“เตีย บัญ” กบดาน “เตีย เซ็ยฮา” คุมทัพ จับตากัมพูชาหลังจบศึกชายแดน

เขย่าเกาะกง เตีย บัญ กบดาน เตีย เซ็ยฮา นายพลขาลอย รับหน้าที่คุมทัพ จับตาการเมืองกัมพูชาหลังสงครามชายแดนยุติ

 

ชะตาขาลง สองพ่อลูก ฮุน เซน - ฮุน มาเนต เพลี่ยงพล้ำในแนวรบ สมรังสีฉวยโอกาสขี่กระแสชาตินิยม หวังเปลี่ยนกระดานการเมือง

 

รุ่งสางวันที่ 26 ก.ค.2568 กองทัพเรือ เปิดยุทธการตราดพิฆาตไพรี 1 ผลักดันฝ่ายกัมพูชาที่บ้านชำราก อ.เมือง จ.ตราด ตรงข้ามบ้านทมอดา อ.เวียลเวง จ.โพธิสัตว์

 

พลันที่มีปฏิบัติการทางการของไทย พล.อ.เตีย เซ็ยฮา รมว.กลาโหมกัมพูชา ได้ชี้แจงทางเฟซบุ๊ค TEA Seiha มีข้อความว่า “...สำหรับจังหวัดที่ติดกับพรมแดนไทย ได้แก่เกาะกง, โพธิสัตว์, พระตะบอง, ไพลิน, ปอยเปต และบันเตียเมียนเจย ขอให้พี่น้องประชาชนรักษาความสงบ หลีกเลี่ยงการก่อความวุ่นวาย และปฏิบัติตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นอย่างเคร่งครัด”

ดังที่ทราบกันดีว่า จังหวัดทางภาคตะวันออกของกัมพูชา เป็นพื้นที่ทางการเมืองของตระกูล "เตีย" ไม่ว่าจะเป็น จ.ไพลิน จ.โพธิสัตว์ และ จ.เกาะกง

 

เฉพาะ จ.เกาะกง เป็นบ้านเกิดของ เตีย บัญ อดีต รมว.กลาโหม และ ลี ยงพัด หรือพัด สุภาภา มหาเศรษฐีกัมพูชาที่ได้ฉายา “ราชาเกาะกง”

 

ทุกวันนี้ มิถุนา ภูทอง ลูกสาวของยุทธ ภูทอง ผู้มากบารมีแห่งเกาะกง ก็เป็นผู้ว่าราชการจังหวัดเกาะกง

 

เมื่อการสู้รบชายแดนจบลง ก็อาจเป็นจุดเริ่มต้นของสงครามการเมืองภายในกัมพูชา และกลุ่มการเมืองจากเกาะกง ย่อมถูกจับตามองเป็นพิเศษ

 

แม้วันนี้ สม รังสี อดีตผู้นำฝ่ายค้าน ที่จัดให้มีการชุมนุมของชาวกัมพูชาในสหรัฐฯ ออสเตรเลีย เกาหลีใต้ และญี่ปุ่น แสดงพลังรักชาติ ต่อต้านการรุกรานของไทย แต่มิได้หมายความว่า สม รังสี ต้องการให้ “ระบอบฮุนเซน” ดำรงอยู่ต่อไป

 

นักสังเกตการณ์ทางการเมืองพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า พลังฝ่ายค้านนอกประเทศโค่นระบอบฮุน เซนไม่ได้ จึงต้องหวังพึ่งปัจจัยภายในจากความขัดแย้งในกลุ่มชนชั้นนำด้วยกันเอง

การเมืองสายโลหิตแบบเขมร

 

การสืบสายโลหิตทางการเมืองในกัมพูชา เป็นการเมืองสายตระกูล (Dynastic Politics) มี 2 ตระกูลใหญ่ คือ ตระกูลฮุน และตระกูลเตีย

 

จริงๆแล้ว 40 ปีที่ผ่านมานี้ คู่แข่งทางการเมืองของฮุน เซน ก็มีอยู่ 2 บ้านใหญ่คือ ซอ เค็ง และเตีย บัญ 

 

