svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

"ฉัตริน" จี้ รบ.เร่งดำเนินคดี คนเสนอสินบน "ไชยชนก" ยึดทรัพย์สแกมฯ

"ฉัตริน" ฉะ! รัฐบาลหนูมัวแต่เซ็น MOU ไม่เห็นผลงานปราบสแกมเมอร์เป็นชิ้นเป็นอัน บี้! เร่งดำเนินคดีตัวเสนอสินบนให้ "ไชยชนก"-ยึดทรัพย์แก๊งสแกมเมอร์

9 พฤศจิกายน 2568 นายฉัตริน จันทร์หอม อดีตรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง (ประจำรองนายกรัฐมนตรี ประเสริฐ จันทรรวงทอง อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม) กล่าวถึงกรณีที่รัฐบาลออกมาประกาศจับสแกมเมอร์ได้ 35,000 ล้านบาทแล้วเหน็บว่า ทำได้ดีกว่ารัฐบาลที่แล้วมาก  แต่ตัวเลข 14,500 ล้านต่อปี ที่รัฐบาลเพื่อไทยเคยทำไว้ คือ “มูลค่าความเสียหายที่ลดลง” ไม่ใช่แค่เอา “ยอดเงินหมุนในบัญชีม้า” มานับโชว์ให้ดูเท่ ๆ ซึ่งถ้าอยากเทียบ ก็ต้องเทียบให้ถูก โดยเทียบที่ “ความเสียหายของประชาชน” ไม่ใช่ยอดตัวเลขลอย ๆ
 

"ถามง่าย ๆ ครับ ช่วงไหนที่คุณได้รับ SMS หลอก หรือสายจากแก๊งคอลเซ็นเตอร์ “น้อยที่สุด”? ก่อนรัฐบาลเพื่อไทย? ระหว่างรัฐบาลเพื่อไทย? หรือหลังจากนั้น? คำตอบชัดอยู่แล้วครับ" นายฉัตริน กล่าว
 

 

นายฉัตริน จันทร์หอม (คนขวา)

นายฉัตริน ยังเห็นว่า เมื่อพอเรื่องนี้เป็นกระแส รัฐบาลก็ออกมาขึงขัง มีการเซ็น MOU อย่างยิ่งใหญ่ และพรุ่งนี้ก็จะบินไปแม่สอด เพื่อส่งคนอินเดียที่ลักลอบเข้าเมืองกลับประเทศ ซึ่งถ้าท่านไม่บินไป เขาก็กลับเองได้  ซึ่งเชื่อว่า รัฐบาลนี้ถนัดเซ็น MOU และ MOA มาก แต่ “ผลงานจริง” ยังไม่เห็น ที่เห็นสานต่อสิ่งที่รัฐบาลที่แล้วทำมาก็คือการประชุมตำรวจอาเซียนเพื่อผลักดันให้ไทยเป็นศูนย์กลางการปราบสแกมเมอร์ของภูมิภาค

นายฉัตริน ยังชี้แจงว่า SMS สแกมเมอร์ ได้หมดไประยะหนึ่งแล้ว ตั้งแต่นายประเสริฐ สั่งให้มีการทำ SMS Cleansing ลงทะเบียน Sender Name ใหม่ทั้งระบบ และผู้ส่ง SMS แบบแนบลิงก์ จะต้องเป็นผู้ลงทะเบียนกับผู้ให้บริการเครือข่ายทุกครั้ง และต้องมีการตรวจสอบทุกข้อความที่มีลิงก์ก่อนส่ง ซึ่งเรื่องนี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ต้องเรียกผู้ให้บริการเครือข่ายเข้ามาคุยว่า มันเกิดอะไรขึ้น ทำไมมันถึงกลับมาอีก แทนที่มัวแต่จะไปเซ็น MOU อยู่ 

นายประเสริฐ-นายฉัตริน จันทร์หอม

นายฉัตริน ยังระบุว่า ปัจจุบันมีคนถูกหลอกรายวันเพิ่มขึ้น และสแกมเมอร์ที่เสนอเงิน 40 ล้านให้นายไชยชนก ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ยังไม่ถูกดำเนินคดีใด ๆ ทั้ง ๆ ที่เกินเส้นตายมานานแล้ว อีกทั้ง ยังไม่มีการยึดทรัพย์ และดำเนินคดีกับเครือข่ายสแกมเมอร์ ที่ทั้งสหรัฐอเมริกา อังกฤษ สิงคโปร์ ฮ่องกง ไต้หวัน หรือแม้แต่กัมพูชาเอง ก็ดำเนินการไปแล้ว จนทำให้ไทยที่เคยเป็นพี่ใหญ่เรื่องนี้ กลายเป็นตัวตลกในสายตาโลก

และยังชักช้ากับการออกกฎหมายลูก และไม่บังคับใช้พระราชกำหนดมาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ที่รัฐบาลเพื่อไทยทำใส่พานไว้ให้แล้ว เพื่อที่จะนำเงินมาคืนผู้ที่เป็นเหยื่อสแกมเมอร์ ดังนั้น รัฐบาล จึงอย่าเพิ่งรีบอวดผลงาน เพราะยังมีผู้เสียหายอยู่ทุกวัน 

นายฉัตริน จันทร์หอม