svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

"ธนดล" ยัน รู้ทุกเรื่องความสัมพันธ์ "เบน สมิธ-ธรรมนัส" ท้า "โรม" หากมีหลักฐานไปแจ้งความ

"ธนดล" ยัน รู้ทุกเรื่องความสัมพันธ์ "เบน สมิธ-ธรรมนัส" ท้า "โรม" หากมีหลักฐานว่า "เบน สมิธ" เป็น "สแกมเมอร์-คอลเซ็นเตอร์ " ให้ไปแจ้งความ ไม่กังวลรับ 2 จ๊อบ ทัวร์ลงอยู่แล้ว

9 ตุลาคม 2568 ที่อาคารรัฐสภา ผู้สื่อข่าวรายงานจากอาคารรัฐสภา ว่า หลังจากที่คณะกรรมาธิการ ความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคประชาชน เป็นประธาน กมธ.

ซึ่งกำลังพิจารณา เรื่องปัญหาการฟอกเงินของกลุ่มทุนกัมพูชาที่เชื่อมโยงกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในประเทศไทย

และกรณีนายเบนจามิน เมาเออร์เบอร์เกอร์ หรือนายเบน สมิธ ที่กระทบกับความมั่นคงของประเทศ เป็นต้น ซึ่งวันนี้ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกฯ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯ ติดภารกิจไม่ได้ มาชี้แจงกับคณะกรรมาธิการฯ แต่อย่างใด

จากนั้น นายธนดล สุวัณณะฤทธิ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ซึ่งระบุว่า ตนเองได้รับมอบหมายจาก ร้อยเอก ธรรมนัส ให้มาขี้แจงแทน ถึงความสัมพันธ์ ระหว่าง ร้อยเอก ธรรมนัส กับนายเบน สมิธ โดยได้รอรออยู่หน้าห้องประชุม กมธ. เกือบ 40 นาที แต่ไม่ได้รับอนุญาตจากคณะกรรมการมาธิการให้เข้าไปในห้องแต่อย่างใด

 

ซึ่ง นายธนดล ได้พูดเชิงตัดพ้อ ว่า “ทำไมไม่ให้ตนเข้าไปชี้แจง การทำงานของคณะกรรมาธิการทำแบบนี้หรือ” พร้อมระบุอีกว่า ตนจะไปแจ้งทางสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ขณะที่ช่วงหนึ่ง นายไชยามพวาน มั่นเพียรจิตต์ สส.พรรคไทยก้าวหน้า ได้เดินผ่านมาและกระซิบกับนายธนดล ประมาณ 2-3 นาที ซึ่งนายธนดล บอกกับสื่อว่า แค่มาให้กำลังใจกันเฉยๆ

 

 

 

\"ธนดล\" ยัน รู้ทุกเรื่องความสัมพันธ์ \"เบน สมิธ-ธรรมนัส\" ท้า \"โรม\" หากมีหลักฐานไปแจ้งความ

 

\"ธนดล\" ยัน รู้ทุกเรื่องความสัมพันธ์ \"เบน สมิธ-ธรรมนัส\" ท้า \"โรม\" หากมีหลักฐานไปแจ้งความ

 

 

นายธนดล กล่าวว่า เมื่อวันที่ 6 ต.ค. มีหนังสือเชิญ ร.อ.ธรรมนัส ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรฯ เนื่องจากมีความใกล้ชิดกับ นายเบน สมิธ แต่ร้อยเอกธรรมนัสได้มอบหมายให้ตนเข้ามาชี้แจงแทนในทุกเรื่องทุกประเด็น แต่รออยู่ 40 นาทีไม่มีเจ้าหน้าที่มาติดต่อเลยว่าจะให้ดำเนินการอย่างไร และตนจะรอจนกว่าเจ้าหน้าที่จะมาติดต่อ แต่ถ้าไม่ให้เราชี้แจงก็น่าจะให้เราได้เข้าไปในกรรมาธิการฯ และบอกว่าไม่ให้ชี้แจงด้วยเหตุผลอะไร ประเด็นกฎระเบียบหรือมติของกรรมาธิการเป็นอย่างไร แต่ก็ไม่มีใครมาติดต่อเลย

 

\"ธนดล\" ยัน รู้ทุกเรื่องความสัมพันธ์ \"เบน สมิธ-ธรรมนัส\" ท้า \"โรม\" หากมีหลักฐานไปแจ้งความ

 

 

\"ธนดล\" ยัน รู้ทุกเรื่องความสัมพันธ์ \"เบน สมิธ-ธรรมนัส\" ท้า \"โรม\" หากมีหลักฐานไปแจ้งความ

 

\"ธนดล\" ยัน รู้ทุกเรื่องความสัมพันธ์ \"เบน สมิธ-ธรรมนัส\" ท้า \"โรม\" หากมีหลักฐานไปแจ้งความ

 

\"ธนดล\" ยัน รู้ทุกเรื่องความสัมพันธ์ \"เบน สมิธ-ธรรมนัส\" ท้า \"โรม\" หากมีหลักฐานไปแจ้งความ

 

 

 

 

เมื่อถามว่าหนังสือเชิญต้องการให้เจ้าตัวมาตอบเองเท่านั้น

นายธนดล กล่าวว่า มีพระราชบัญญัติอำนาจเรียกของคณะกรรมาธิการได้ระบุอย่างชัดเจนว่า ในกรณีที่จะเชิญรัฐมนตรีต้องทำหนังสือถึงนายกรัฐมนตรีด้วย จึงขอถามว่าการเรียก ร.อ.ธรรมนัส เรียกในฐานะบุคคลหรือเรียกในฐานะรัฐมนตรี ถ้าเรียกในฐานะรองนายกและรัฐมนตรี ก็ต้องถามว่าได้ทำหนังสือถึงนายกรัฐมนตรีแล้วหรือยัง ในกฎหมายยังบอกว่าถ้าเจ้าตัวที่ได้รับการเชิญไม่สามารถมาได้ก็สามารถส่งตัวแทนมาได้ ซึ่งตนปฏิบัติตามกฎหมาย

 

\"ธนดล\" ยัน รู้ทุกเรื่องความสัมพันธ์ \"เบน สมิธ-ธรรมนัส\" ท้า \"โรม\" หากมีหลักฐานไปแจ้งความ

 

\"ธนดล\" ยัน รู้ทุกเรื่องความสัมพันธ์ \"เบน สมิธ-ธรรมนัส\" ท้า \"โรม\" หากมีหลักฐานไปแจ้งความ

 

\"ธนดล\" ยัน รู้ทุกเรื่องความสัมพันธ์ \"เบน สมิธ-ธรรมนัส\" ท้า \"โรม\" หากมีหลักฐานไปแจ้งความ

 

\"ธนดล\" ยัน รู้ทุกเรื่องความสัมพันธ์ \"เบน สมิธ-ธรรมนัส\" ท้า \"โรม\" หากมีหลักฐานไปแจ้งความ

 

\"ธนดล\" ยัน รู้ทุกเรื่องความสัมพันธ์ \"เบน สมิธ-ธรรมนัส\" ท้า \"โรม\" หากมีหลักฐานไปแจ้งความ

 

\"ธนดล\" ยัน รู้ทุกเรื่องความสัมพันธ์ \"เบน สมิธ-ธรรมนัส\" ท้า \"โรม\" หากมีหลักฐานไปแจ้งความ

 

\"ธนดล\" ยัน รู้ทุกเรื่องความสัมพันธ์ \"เบน สมิธ-ธรรมนัส\" ท้า \"โรม\" หากมีหลักฐานไปแจ้งความ

 

\"ธนดล\" ยัน รู้ทุกเรื่องความสัมพันธ์ \"เบน สมิธ-ธรรมนัส\" ท้า \"โรม\" หากมีหลักฐานไปแจ้งความ

 

 

 

 

 

 

 

เมื่อถามว่าการที่เรียก ร.อ.ธรรมนัส มาในครั้งนี้เกี่ยวกับความสัมพันธ์กับ นายเบน สมิธ จึงต้องมาชี้แจงเองนั้น

นายธนดล กล่าวว่า ร.อ.ธรรมนัส ไม่ได้มาชี้แจงเนื่องจากติดภารกิจ ลงพื้นที่น้ำท่วม อำเภอชุมแสง จังหวัดนครสวรรค์ ต้องลงไปดูชาวบ้านก่อนจึงมอบหมายให้ตนมาเป็นตัวแทนในการชี้แจงเพราะฉะนั้นตนทำตามกฎหมาย ตนอยู่ใน 2 สถานะ คือ ได้รับมอบอำนาจจาก นายเบน สมิธ ให้ดำเนินคดีกับ นายรังสิมันต์ ฐานหมิ่นประมาท และเป็นคณะที่ปรึกษาของร้อยเอกธรรมนัส ซึ่งตนมาในฐานะที่ 2 และรู้เรื่องความสัมพันธ์ ระหว่าง นายเบน สมิธ และร.อ.ธรรมนัส เป็นอย่างดี

 

"ในหนังสือเชิญได้เชิญ ร.อ.ธรรมนัส ตามกฎหมายอำนาจเรียก ซึ่งหากเจ้าตัวไม่สะดวกก็สามารถส่งตัวแทนได้ จึงตั้งคำถามไปยังกรรมาธิการ ว่ามีบรรทัดฐานแบบนี้ใช่หรือไม่ ถ้าเรียกนายกฯ แต่นายกฯ ไม่ว่าง มอบคนอื่นไม่ได้ใช่หรือไม่ ตอนนี้ในการเรียกใช้อะไรเป็น บรรทัดฐาน" นายธนดล กล่าว

