svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

“บิ๊กอรรถ” ขอฟังอย่างรอบคอบ คำพูดอดีตบิ๊กตร. ผู้ต้องหาฟอกเงิน

“บิ๊กอรรถ” ขอสังคมฟังอย่างระมัดระวัง คำพูดของอดีตบิ๊กตำรวจ ที่ตกเป็นผู้ต้องหาคดีฟอกเงิน ขณะนี้คดีถูกส่งไปรวมอยู่ที่ ปปช.

19 พฤศจิกายน 2568 พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ รองจเรตำรวจแห่งชาติ (บิ๊กอรรถ) แถลงข่าวกรณี พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล อดีต รองผบ.ตร. (บิ๊กโจ๊ก) มีการพาดพิงถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า มีการใช้บัญชีม้ากันอย่างเป็นปกติ ว่า ตำรวจทุกคนรู้ดีว่าบัญชีม้าเป็นส่วนหนึ่งองค์กรอาชญากรรม อดีต รองผบ. ตร. ก็รู้ดีว่าการใช้บัญชีม้าเป็นช่องทางของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ เป็นช่องทางของการพนันออนไลน์ที่ใช้ในการหลบเลี่ยงการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ตำรวจเจ้าพนักงานของรัฐ เป็นเครื่องมือในกระบวนการฟอกเงินอย่างดี เพราะฉะนั้นเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องปกติ เป็นเรื่องที่หากใครข้องเกี่ยวย่อมส่อไปในทางทุจริตและผิดกฎหมาย เหมือนอย่างเช่น พ่อบ้านของท่านอดีต รอง ผบ.ตร. ใช้บัญชีม้าจำนวนหลายบัญชี เพื่อรับเงินที่เกี่ยวข้องกับเว็บพนัน และเงินที่ยังไม่ทราบ แหล่งที่มาได้จำนวนมาก

 

แน่นอนว่าเรื่องของบัญชีม้าถ้าใครใช้ก็จะต้องถูกดำเนินคดี ทั้งผู้ที่ใช้และผู้ที่เปิดบัญชี จะต้องรับ ความผิดทางอาญา

พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ

 

พล.ต.ท.ไตรรงค์ กล่าวต่อว่า ถ้าพี่น้องประชาชนได้หยุดคิดสักนิดหนึ่ง อยากให้พิจารณาว่าผู้ที่ออกมากล่าวหา เรื่องที่ท่านออกมากล่าวหาสุดท้ายท่านจะลากเข้าไปสู่เรื่องของท่านเอง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) พร้อมรับการตรวจสอบและพร้อมรับฟังเรื่องร้องเรียนจากพี่น้องประชาชนทุกคนแต่การรับฟังข้อมูลเพียงด้านเดียว โดยเฉพาะจากอดีตข้าราชการตำรวจที่ถูกตั้งคณะกรรมการและถูกไล่ออกจากราชการและปัจจุบันยังมีสถานะเป็นผู้ต้องหาในคดีฟอกเงินจากเว็บพนัน ก็ขอให้พี่น้องสื่อมวลชน พี่น้องประชาชน ชั่งน้ำหนักระหว่างข้อกล่าวหาหรือข้อกล่าวอ้าง กับข้อเท็จจริงที่เป็นพยานหลักฐาน และขณะนี้อยู่ในกระบวนการยุติธรรม

เมื่อถามถึง ประเด็นการขอหมายจับกุมของชุดดำเนินคดี ลูกน้องที่ติดตามอดีตรอง ผบ.ตร. ที่ไม่ระบุถึงตำแหน่ง อาชีพ ตนทราบว่าหลังจากที่มีการจับกุม ลูกน้องของอดีตรองผบ.ตร. ได้ไปร้อง ที่ศาล เพื่อขอความเป็นธรรมในเหตุการณ์นี้ แต่ศาลก็ได้ยกคำร้อง ทั้งนี้ศาล ได้จบในกระบวนการตัดสินแล้ว แต่ตัวท่านไม่แจ้งต่อสาธารณชนว่าศาลได้เป็นที่ยุติแล้ว ตนขอย้อนถามว่าตัวท่านยังยึดติดอยู่หรือไม่

 

ยืนยันว่าเรื่องนี้ไม่ใช่ความขัดแย้งภายในองค์กรแต่เป็นเรื่องขององค์กรผู้บังคับใช้กฎหมายกับผู้ต้องหาเรื่องนี้ยืนยันว่าไม่ใช่ความขัดแย้งในองค์กรสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กลุ่มผู้ต้องหาจะมีความโกรธแค้นเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวนจับกุมหรือไม่ ก็เป็นเรื่องที่พอเข้าใจได้ เพราะท่านเป็นฝ่ายที่ถูกสืบสวนจับกุมและเป็นสิทธิของผู้ต้องหาในชั้นสอบสวน ว่าท่านจะให้การอย่างไรก็ได้เพื่อให้ตนเองพ้นผิด แต่การที่ท่านมาพูดในสาธารณชนบ่อยๆก็จะต้องระมัดระวัง

 

จะแพ้แล้วพาลหรือไม่ จะเสียผลประโยชน์หรือไม่ อยากให้ทุกท่านกลับมาพูดในส่วนข้อเท็จจริงในคดี ซึ่งอยู่ในสำนวนการสอบสวนอยู่ในกระบวนการ ขอออกหมายจับของศาลยุติธรรม ขณะนี้สำนวนได้ถูกส่งไปทั้งหมดแล้ว ในทุกคดีที่เกี่ยวข้องกับท่านรองผบ.ตร. เรื่องทั้งหมดถูกส่งไปอยู่ในสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ปปช.) กระบวนการตามกฎหมายแล้วข้อเท็จจริงอยู่ในนั้นทั้งหมด

 

