
9 ตุลาคม 2568 จะไปต่อแบบไหน วราวุธ โดนป่วนกรณีแคนดิเดตนายกฯเพื่อไทย จับตา ประภัตร มังกรศรีประจันต์ ตัวเชื่อมตระกูลชินวัตร
ชาติไทยพัฒนายุคทายาทบรรหาร ผ่านเลือกตั้ง 2 สมัย กลายเป็นพรรคสุพรรณ-นครปฐม ขยายฐาน สส.เขตไม่ได้
ควันหลงข่าวลือ “ท็อป” วราวุธ ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา อาจย้ายสังกัดเข้าพรรคเพื่อไทย และจะเป็นหนึ่งในรายชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ทำให้แกนนำเพื่อไทยดาหน้าออกมาปฏิเสธข่าวเป็นพัลวัน
ว่ากันตามจริง ในแวดวงนักการเมืองสายสุพรรณ ได้มีการพูดถึงเรื่องการตัดสินใจครั้งสำคัญมาระยะหนึ่งแล้ว เพราะรู้ดีว่า สมัยหน้าพรรค ชทพ.จะต้องเผชิญศึกหนัก
เนื่องจากการเลือกตั้ง 2 สมัยที่ผ่านมา พรรคชาติไทยพัฒนา กลายพรรคบ้านใหญ่ 2 จังหวัดคือ สุพรรณบุรี และนครปฐม
อย่างการเลือกตั้ง สส.ปี 2566 ชทพ. ได้ สส.เขต 9 คน และ สส.บัญชีรายชื่อ 1 คน คือ วราวุธ ศิลปอาชา รวมเป็น 10 คน
เฉพาะ สส.เขต แยกเป็นสุพรรณบุรี 5 คนคือ สรชัด สุจิตต์ ณัฐวุฒิ ประเสริฐสุวรรณ, นพดล มาตรศรี. เสมอกัน เที่ยงธรรม และประภัตร โพธสุธน
นครปฐม 3 คนคือ พาณุวัฒณ์ สะสมทรัพย์, อนุชา สะสมทรัพย์ และศุภโชค ศรีสุขจร
ร้อยเอ็ด 1 คน คือ อนุรักษ์ จุรีมาศ บ้านใหญ่เมืองหอโหวด ที่ยังภักดีต่อตระกูลศิลปอาชา
หากตระกูล “สะสมทรัพย์” ตัดสินใจย้ายไปอยู่ค่ายอื่น พรรค ชทพ.ก็มีสิทธิ์เป็น “พรรคต่ำสิบ”
ช่วงปี 2560-2561 “ท็อป วราวุธ” และกลุ่มยังบลัด พยายามจะเปลี่ยนพรรคชาติไทยพัฒนา ให้เป็นพรรคที่มีความชัดเจนเชิงอุดมการณ์ ไม่ใช่พรรคบ้านใหญ่ หรือพรรคสุพรรณ
ปรากฏว่า ประภัตร โพธสุธน ไม่เห็นด้วยกับแนวทางปฏิรูปพรรค จึงร้องขอ กัญจนา ศิลปอาชา ลูกสาวคนโตของบรรหาร มาเป็นผู้นำพรรค
เลือกตั้งปี 2562 หนูนา-กัญจนา ศิลปอาชา หวนคืนสังเวียนการเมืองเป็นหัวหน้าพรรค และประภัตร โพธสุธน เป็นเลขาธิการพรรค
ปฏิบัติการยึดพรรคของผู้อาวุโสหนนั้น ทำให้ สิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ และลูกชาย 2 คนของ สมศักดิ์ ปริศนานันทกุล ต้องย้ายไปอยู่พรรคภูมิใจไทย
ต่อมา หนูนาวางมือ ส่งไม้ต่อให้น้องชาย “วราวุธ” เป็นหัวหน้าพรรค และ “ประภัตร” เป็นเลขาธิการพรรค
พรรคชาติไทยพัฒนา มีจุดแข็งคือ สส.สุพรรณบุรี 5 ที่นั่ง ไม่มีพรรคใดมาเบียดแย่งไปได้
เขต 1 (อ.เมืองสุพรรณบุรี) ฐานเสียงของตระกูลศิลปอาชา มี สรชัด สุจิตต์ ทายาทคหบดีเมืองสุพรรณ เป็น สส.มาแล้ว 2 สมัย
เขต 2 (อ.บางปลาม้า, อ.สามชุก) ฐานเสียงของตระกูลประเสริฐสุวรรณ โดย ณัฐวุฒิ ประเสริฐสุวรรณ ลูกชายหมอบุญเอื้อ ผูกขาดมาหลายสมัย
เขต 3 (อ.อู่ทอง, อ.สองพี่น้อง) ฐานเสียงของตระกูลศิลปอาชา ได้ นพดล มาตรศรี ทายาทกำนันเคี้ยง อ.อู่ทอง เป็น สส.สมัยแรก
เขต 4 (อ.ศรีประจันต์ ,อ.ดอนเจดีย์) ฐานเสียงของตระกูลโพธสุธน เฮียเม้ง-ประภัตร โพธสุธน ลงสนามเอง
เขต 5 (อ.เดิมบางนางบวช, อ.ด่านช้าง) ฐานเสียงของตระกูลเที่ยงธรรม มี เสมอกัน เที่ยงธรรม ลูกชายเฮียจองชัย เป็นเจ้าของพื้นที่
ปัญหาใหญ่ของพรรค ชทพ.คือ ไม่สามารถเพิ่มจำนวน สส.ให้ได้มากกว่า 10-12 เสียง
ลึกๆแล้ว ผู้กุมชะตากรรมพรรค ชทพ.อีกคนหนึ่งคือ “เฮียเม้ง” ประภัตร โพธสุธน สส.สุพรรณบุรี 10 สมัย
ประภัตร เป็น สส.สุพรรณบุรี พรรคชาติไทย ตั้งแต่ปี 2518 ซึ่งประภัตรได้ร่วมกับบรรหาร ปั้นสุพรรณโมเดล ทำให้เมืองสุพรรณเจริญรุ่งเรืองเป็นที่โจษขานไปทั่วประเทศ
สมัยรัฐบาลไทยรักไทย อดีตนายกฯ ทักษิณ เชิญนักธุรกิจซาอุดีอาระเบียมาดูการทำนาที่บ้านควาย อ.ศรีประจันต์ จ.สุพรรณบุรี และในเวลานั้นก็มีข่าวว่า ประภัตร จะย้ายไปสังกัดค่ายชินวัตร
“เฮียเม้ง” มีความสนิทสนมกับทักษิณมาก ฉะนั้น เขาจึงเดินทางไปอวยพรวันเกิด ทักษิณ ชินวัตร ที่ฮ่องกงเมื่อปี 2566
หากประเมินจากสายสัมพันธ์ “บ้านจันทร์ส่องหล้า” กับ “บ้านใหญ่ศรีประจันต์” ก็ไม่น่าแปลกใจที่มีข่าวลือ “พรรคสุพรรณ” จะควบรวมค่ายสีแดง