
ดูดไขมันคืออะไร ดูดไขมันได้ผลจริงหรือ ? ด้วยเทรนด์หุ่นสวย หุ่นปัง และสุขภาพดีที่กำลังมาแรงแบบฉุดไม่อยู่ในปีที่ผ่านๆ มา และคาดว่าในอนาคตก็ยังคงเป็นเทรนที่คนส่วนใหญ่ให้ความสนใจ ทำให้หลายคนน่าจะคุ้นเคยกับเทรนด์ปรับสัดส่วน อย่าง “ดูดไขมัน” ที่จะช่วยกำจัดไขมันส่วนเกิน ทำให้สัดส่วนลดลง เสริมสร้างบุคลิกภาพ เพิ่มความมั่นใจทุกอย่างก้าว
แต่ก่อนที่จะตัดสินใจดูดไขมัน เราลองมาทำความรู้จักกับการดูดไขมันกันก่อนดีกว่า ว่าการดูดไขมันช่วยอะไรได้บ้าง ทำแล้วดีจริงไหม ปลอดภัยหรือไม่ ดูดไขมันเจ็บไหม อันตรายไหม? ทุกคำถามที่คุณสงสัยในบทความนี้มีคำตอบ!
การดูดไขมัน (Liposuction) คือ การศัลยกรรมรูปแบบหนึ่งที่ใช้เครื่องมือทางการแพทย์สอดใส่เข้าไปใต้ผิวหนังตามบริเวณต่างๆ เพื่อดูดไขมันส่วนเกินออกมา โดยการดูดไขมันเป็นการแก้ไขปัญหาไขมันส่วนเกินได้อย่างตรงจุด ไม่ว่าจะเป็นไขมันบริเวณ หน้าท้อง ต้นขา ต้นแขน เหนียง หรือ เอว แต่ทั้งนี้การดูดไขมันไม่ใช่การลดน้ำหนักอย่างที่หลายคนเข้าใจ แต่การดูดไขมันเป็นการลดสัดส่วน ทำให้รูปร่างกลับมาสมส่วน
และยังมีหลายคนที่อาจจะยังไม่ทราบว่าการดูดไขมัน ไม่สามารถทำได้ในปริมาณมากๆ ในครั้งเดียว เพราะเป็นการลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้จากการดูดไขมันในปริมาณมาก นอกจากนี้การดูดไขมันยังจำเป็นต้องอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญอย่างใกล้ชิดเพราะถือเป็นการศัลยกรรมรูปแบบหนึ่ง
ดูดไขมันดีไหม อันตรายหรือเปล่า? ในปัจจุบันการดูดไขมันมีความเสี่ยงและอันตรายน้อยมาก ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน มีห้องผ่าตัดที่ปลอดเชื้อ มีวิสัญญีแพทย์คอยเฝ้าระวังอาการ และการรักษาต้องดูภายใต้ของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น
ในปัจจุบันการดูดไขมันมีข้อดีหลายอย่าง ทำให้หลายคนตัดสินใจดูดไขมัน แต่อย่างไรก็ตามการดูดไขมันก็ยังคงมีข้อจำกัดอยู่บ้าง มาลองดูข้อดีและข้อจำกัดของการดูดไขมันกันก่อนตัดสินใจดีกว่า
อ่านข้อมูลเและรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการศัลยกรรม ดูดไขมัน ได้ที่นี่ คลิก!
สำหรับผู้ที่สนใจดูดไขมันอาจจะทดลองวัดไขมันง่ายๆ ด้วยตนเองที่บ้าน หรือวัดที่โรงพยาบาลหรือคลินิก ก่อนจะที่ตัดสินใจดูดไขมัน เพราะบางครั้งสัดส่วนที่ใหญ่อาจจะมาจากมวลกล้ามเนื้อ หรือกระดูก ไม่ใช่ไขมันอย่างที่คิด โดยวิธีวัดไขมันแบ่งออกเป็น 4 วิธี ได้แก่
ไม่ใช่ทุกคนที่จะเหมาะกับการดูดไขมัน เพราะการดูดไขมันยังมีเงื่อนไขบางประการ และยังขึ้นอยู่กับสุขภาพร่างกายของคนไข้อีกด้วย เมื่อรู้อย่างนี้แล้วมาลองดูกันดีกว่า ว่ามีใครบ้างที่เหมาะและไม่เหมาะกับการดูดไขมัน
สำหรับผู้ที่พบปัญหาไขมันส่วนเกิน และ ต้องการดูดไขมัน ไขมันที่สามารถดูดออกได้ต้องเป็นไขมันใต้ชั้นผิวหนังเท่านั้น และจุดที่สามารถดูดไขมันได้ มีดังนี้
จะเตรียมตัวอย่างไร ขึ้นอยู่กับว่าดูดไขมันแบบใช้ยาชา หรือ ยาสลบหรือไม่ ซึ่งมีวิธีเตรียมตัวที่แตกต่างกันดังนี้
พาผู้ติดตามมารับกลับบ้านหลังดูดไขมันเสร็จ
วิธีดูดไขมันในปัจจุบันทุกตำแหน่งบนร่างกายจะมีลักษณะคล้ายกัน แต่อาจจะแตกต่างกันเล็กน้อย โดยวิธีดูดไขมันสามารถแบ่งออกเป็น 3 ขั้นตอนใหญ่ๆ ดังนี้
หลังจากดูดไขมันด้วยยาชาอาจจะเกิดอาการวิงเวียน คลื่นไส้ และหน้ามืดได้ ถ้าหากร่างกายพักผ่อนไม่เพียงพอ จึงแนะนำให้ผู้ที่จะเข้ารับการดูดไขมันนอนหลับพักผ่อนให้เพียงและดื่มน้ำให้มากๆ นอกจากนี้อาจจะมีอาการแทรกซ้อนอื่นๆ เช่น การติดเชื้อ แต่ในปัจจุบันมีโอกาสที่เกิดน้อยมาก เนื่องจากยาชาที่ใช้เป็นกรดจึงช่วยฆ่าเชื้อได้ในระดับหนึ่ง และเป็นอาการที่สามารถรักษาให้หายได้
สำหรับผู้ที่มีปัญหาไขมันส่วนเกินหน้าท้อง ต้นแขน ต้นขา เอว หรือ ตำแหน่งอื่นๆ ที่สร้างความกังวล ไม่มั่นใจ และกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน ทำให้เสียโอกาสดีๆ ที่เข้ามาไป การดูดไขมันเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยลดสัดส่วน ปรับรูปร่าง ให้เหมาะกับร่างกายของแต่ละคน
โดยที่หลังจากเข้ารับการรักษาแล้วเห็นผลลัพธ์ทันที ช่วยเสริมสร้างความมั่นใจ ปรับไซส์เสื้อผ้าทำให้แต่งตัวง่ายขึ้น พร้อมทั้งช่วยให้เคลื่อนไหวร่างกายสะดวกขึ้น นอกจากนี้ในปัจจุบันการดูดไขมันยังเป็นการศัลยกรรมที่มีความเสี่ยงและอันตรายน้อยมาก ทั้งนี้ผู้ที่สนใจควรเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน มีห้องผ่าตัดปลอดเชื้อ มีวิสัญญีแพทย์ และการดูดไขมันควรอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อความปลอดภัย
ขอบคุณข้อมูลจาก Amara Clinic