
23 ตุลาคม 2568 การประชุมสมัชชาสหภาพรัฐสภา หรือ IPU (Inter-Parliamentary Union) ให้ความสำคัญกับเรื่องปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI มากเป็นพิเศษ โดยในปี พ.ศ. 2568 นี้ ถูกกำหนดให้เป็น "ปีแห่ง AI" โดย IPU มีคณะทำงานด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มีสมาชิกจาก 21 ประเทศ โดยมีสมาชิกรัฐสภาไทย เข้าไปมีบทบาทสำคัญ คือ ดร.นพดล อินนา สมาชิกวุฒิสภา (สว.) ซึ่งสถานะของ ดร.นพดล ไม่ได้เป็นแค่คณะทำงาน แต่ยังได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งรองประธานคณะทำงานฯ ซึ่งตามธรรมเนียม จะก้าวขึ้นเป็นประธานในวาระต่อไป ซึ่งถือเป็นประวัติศาสตร์ที่คนไทย ได้เป็นประธานคณะทำงาน หรือคณะกรรมาธิการสามัญใน IPU ซึ่งเป็นองค์กรระดับโลกด้านนิติบัญญัติ
ยิ่งไปกว่านั้น ดร.นพดล ยังได้รับความไว้วางใจให้มีบทบาทสำคัญในการยกร่าง "จริยธรรม AI" เพื่อเป็นข้อมติให้รัฐสภาทั่วโลกนำไปใช้ด้วย
ดร.นพดล ให้สัมภาษณ์พิเศษกับ "เนชั่น" ว่า คณะทำงานด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ของ IPU เห็นว่า AI เป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่ง และกำลังเกี่ยวข้องกับชีวิตมนุษย์ในทุกเรื่อง โดยอาจจะเป็น ”ปัจจัยที่ 5 ของชีวิต" เลยก็ว่าได้ ทาง IPU จึงผลักดันเรื่อง AI เป็นวาระใหญ่และเป็นเรื่องเดียวที่คณะทำงานฯ ให้ความสนใจมากที่สุดตลอดทั้งปี 2568
โดยมีการจัดฝึกอบรมแก่สมาชิกรัฐสภาทั่วโลก ทั้ง สส. และ สว.ที่ประเทศเวียดนาม เพื่อให้สมาชิกรัฐสภาที่ไม่คล่องในการใช้ AI ได้พัฒนาทักษะ เพื่อประโยชน์ในการค้นคว้าข้อมูล, การวิเคราะห์พิจารณาญัตติ หรือการอภิปรายต่างๆ ท่ามกลางข้อมูลมหาศาลในปัจจุบัน
สืบเนื่องจากการประชุมปีที่แล้ว IPU ได้ลงมติรับรอง "กฎบัตรด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี" ซึ่งจะนำไปใช้ทั่วโลก ในการประชุมครั้งล่าสุด คณะทำงานฯ ได้เล็งเห็นถึงภัยร้ายที่มาพร้อมกับประโยชน์ของ AI นั่นคือ "ด้านจริยธรรม" และความเสี่ยงจากการใช้ AI ในทางที่ผิด จึงมีการมอบหมายให้เร่งยกร่างจริยธรรม AI ขึ้นมา
ดร.นพดล ยกตัวอย่างความกังวล โดยเฉพาะในประเด็นที่ใกล้ตัวสมาชิกรัฐสภาทั่วโลก คือ การใช้ AI เป็นเครื่องมือในการโจมตีคู่แข่งทางการเมืองในช่วงของการหาเสียงเลือกตั้ง ซึ่งในหลายประเทศ เช่น เกาหลีใต้ เคยประสบปัญหามาแล้ว และยังไม่มีกฎหมายรองรับเอาผิด
นอกจากนั้น ยังได้ยกตัวอย่างถึงประเทศไทย ที่กำลังจะมีการเลือกตั้งทั่วไปในไม่กี่เดือนข้างหน้า ซึ่งน่าเป็นห่วงอย่างยิ่งว่า เรายังไม่มีกฎหมาย AI เข้ามารองรับเลย โดยเฉพาะในด้านจริยธรรม