 

 

เมื่อถามว่าหากหนังสือเรียกเชิญตัวบุคคลคือร้อยเอกธรรมนัสไม่ใช่ในตำแหน่งรัฐมนตรีเราจะสามารถเข้าไปชี้แจงได้หรือไม่

นายธนดล กล่าวว่า ต้องดูในหนังสือว่าเชิญในฐานะอะไร ถ้าเชิญตัวบุคคลร้อยเอ็กธรรมนัสก็ต้องมาหรือมอบตัวแทนก็ได้ แต่วันนี้เชิญร้อยเอกธรรมนัสในฐานะรัฐมนตรี

 

 

 

 

ส่วนถ้ามีการเชิญครั้งที่สอง ร.อ.ธรรมนัสจะต้องมาเองหรือไม่เพราะทางกรรมาธิการไม่รับฟังผู้ที่มาชี้แจงแทน

นายธนดล ยืนยันว่า ทุกอย่างปฏิบัติตามกฎหมาย ส่วนการเลือกของกรรมาธิการก็เป็นอำนาจ เราจะมาหรือไม่มาก็ชี้แจงเป็นหนังสือหรือมอบหมายบุคคลก็ได้ จะรับหรือไม่รับก็เป็นเรื่องของกรรมาธิกา

 

 

 

 

เมื่อถามว่าข้อมูลที่เตรียมมาชี้แจงวันนี้มีอะไรสำคัญบ้าง

นายธนดล ระบุว่า ตนมีทุกอย่างครบทุกประเด็นว่านายเบน สมิธ เป็นใครทำอะไรทำไมถึงมาอยู่ประเทศไทย ตนพร้อมตอบทุกคำถาม พร้อมยืนยันว่า นายเบน สมิธ คนที่ในรังสิมันต์หมายถึง กับเบน สมิธ ที่รู้จักกับ ร.อ.ธรรมนัส เป็นคนละคนกัน ตนไปดูหลักฐานมาหมดแล้วยืนยันว่าเป็นคนละคนกันร้อยเปอร์เซ็น

 

"กลต. เมื่อปี 62 พบว่า นายเบนจามิน เบอร์เจอร์ ได้กระทำความผิดขายหุ้นบริษัทเทียนเทียน แล้วทำหนังสือไปถึงกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) กอง 3 แล้วมาพบที่หลังว่าคนที่ขายหุ้นใช้ชื่อปลอม โดยชื่อจริง มิสเตอร์นี้ๆๆ แต่ผมยังไม่พูด เพราะผมจะไปสู้ที่ศาลเท่านั้นเองคนละคนแน่นอนยืนยัน ผมเห็นกับตาด้วยตัวของผมแล้ว

ผมยืนยันเลยว่า นายเบน สมิธ เป็นคนละคนกับที่คุณโรมพูดยืนยัน ผมเอาชื่อเสียงรับประกันเลย เพราะผมเห็นกับตาแล้วว่าเป็นคนละคนอย่างแน่นอน แล้วตอนนี้ก็ถูกดำเนินคดีไปแล้ว แล้วคนที่ถูกดำเนินคดีไม่ใช่ นายเบนจามิน เบอร์เจอร์ ด้วย แต่ผมยังไม่พูด เพราะจะรอไปชี้แจงในกรรมาธิการ" นายธนดล กล่าว

 

 

 

เมื่อถามว่าเรื่องทุนสีเทาที่ชายแดน

นายธนดล กล่าวสวนขึ้นมาว่า เกี่ยวอะไรกับ ร.อ.ธรรมนัส ยืนยันว่าไม่เกี่ยว ทุนสีเทาก็ให้ว่ากันไปตามกฎหมายมีหลักฐานอะไรใครทำผิดก็ดำเนินคดี ไม่เกี่ยวกับ ร.อ.ธรรมนัส หากมีหลักฐานก็ไปแจ้งความเอาผิด ไม่ต้องมาพูดรายวัน

"คือในฐานะกรรมาธิการถ้าพบการกระทำความผิดก็ต้องไปดำเนินคดีถูกต้องไหม กับผู้ที่กระทำความผิด แต่ถ้าคุณรู้ว่าเขากระทำความผิด แล้วไม่ดำเนินคดีคุณละเว้นการปฏิบัติหน้าที่หรือไม่ ขอฝากย้อนถามไปด้วย ผมยังไม่เห็นหลักฐานเลยเอามาให้ผมดูหน่อย ให้ผมเข้าไปชี้แจงเอาหลักฐานมาแล้วค่อยว่ากัน ให้พี่น้องสื่อมวลชนถ่ายทอดให้ประชาชนเห็นว่าเบนจามินหรือเบนสมิธ เป็นทุนสีเทาเป็นทุนกัมพูชาเป็นสแกมเมอร์ เป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์จริงไหม ถ้าไม่จริงคุณโรมต้องรับผิดชอบ" นายธนดลกล่าว

 

 

 

เมื่อถามว่า ร.อ.ธรรมนัส ได้ฝากอะไรมาหรือไม่

นายธนดล กล่าวว่าฝากมาเยอะพอสมควร แต่รอชี้แจงในกรรมาธิการ

 

 

นายธนดล ยังกล่าวว่า เมื่อไปดูพยานหลักฐานแล้ว นายเบน สมิธ ไม่ได้โดนดำเนินคดี ไม่มีหมายแดง ไม่เคยถูกต้องคำพิพากษาในประเทศไทย เป็นบุคคลที่เดินทางเข้าออกในประเทศไทยได้โดยไม่ผิดกฎหมาย ส่วนสถานะการคบหากับ ร.อ.ธรรมนัส เป็นเหมือนคนรู้จักกันเป็นพี่เป็นน้อง ไม่มีกฎหมายไหนห้ามคบกัน เราปฏิบัติตามข้อกฎหมาย หากนายเบน สมิธ ทำผิดขอให้แจ้งความเลย

 

 

ส่วนหลังจากนี้นายเบน สมิธ จะมีการขอสัญชาติไทยใหม่หรือไม่

นายธนดล กล่าวว่า การขอสัญชาติถูกตีกลับเนื่องจากบุตรชายของนายเบน สมิธ บอกว่าพ่อกับแม่เป็นคนสัญชาติอื่น เลยกลับไปแก้เอกสารเท่านั้นเอง ส่วนการจะขอใหม่ก็เป็นสิทธิ์ของเขา

 

 

 

เมื่อถามว่าขณะนี้สังคมออกมาวิจารณ์กันเยอะ

นายธนดล ระบุว่า ร.อ.ธรรมนัส กับ เบน สมิธ ไม่มีสิทธิ์ออกมาพูด ตนจึงมาพูดแทน ประชาชนเดือดร้อนก็มาเล่นเกมการเมือง เคยสนใจประชาชนบ้างหรือไม่

 

 

 

เมื่อถามว่าหากกรรมาธิการมีการเชิญครั้งต่อไป ร.อ.ธรรมนัส จะมาด้วยตัวเองหรือไม่

นายธนดล กล่าวว่า เราว่าไปตามกฎหมาย แต่วันนี้เราอยากเข้าไปใจจะขาด เพราะวันนี้ตนเตรียมหลักฐานมาว่า นายเบนจามิน เมาเออร์เบอร์เกอร์ กับ นายเบน เบอร์เจอร์ เป็นคนละคนกัน

 

 

"อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีใครไปแจ้งความดำเนินคดีกับนายเบน สมิธ เลยแต่คนมาพูดโจมตีทุกวัน จนประชาชนเข้าใจว่าเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ซึ่งไม่ใช่ถ้าจริงเราไม่กล้าฟ้องร้องหรอก เพราะเขาเองก็เป็นนักธุรกิจจึงไม่อยากออกมาพูด เดี๋ยวจะเสียหาย สุดท้ายก็เป็นเกมการเมืองที่ต่างคนต่างทำหน้าที่ และถ้าเบน สมิธ ไม่ใช่แก๊งคอลเซ็นเตอร์หรือทุนสีเทาใครจะรับผิด และยืนยันว่าร้อยเอกธรรมนัสและเบน สมิธ ไม่มีธุรกิจอะไรที่เกี่ยวข้องกัน" นายธนดล กล่าว

 

 

เมื่อถามว่า กังวลหรือไม่ที่นายธนดล เป็นทนายให้กับ ร.อ.ธรรมนัสและเบน สมิธ นั้น

นายธนดล กล่าวว่า ตนไม่กังวล ทัวร์ลงอยู่แล้ว แต่กฎหมายก็ไม่ได้ห้ามให้ตนรับมอบอำนาจกับผู้หนึ่งผู้ใด ส่วนที่ตนเองถูกตั้งคำถามเรื่องความเหมาะสม เพราะมีความเชื่อมโยงกับทั้งสองคนนั้น ตนยอมรับที่จะถูกวิจารณ์ แต่มั่นใจว่าตนไม่ได้ทำผิดกฎหมาย เพราะไม่มีใครมาดูแลหรือให้เงิน ตนได้รับค่าตอบแทนถูกต้องตามกฎหมาย

 

 

 

เมื่อถามว่าต่อจากนี้ ร.อ.ธรรมนัส จะมีการฟ้องร้องหรือไม่

นายธนดล กล่าวว่า ต้องดูว่าอะไรที่ถูกพาดพิงและทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง ก็จะดำเนินคดีตามกฎหมาย