจ็บต้องพักยาวอยู่เสมอ

อาร์เซนอล

ด้านแชมป์เก่า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ จากปกติที่เป็นยอดทีมที่หาใครโค่นลงแทบไม่ได้อยู่แล้ว มาในซีซั่นนี้พวกเขายิ่งทวีความร้อนแรงยิ่งขึ้นไปอีก เมื่อได้ตัวสุดยอดกองหน้าแห่งยุคอย่าง "เออร์ลิ่ง ฮาลันด์" มาร่วมทัพ ซึ่งดาวเตะรายนี้ก็จัดการตอบแทนความไว้วางใจด้วยการรัวไป 15 ประตู และยิงแฮตทริกได้ถึง 2 ครั้งตั้งแต่ยังไม่พ้นครึ่งซีซั่นด้วยซ้ำ เรียกได้ว่า "แกร่งทั่วแผ่น"

แต่ปัญหาของพวกเขาก็คือความสม่ำเสมอและสมาธิ เพราะเป้าหมายสูงสุดของ แมนฯซิตี้ คือการคว้าแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ที่ยังไม่เคยสัมผัสมาก่อน ทำให้น่าติดตามว่าเมื่อถึงช่วงท้ายซีซั่นที่กำลังลุ้นแชมป์กันหนักหน่วงทั้ง 2 รายการแล้ว "เรือใบสีฟ้า" จะเลือกเน้นถ้วยไหนเป็นพิเศษ หรือถ้าหากเน้นทุกถ้วย นักเตะของพวกเขาที่กรำศึกมาอย่างต่อเนื่องจะยังรักษาฟอร์มเก่งเอาไว้ได้ไหม

เออร์ลิ่ง ฮาลันด์

ขณะที่ "แมนยู-ลิเวอร์พูล" ฤดูกาลนี้น่าจะต้องยอมรับว่าเป้าหมายในลีกของพวกเขาอยู่ที่การทำอันดับติด "ท็อป 4" เท่านั้น เพราะกำลังอยู่ในช่วงสร้างทีมใหม่และวางแท็คติกใหม่ๆมาสู่ทีม จนส่งผลให้ทำผลงานไม่สม่ำเสมออย่างที่แฟนบอลคาดหวัง

logoline