“เหล่านี้เป็นสาเหตุที่คณะทำงานฯ มีมติให้เร่งจัดทำจริยธรรมของการใช้ AI เพื่อออกเป็น "ข้อมติ" หรือ resolution ให้นำใช้ไปทั่วโลก โดยที่ประชุมได้เสนอให้ผม ในฐานะตัวแทนจากประเทศไทย เป็นผู้ทำหน้าที่ในการรวบรวมและเป็นผู้นำเสนอร่างจริยธรรมฉบับนี้ในการประชุมครั้งต่อไป ซึ่งขณะนี้กำลังอยู่ในระหว่างการยกร่างเพื่อให้เป็นภาคผนวกของกฎบัตรด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีต่อไป”
ดร.นพดล ยังได้แสดงความกังวลต่อสถานการณ์ของประเทศไทย เพราะกำลังจะมีการเลือกตั้งทั่วไปในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้านี้ แต่กลับยังไม่มีกฎหมายรองรับเกี่ยวกับการใช้ AI เลย
"ผมเชื่อเหลือเกินว่า จะต้องมีการใช้ AI เพื่อเอาชนะคู่แข่งในการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นแน่นอน และน่าจะมีการใช้ AI เพื่อใส่ร้ายชิงความได้เปรียบกันด้วย เพราะการปล่อยข้อมูลเชิงลบของคู่แข่งในจังหวะเวลาสำคัญ หลายๆ ครั้งทำให้ผลการเลือกตั้งเปลี่ยนไปเข้าทางอีกฝ่ายหนึ่งได้เลย จึงถือเป็นเรื่องที่น่ากลัวและสำคัญมาก“
ดร.นพดล บอกว่า ที่ผ่านมาสภาผู้แทนราษฎร ได้มีการการรวบรวมข้อมูลและยกร่างเกี่ยวกับจริยธรรม AI เอาไว้แล้ว แต่น่าจะไม่สามารถผลักดันเป็นกฎหมายได้ทันในสภาชุดนี้ เพราะใกล้ยุบสภาเต็มที แต่ก็หวังว่าสภาผู้แทนฯ ชุดหน้ าจะกลับมาสานต่อ ส่วนวุฒิสภามีความพร้อมในการพิจารณากฎหมายนี้อย่างเต็มที่ โดยมีการประชุม ปรึกษาหารือ และอบรมการใช้ AI มาพอสมควรแล้ว หาก สส. ผ่านกฎหมายมาถึงวุฒิสภา กฎหมายนี้น่าจะผ่านได้ไม่ยาก เนื่องจากเป็นประโยชน์ของประเทศและประชาชน
ดร.นพดล ยังให้ข้อเสนอแนะเพิ่มเติมเพื่อยกระดับขีดความสามารถด้าน AI ของประเทศไทย โดยบอกว่าการที่ไทยได้รับเลือกให้มีบทบาทในเวทีโลก ทั้งๆ ที่ความก้าวหน้าด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของบ้านเราไม่ได้เทียบเท่าชาติตะวันตก ก็ต้องถือว่าเป็นเรื่องดี และสะท้อนว่านานาชาติให้การยอมรับบุคลากรของไทย
ฉะนั้นตนจึงอยากเสนอให้ประเทศไทยมีความจริงจังในเรื่องนี้ เช่น รวบรวมบุคลากรด้าน AI ทั้งหมดมากำหนดนโยบาย ทั้งด้านการพัฒนา และการกำกับดูแล รวมไปถึงการออกกฎหมาย กติกาต่างๆ และติดตามประมวลผลการใช้ AI ทั้งในภาคเอกชนและภาครัฐให้เป็นไปในทางที่ถูกต้อง โดยหากยกระดับเป็น "กรม AI" ขึ้นมาได้ ก็จะยิ่งดี
ที่ผ่านมาสหภาพยุโรป หรือ EU ได้ศึกษาและออกกฎหมายกลางเกี่ยวกับ AI มาแล้ว ใช้กับประเทศใน EU ทั้งหมด และกำหนดเวลาให้แต่ละประเทศไปปรับกฎหมายภายในของตน ซึ่งประเทศไทยสามารถนำ "กฎหมายกลางของ EU" มาพัฒนาต่อยอด เพื่อลดระยะเวลาในการศึกษา และยังช่วยให้กฎหมายไทยเป็นไปตามมาตรฐานสากล โดยเฉพาะมาตรฐาน EU โดยไม่ต้องไปปรับเปลี่ยนกติกาในอนาคตให้ซับซ้อนวุ่นวายด้วย
คลิปบรรยากาศการแต่งตั้ง นายนพดล คณะทำงานด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของสหภาพรัฐสภา (IPU)