
21 ตุลาคม 2568 มีรายงานว่า ในวันพรุ่งนี้ (22 ต.ค.) น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกฯ และฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย จะมีการเรียกประชุม สส.ที่พรรคเพื่อไทย ในเวลา 08.30 น. เพื่อแจ้งให้ สส.ทราบว่า จะขอลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรค จากนั้นจะเรียกประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคในเวลา 09.30 น.เพื่อเป็นการเปิดทางให้มีการเลือกหัวหน้าพรรคเพื่อไทยคนใหม่ โดยจะได้มีการกำหนดวันประชุมวิสามัญเพื่อเลือกหัวหน้าพรรค และกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่อีกครั้งหนึ่ง
สำหรับสาเหตุที่ น.ส.แพทองธาร ประกาศลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรค สืบเนื่องจากกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญ มีมติเมื่อวันที่ 29 ส.ค. 68 ให้ น.ส.แพทองธาร พ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เพราะขาดคุณสมบัติฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรง จากกรณีคลิปเสียงสนทนา แม้ว่าตามข้อบังคับพรรคจะไม่ได้มีการกำหนดไว้ แต่ในการเลือกตั้ง สส.หัวหน้าพรรค จะต้องไปเซ็นรับรองผู้สมัคร จึงทำให้ในอนาคตอาจจะมีผู้ไปร้องต่อศาล หรือองค์กรต่างๆ ได้ ซึ่งหากมีผู้ไปร้อง ผู้สมัครของเพื่อไทยก็จะไม่สามารถสมัครได้ จึงถือเป็นการป้องกันไว้ล่วงหน้า เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบหรือความเสียหายต่อพรรคในอนาคต
แหล่งข่าวจากพรรคเพื่อไทย แจ้งว่า มีความเคลื่อนไหวสร้างความตกตะลึงภายในพรรคเพื่อไทยย ล่าสุด เมื่อ น.ส.แพทองธาร ได้ตัดสินใจ ประกาศลาออกหัวหน้าพรรคเพื่อไทย พร้อมกันนี้ เตรียมเรียกประชุม สส.- กก.บห. แจ้งให้ทราบ เผยสาเหตุ หวั่นเกิดความเสียหายกับพรรคในอนาคต
แหล่งข่าวเพื่อไทย เปิดเผยว่า ขณะนี้คนในพรรค ต่างรับรู้กระแสข่าวดังกล่าวแล้ว และกำลังวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวาง ถึงการดำเนินกิจกรรมของพรรคเพื่อไทยในอนาคต
ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2568 น.ส.แพทองธาร เพิ่งจัดงาน “ยกเครื่องเพื่อไทย ยกเครื่องประเทศไทย” ที่สำนักงานใหญ่พรรค เพื่อแสดงความพร้อมสู่การเลือกตั้งหลังการยุบสภา และเปิดตัวผู้เสนอตัวเป็นผู้สมัคร สส.ล็อตแรกกว่า 200 คน จากทั่วประเทศ ท่ามกลางบรรยากาศคึกคัก โดยมี น.ส.แพทองธาร รวมถึงคณะกรรมการบริหารพรรค อดีตรัฐมนตรีในรัฐบาลพรรคเพื่อไทย สส. สมาชิกพรรค และผู้สนับสนุนพรรคร่วมกิจกรรมมากกว่า 500 คน
ครั้งนั้น น.ส.แพทองธาร ยังประกาศลั่นบนเวที “พร้อมสู้กับพรรคต่อไป หลายคนพูดว่า พรรคเพื่อไทยถึงทางตันแล้ว ใกล้จะตาย สูญพันธุ์ ดิฉันไม่เคยเชื่อแบบนั้น เพราะถ้าจะสูญพันธุ์ พรรคนี้สูญพันธุ์ไปนานแล้ว เราคือพรรคการเมืองที่มีผลงานเป็นรูปธรรมที่สุด และเผชิญชะตากรรมทางการเมืองอย่างสาหัสที่สุดในประวัติศาสตร์ไทย”
น.ส.แพทองธาร กล่าวต่อว่า พรรคเพื่อไทยผ่านทั้งการรัฐประหาร 2 ครั้ง การยุบพรรค 2 พรรค การตัดสิทธิ์กรรมการบริหารเกือบ 200 คน และการปลดนายกรัฐมนตรีจากการเลือกตั้งถึง 6 คน โดยผู้ก่อรัฐประหารไม่ถูกดำเนินคดี ผู้ก่อตั้งพรรคถูกจองจำ แต่ยังคงยืนหยัดได้เพราะมีประชาชนเป็นรากฐาน
“จิตวิญญาณของพรรคเพื่อไทยไม่ใช่เลือด ที่ไหลตามอำนาจ แต่คือเลือดของประชาชน ที่อยากเห็นประเทศดีขึ้น ทุกครั้งที่เลือดไหล เราจะมีเลือดใหม่เข้ามา และเราจะรวมพลังกันอีกครั้ง” หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าว
น.ส.แพทองธาร กล่าวย้ำว่า พรรคเพื่อไทยคือพรรคแห่งโอกาส ที่จะยังคงเดินหน้าผลักดันนโยบาย เพื่อยกระดับชีวิตประชาชน เพิ่มโอกาสให้คนจน สร้างหลักประกันให้ผู้ประกอบการ และขับเคลื่อนเศรษฐกิจโดยรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน
“ดิฉันพร้อมสู้ และพรรคเพื่อไทยของเราจะสู้ไปด้วยกัน”
แต่ในที่สุด น.ส.แพทองธาร ตัดสินใจ ที่จะลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรค โดยจะเรียกประชุม สส.- กก.บห. แจ้งให้ทราบ ถึงสาเหตุ หวั่นเกิดความเสียหายกับพรรคในอนาคตในวันพรุ่งนี้ ( 22 ต.ค. 68 )