
26 กันยายน 2568 ที่กระทรวงมหาดไทย นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วย นายทรงศักดิ์ ทองศรี , นายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ และนางสาวศศิธร กิตติธรกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เข้ากระทรวงมหาดไทยวันแรกหลังที่ นายอนุทิน เปลี่ยนรัฐบาล เป็นนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เข้ารับตำแหน่งอย่างเป็นทางการ เพื่อมอบนโยบาย โดยมีนายอรรถษิษฐ์ สัมพันธรัฐ ปลัดกระทรวงมหาดไทย และข้าราชการระดับสูงให้การต้อนรับ
ทั้งนี้ นายอนุทิน กล่าวมอบนโยบายว่า ในขณะที่ตนพักร้อน 2 เดือนกว่า ได้ทราบว่ามีเรื่องราวเกิดขึ้นมากมายไม่ว่าจะเป็นการโยกย้ายข้าราชการ มีความพยายามใช้อำนาจทางการเมือง เพื่อให้เกิดการกระทำในสิ่งต่างๆ สิ่งที่ได้เกิดขึ้นนั้นเป็นเครื่องเตือนใจว่าการเป็นข้าราชการ ไม่ว่าผู้บริหารระดับสูง ใครจะมาใครจะไป สิ่งที่พวกท่านทั้งหลายในฐานะที่เป็นข้าราชการฝ่ายประจำ ควรจะต้องยึดมั่น ตั้งมั่นและยึดถือให้ไม่เสื่อมคลาย คือการมีความซื่อตรงต่อหน้าที่การรักษาศักดิ์ศรีความเป็นข้าราชการ ความคงเส้นคงวา และรักษาศักดิ์ศรีขององค์กร ซึ่งศักดิ์ศรีเหล่านี้จะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อ พวกเราทุกคนปฏิบัติตามภารกิจหน้าที่ ตามกฎหมายกฎระเบียบ โดยดำเนินการทุกอย่างบนประโยชน์ของประเทศ ของรัฐบาล ของกระทรวงมหาดไทย และของประชาชนซึ่งมีราษฎรเป็นที่ตั้ง
ตนมีความภาคภูมิใจ ที่ท่านทั้งหลายได้ร่วมกันทำงานและยึดถือสิ่งที่ถือร่วมกันมา และสิ่งเดียวที่ตนอยากจะขอจากท่านคือขอให้รักษาหลักการนี้ต่อไป ขอให้วัฒนธรรมของกระทรวงมหาดไทย ในทุกระดับให้เป็นวัฒนธรรมแห่งความเป็นมืออาชีพ มีความซื่อสัตย์สุจริตอย่างเคร่งครัด ไม่ต้องเกรงกลัวต่ออำนาจใดๆ ที่เป็นสิ่งไม่ถูกต้อง หรือต้องไม่ถูกล่อใจ ด้วยผลประโยชน์สิ่งอื่นใด ที่ทำให้เจตนารมณ์และอุดมการณ์ของท่านต้องโอนอ่อน เพราะไม่ว่าจะเป็นฝ่ายข้าราชการ หรือฝ่ายบริหารอย่างตน เรามีจุดมุ่งหมายเดียวกัน คือธำรงไว้ซึ่งสถาบัน ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และประชาชน
สำหรับนโยบายของกระทรวงมหาดไทย ในระยะเวลา 4 เดือนข้างหน้านี้ ตนคิดว่าทุกท่านที่อยู่ในห้องนี้และที่ร่วมประชุมผ่านเทเลคอนเฟอเรนซ์ ยังเป็นบุคคลหน้าเดิม อาจมีเปลี่ยนแปลงบ้าง ในบางตำแหน่ง แต่ก็ล้วนแล้วแต่ เป็นบุคคลที่คุ้นหน้าคุ้นตามีความสนิทสนมรักใคร่ปรองดองกับตนเป็นอย่างดี ที่เคยทำกันมาเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา ก็ให้เป็นไปตามนั้น เพียงแต่ขอให้เพิ่มความเร่ง และมีประเด็นที่เราอาจต้องให้ความสำคัญมาก เป็นพิเศษคือ ปัญหาเรื่องชายแดนไทยกัมพูชา จะไม่มีการเจรจาอะไรที่เป็นภัยต่อประเทศ เพราะฉะนั้นเรื่องของการเปิดด่านไม่ว่าจะเป็นด่านชั่วคราวหรือถาวรจะไม่มีวันเกิดขึ้นจนกว่าจะมีการเจรจาที่เป็นประโยชน์ต่อประเทศไทย และประชาชนชาวไทย ได้เป็นที่ยอมรับ และเป็นที่พึงพอใจของประชาชนคนไทยทั้งหมด
ดังนั้น พวกเราทุกคนจะต้องใช้ ช่วงระยะเวลานี้ในการปฏิบัติหน้าที่ ด้วยความเข้มแข็งอดทน และสนับสนุนเกื้อกูลซึ่งกันและกัน โดยขอให้ทางฝ่ายปกครอง อย่างที่ตนเคยกล่าวก่อนพ้นตำแหน่งไป อยากให้ฝ่ายปกครองได้ทำหน้าที่เป็นกำลังสนับสนุน ฝ่ายทหารและกองทัพ ซึ่งเขาจะได้ทำหน้าที่ ในสมรภูมิชายแดน ป้องกันอธิปไตยของประเทศโดยที่ไม่ต้องมีความกังวลว่า แนวหลังของเขาจะเป็นอย่างไร ฝ่ายปกครองจะต้องทำหน้าที่รักษาเยียวยาจิตใจ ดูแลให้ความสะดวก และปกป้องภัยอันตรายจากประชาชนที่เป็นแนวหลัง เราอาจจะมีเหตุการณ์อะไรที่คาดการณ์ไม่ได้ และไม่พึงประสงค์ แต่หากเกิดขึ้น ขอให้ปลัดกระทรวงมหาดไทย สั่งการอย่างสุดอำนาจที่มีอยู่ เพื่อดูแลสารทุกข์สุขดิบของประชาชน
