หลายๆ คนมักจะละเลยการดูแลสุขภาพช่องปากของตัวเองอยู่บ่อยครั้ง จนทำให้เกิดปัญหาสุขภาพในช่องปาก ไม่ว่าจะเป็น เหงือกอักเสบ ฟันผุ จนทำให้มีกลิ่นปากตามมาในระยะยาว ซึ่งถือเป็นสาเหตุที่ทำให้เสียบุคลิกภาพได้ ดังนั้นการให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพในช่องปากจึงเป็นสิ่งที่ไม่ควรปล่อยปละละเลย เพื่อรักษาช่วงเวลาแห่งความสุขของทุกคน เราจะพาไปดูเคล็ดลับการดูแลสุขภาพในช่องปากกัน
การที่เรามีสุขภาพที่ดี ไม่ได้หมายถึงเฉพาะการมีสุขภาพร่างกายและสุขภาพจิตใจที่ดีเท่านั้น แต่รวมถึงการมีสุขภาพช่องปากที่ดีด้วย การมีเหงือกและฟันที่แข็งแรง ไม่มีคราบเหลือง ไร้กลิ่นปากกวนใจ ถือเป็นเรื่องสำคัญอย่างมาก เพราะการใช้ชีวิตของเราในทุกๆ วันล้วนขึ้นอยู่กับการใช้งานอวัยวะเหล่านี้ทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นตอนกินอาหาร หรือตอนเข้าสังคมต้องพบเจอผู้คน ดังนั้นการใส่ใจดูแลสุขภาพช่องปากจึงเป็นเป็นเรื่องสำคัญไม่แพ้การดูแลสุขภาพด้านอื่นๆ เลย ดังนั้นวันนี้เราจะมาแนะนำเคล็บลับวิธีการดูแลสุขภาพช่องปาก ที่ไม่ว่าใครก็สามารถทำได้อย่างแน่นอน
การแปรงฟันอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง ตอนเช้าและก่อนนอน เป็นสิ่งที่ทุกคนควรทำอย่าให้ขาด และควรแปรงอย่างถูกวิธีเพื่อให้สะอาดทั่วทั้งช่องปาก ไม่ให้มีเศษอาหารสะสม เพราะอาจทำให้เกิดโรคฟันผุ และมีปัญหาสุขเหงือกตามมาได้ การแปรงฟันควรใช้ระยะอย่างน้อย 5 นาทีขึ้นไป ค่อยแปรงทำความสะอาดฟันทีละซี่ ตั้งแต่โคนไปจนถึงตามซอกไรฟัน ในส่วนที่แปรงไม่สามารถเข้าถึงได้อย่างเช่นซอกฟันลึก สามารถทำความสะอาดด้วยการใช้ไหมขัดฟันร่วมด้วย เพื่อกำจัดเศษอาหารที่ตกค้างออกให้หมด และขั้นตอนสุดท้ายคือการทำความสะอาดลิ้น เพราะลิ้นเป็นส่วนที่มีแบคทีเรียสะสมจำนวนมาก หากไม่ทำความสะอาด อาจทำให้เกิดกลิ่นปากตามมาได้
การกินอาหารให้ครบ 5 หมู่นอกจากจะส่งผลดีต่อสุขภาพร่างกายแล้ว ยังส่งผลดีต่อสุขภาพช่องปากด้วย โดยเฉพาะอาหารจำพวกแคลเซียมที่มีอยู่ในโปรตีน ไข่ และนม มีส่วนช่วยทำให้ฟันแข็งแรง รวมไปถึงการกินวิตามินซีที่มีอยู่ในผักผลไม้ต่างๆ จะช่วยให้สุขภาพเหงือกแข็งแรงและลดปัญหาเลือดออกตามไรฟันด้วย นอกจากนั้นหากอยากดูแลสุขภาพช่องปากให้ที่ดีมากขึ้น ควรหลีกเลี่ยงการทานอาหารก่อนนอน รวมถึงอาหารประเภทแป้งและน้ำตาล อย่างเช่น ขนมหวาน ลูกอม เพราะแบคทีเรียและจุลินทรีย์ที่มีอยู่ในแป้งและน้ำตาล เป็นตัวการสำคัญที่ทำให้ฟันผุนั่นเอง
นอกจากเรื่องอาหารการกินที่ต้องใส่ใจแล้ว วิธีการกินอาหารก็เป็นส่วนที่เราต้องใส่ใจด้วยเช่นกัน อย่างเช่น การกินอาหารที่แข็งและเหนียวมากเกินไป จนต้องใช้ฟันกัดแรงๆ อาจส่งผลให้กรามและขากรรไกทำงานหนักทำให้เกิดอาการปวดฟันได้ และอาจทำให้ฟันแตกหรือบิ่นได้เลย อีกทั้งการกินอาหารที่มีรสเปรี้ยวจัด เย็นจัด ก็มีความเสี่ยงที่จะทำให้เกิดอาการเสียวฟันได้เช่นกัน ดังนั้นควรเลือกทานอาหารที่เหมาะสมกับสภาพช่องปาก เพื่อสุขภาพช่องปากที่ดีในระยะยาว
การดูแลใส่ใจช่องปากและพฤติกรรมการกิน เป็นเพียงวิธีการดูแลสุขภาพช่องปากเบื้องต้นเท่านั้น เพราะอาจมีปัญหาบางอย่างที่เราไม่สามารถสังเกตุเห็นได้ด้วยตัวเอง การดูแลเบื้องต้นด้วยตัวเองจึงยังไม่เพียงพอ การไปพบทันตแพทย์เพื่อตรวจสุขภาพให้ละเอียดเป็นประจำทุก 6 เดือน จึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง เพราะถ้าปล่อยไว้จนปัญหาเหล่านั้นแสดงอาการหนักขึ้น อาจส่งผลเสียลุกลามจนไปจนถึงรากฟัน หากรักษาไม่ทันอาจต้องสูญเสียฟันแท้ไปเลยก็ได้
หากเราดูแลสุขภาพช่องปากอย่างสม่ำเสมออย่างถูกวิธีตั้งแต่วันนี้ จะช่วยลดปัญหายุ่งยากต่างๆ ที่จะเกิดตามมาในอนาคตได้ รวมไปถึงการพบทันตแพทย์เพื่อตรวจสุขภาพช่องปากเป็นประจำจะช่วยให้มั่นใจได้ว่าหากเกิดปัญหาจะได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที โดยทาง PLUS Dental Clinic เป็นคลินิกทันตกรรมที่ได้รับความนิยมอย่างมาก พร้อมให้บริการทุกประเภท ให้การรักษาโดยทันตแพทย์เฉพาะทาง หากใครที่กำลังมองหาสถานที่สำหรับตรวจสุขภาพช่องปากอยู่ล่ะก็ สามารถปรึกษาแพทย์ผู้มากประสบการณ์ได้ที่คลินิกทันตกรรม PLUS Dental Clinic www.plusdentalclinic.com/ พร้อมให้บริการและให้คำปรึกษา ให้คุณมั่นใจได้ว่าจะมีสุขภาพช่องปากที่ดีในระยะยาวอย่างแน่นอน
ติดต่อ PLUS Dental Clinic ได้ที่
Line: @plusclinic
Tel: 02-096-9659, 083-597-3339