เมื่อฮุน เซน ถ่ายโอนตำแหน่งนายกรัฐมนตรีให้ ฮุน มาเนต ลูกชาย และตั้ง ฮุน มานี ลูกชายคนเล็กเป็นรองนายกฯ

 

ซอ เค็ง อดีตรองนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย ก็โอนทั้ง 2 ตำแหน่งให้ ซอ สุขา ลูกชายคนโต

 

 

เช่นเดียวกับ เตีย บัญ ก็ส่งมอบตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหมให้ทายาท เตีย เซ็ยฮา หรือเตีย สิงหา

 

เตีย บัญ ยังมีน้องชาย เตีย วิญ นั่งอยู่ในตำแหน่งผู้บัญชาการทหารเรือมานาน เพิ่งผ่องถ่ายให้ลูกชาย เตีย โซะคา เป็นผู้บัญชาการทหารเรือ

 

สุภลักษณ์ กาญจนขุนดี. นักเขียนอิสระด้านอุษาคเนย์ ได้สรุปการเมืองสายตระกูลในกัมพูชาว่า มีความมั่นคงในระยะสั้นถึงกลาง เนื่องจากการควบคุมสถาบันหลักของรัฐ การมีทรัพยากรและพันธมิตรระหว่างประเทศที่แข็งแกร่ง และการเตรียมความพร้อมในการสืบทอดตำแหน่ง

 

เกมอำนาจผลัดใบ

 

ก่อนชนชั้นนำกัมพูชาจะ “ผลัดใบ” ในปี 2566 เต็มไปด้วยข่าวลือเรื่องการชิงอำนาจ ระหว่างตระกูลฮุน และตระกูลเตีย

 

ฝ่ายค้านกัมพูชาในต่างประเทศ ปั่นกระแสข่าว เตีย บัญ แตกหัก ฮุน เซน รวมถึงอินฟลูฯเมืองไทยที่ไม่ชอบตระกูลฮุน ก็ผสมโรงใส่สีตีข่าวรัฐประหารเงียบในพนมเปญ

 

สุดท้ายกลุ่มชนชั้นนำ “ฮุน เซน - ซอ เค็ง - เตีย บัญ” ก็ปิดดีลกันได้ เรียกว่าสมประโยชน์กันทุกฝ่าย

 

 

ฮุน เซน กำไพ่เหนือกว่าซอ เค็ง และเตีย บัญ เนื่องจากมีลูกชาย 3 คน แม้ ฮุน มาเนต ต้องสละตำแหน่งในกองทัพไปนั่งนายกฯ แต่ก็มี ฮุน มานิต ผอ.สำนักข่าวกรอง ขยับเป็นรองผู้บัญชาการกองทัพบก

 

ตอนแรกคล้ายกับว่า เตีย บัญ จะหาตัวแทนมานั่งเก้าอี้ รมว.กลาโหม แทนไม่ได้ เพราะทายาท เตีย เซ็ยฮา เป็นผู้ว่าราชการจังหวัดเสียมราฐ มีฐานะเป็นข้าราชการกึ่งพลเรือน

 

ในที่สุด ฮุน เซน และเตีย บัญ เคลียร์กันลงตัว เพราะครั้งหนึ่ง เตีย เซ็ยฮา เคยมีตำแหน่งเป็นนายทหารชั้นพลตรีมาก่อน จึงให้มานั่ง รมว.กลาโหมแทนบิดา และครองยศ “พลเอก” โดยอัตโนมัติ

 

เมื่อเตีย เซ็ยฮา เป็น รมว.กลาโหม แบบส่งด่วน ไม่ได้คุมกองทัพเหมือนฮุน มาเนต จึงไม่ต่างจากนายพลขาลอย

 

กองแช่งตระกูลฮุน อาจจะต้องรอดูเกมการเมืองในกัมพูชา หลังเจรจาสงบศึกรอบนี้ ความเพลี่ยงพล้ำด้านการทหาร พ่ายแพ้ในสมรภูมิชายแดน จะส่งผลต่อศรัทธาบารมีในตัวสมเด็จฮุนเซนมากน้อยแค่ไหน