กรณีการเข้าไปชี้แจงที่คณะกรรมาธิการความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ เรื่องนี้ตนเองกำลังทำรายงานถึงผู้บังคับบัญชาถึงการไปปฏิบัติหน้าที่แทนท่าน ในวันนั้น เนื่องด้วยหนังสือเชิญของกรรมาธิการ เป็นการเชิญผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติซึ่งต่อมาได้มอบหมายตนเอง ตนเองได้เห็นรูปแบบกระบวนการ ในกรรมาธิการ ยอมรับว่ากังวลใจในข้อกฎหมายและระเบียบที่เกิดขึ้น แต่เนื่องจากสถานการณ์วันนั้นและมีการถ่ายทอดสด ตนเองก็มีความจำเป็นต้องให้ข้อมูลแบบสดๆ ซึ่งไม่ตรงกับหนังสือเชิญ แต่ท่านประธาน กมธ. ก็มีการ บอกว่าเป็นเรื่องที่เกี่ยวพันกันกับข้อคำถามที่ส่งล่วงหน้าขอให้ตอบ

 

ฉะนั้นแล้วเรื่องหนังสือเชิญจากนี้ก็ต้องมีความชัดเจนว่าต้องการถามเรื่องใด ส่วนรูปแบบจะมีความเหมาะสมหรือไม่ ที่ผู้ร้องก็มีลักษณะเป็นผู้ต้องหา พยานที่ผู้ร้องนำมาก็เป็นผู้ต้องหา ในคดีเดียวกัน ฝ่ายดังกล่าวก็ถือว่าเป็นฝ่ายได้เสีย การเปิด ให้มีการเผชิญหน้าระหว่าง ฝ่ายผู้ต้องหากับฝ่ายเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เป็นผู้บังคับใช้กฎหมายลักษณะในรูปแบบนี้

 

ยอมรับว่ามีความกังวล ปกติรูปแบบนี้เราจะเห็นในการพิจารณาคดีของศาลที่กลุ่มผู้ต้องหากลุ่มผู้กล่าวหา หรือฟังโจทก์ฝั่งจำเลย จะต้องมาเปิดเผยต่อหน้าสาธารณชน การเปิดเผยก่อนที่เรื่องจะขึ้นสู่ การพิจารณาของศาลมีข้อกังวลหลายเรื่อง พยานในคดีจะกังวลหรือไม่ถูกนำมาเปิดเผย พนักงานสอบสวนจะกังวลหรือไม่ ที่จะตอบข้อซักถามกรรมาธิการอย่างไร ข้อมูลที่เผยแพร่ออกไปทางพี่น้องสื่อมวลชน ในกฎหมายระเบียบที่เกี่ยวข้อง กับสภา ตนเคารพต่อกระบวนการทำงานของกรรมาธิการและสภาผู้แทนราษฎร ตนเคารพในระบอบประชาธิปไตย ท่านเป็นตัวแทนประชาชน

 

ผมในคณะส่วนตัวและสำนักงานตำรวจแห่งชาติเคารพและให้เกียรติกรรมาธิการ พร้อมจะไปตอบข้อซักถาม แต่รูปแบบที่เห็นในวันนั้นมันมีความกังวลใจ การที่ต้องเผชิญหน้าระหว่างตำรวจกับผู้ต้องหาซึ่งเคยเป็นสมาชิกในองค์กรสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และปัจจุบันยังเป็นผู้ต้องหาคดีฟอกเงิน รูปแบบนี้ควรจะเกิดในกระบวนการศาลมากกว่า การที่กลุ่มผู้ต้องหาแสดงกริยาอาการ อีกทั้งในครั้งที่เชิญอาจารย์จากจุฬาลงกรณ์ เข้าข่ายก้าวร้าวหรือข่มขู่พยาน

 

ในการประชุมกรรมาธิการรอบที่จะถึงนี้ที่มีการเชิญ ผบ.ตร. และจากการพิจารณามีรูปแบบคำถามลักษณะเดิม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ หากเห็นว่าเรื่องนี้จะต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ เรื่องนี้จะต้องประมวลมีความเห็น เสนอไปยังกรรมาธิการ เสนอไปยังรัฐสภาเพื่อขอปรึกษาหารือก่อนตนไม่อยากให้อนาคต ตนไม่อยากเห็นผู้ถูกกล่าวหา หรือผู้ต้องหาใช้เวทีสาธารณะแบบนี้ มาสร้างฉันทามติทางสังคมและสร้างความได้เปรียบ ทางสงครามข้อมูลข่าวสารหรือสร้างความตระหนักรู้

 

วันนี้ไม่สามารถบอกได้ว่า จะไปหรือไม่ไปร่วมการประชุมกรรมาธิการ แต่แค่สะท้อนให้เห็นว่าภาพที่เกิดขึ้นจะส่งผลต่อพี่น้องประชาชนอย่างไร ตนอยู่ในสถานะผู้รักษากฎหมายไม่สามารถเพิกเฉย เหตุการณ์ที่อาจจะกระทบต่อกระบวนการยุติธรรมได้

 

ยืนยันว่าตนเองไม่กลัว ถ้าวันนั้นกลัวคงไม่ตอบ และยืนยันว่าไม่ได้ถูกเชือดอย่างที่สังคมมอง ถ้าเป็นทองก็ไม่กลัวน้ำร้อน หากวันนั้น ผบ.ตร. ไม่ได้มอบหมายตนไปเป็นผู้แทน จะเกิดความเสียหายต่อสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพราะถ้าเป็นนายตำรวจท่านอื่นที่ไม่ทราบข้อมูลและตอบไม่ได้ในที่ประชุม จะกลายเป็นว่าสำนักงานตำรวจแห่งชาติมีความเพิกเฉยต่อข้อสอบถาม