เพื่อให้ประชาชนมีความปลอดภัย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในแนวชายแดน มีจุดเชื่อมต่อกับกัมพูชา ส่วนนโยบายอื่นๆเราได้ปฏิบัติกันอยู่แล้ว ตนก็ขอให้ความชื่นชม เมื่อใดก็ตามที่ประเทศมีภัย กระทรวงมหาดไทย คือคนแรกที่อยู่กับประชาชน ตนได้เห็นการปฏิบัติงาน ด้วยความวิริยะอุตสาหะของข้าราชการทุกท่าน รวมถึงผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ที่ได้ทุ่มเทกำลังกายกำลังใจ อย่างสุดความสามารถทุกอย่างเพื่อที่จะแก้ไขปัญหาที่รุมเร้า ประเทศ
ซึ่งปัญหาเหล่านี้ล้วนแต่มีความเกี่ยวข้องกับกระทรวงมหาดไทย ทั้งปัญหาความมั่นคง ชายแดน ยาเสพติด และภัยพิบัติ ตนได้ประกาศไปว่าคณะรัฐมนตรีชุดนี้จะทำงานโดยไม่มีวันหยุด ตนไม่ได้คาดหวังสิ่งเดียวกันจากท่าน แต่ขอให้ได้ให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่ เพราะสมัยที่ตนได้ทำงานอย่างใกล้ชิดกับท่าน ก็เห็นว่ามีความมุมานะ ไม่ว่าวันนั้นจะเป็นวันหยุดหรือวันทำงาน ขอให้สิ่งเหล่านี้กลับมาบังเกิดขึ้นอีกต่อไป เพื่อประโยชน์ของประชาชน จิตวิญญาณของเราคือการให้ความสำคัญ อยากให้ความสำคัญกับงานบำบัดทุกข์บำรุงสุข ทำให้ประชาชนมีความสมบูรณ์พูนสุข ด้วยความทันสมัยทันโลก และทันเหตุการณ์ทันท่วงที
นายอนุทิน ยังบอกด้วยว่า เราไม่ได้มาพบกันเป็นครั้งแรก พร้อมระบุด้วยว่าหากวันนั้นไม่ได้ออกไป วันนี้คงไม่ได้กลับมา เรามีภารกิจ ที่ห่างเหินกันไปชั่วระยะเวลาหนึ่ง ขอให้ความรักความผูกพัน ไม่ใช่เหมือนเดิมแต่ขอให้เน้นแฟ้นมากยิ่งขึ้น ศึกษาวิธีการทำงาน และความเป็นเพื่อนร่วมงานที่ดี รักษาความสัมพันธ์ และสายใย ให้ความสำคัญ กับความผูกพันที่เรามีต่อกัน ตลอดเวลา เพื่อที่เราจะปฏิบัติหน้าที่ร่วมกันด้วยความไว้วางใจความจริงใจ เพื่อประชาชนสถาบันพระมหากษัตริย์ซึ่งเป็นที่เคารพบูชาสูงสุดของพวกเรา
ในสัปดาห์หน้าคณะรัฐมนตรีได้รับทราบมาแล้วว่าจะมีการแถลงนโยบายต่อรัฐสภา เพื่อที่รัฐมนตรีทุกคนจะได้ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความสมบูรณ์ โดยจะมีการแถลงนโยบายและรับฟังการอภิปรายจากสมาชิก ในวันที่ 29 -30 กันยายน 2568 ทางกระทรวงมหาดไทย จัดเตรียมความพร้อมในเรื่องข้อมูลต่างๆ หากมีข้อสงสัยจากสมาชิกรัฐสภา พวกตนทุกคน ก็เหมือนเดิมเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรด้วย ในอีกสถานะหนึ่ง ถึงแม้จะไม่ได้เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ก็มีพื้นที่รับผิดชอบ ที่รัฐมนตรีแต่ละท่านจะต้องไปรับผิดชอบในนามของรัฐบาลและกระทรวงมหาดไทย จึงขอให้ทุกท่านให้ความสำคัญ
นายอนุทิน ยังย้ำ กับข้าราชการเหมือนเดิม ว่า ทุกอย่างไม่มีอะไรค้างคาใจกัน ไม่มีอะไรที่จะมาทักท้วง หรือว่ามาทวงสัญญาอะไรกัน ขอให้มองไปข้างหน้า ไม่ต้องมองไปข้างหลัง ขออนุญาตนำท่อนหนึ่งของเพลงเต๋อ เรวัต มอบให้กับทุกคนคือ “ที่แล้วก็แล้วไป ไม่ตะขิดตะขวงใจ ถึงอย่างไรก็จริงใจต่อกัน”
ขณะเดียวกันผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศที่กระทรวงมหาดไทยเป็นไปอย่างคึกคัก บรรดาครอบครัวของรัฐมนตรี และข้าราชการ ต่างพากันมาแสดงความยินดี รวมไปถึงมีการเปลี่ยนป้ายชื่อรัฐมนตรีเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
อย่างไรก็ตามการเข้ามาดำรงตำแหน่งของนายอนุทิน เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยในครั้งนี้ ถือเป็นสมัยที่ 3 ของนายอนุทินและ สมัยที่ 68 หลังจากที่ดำรงตำแหน่งในสมัยรัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน และนางสาวแพทองธาร ชินวัตร ซึ่งตรงกับทะเบียนรถที่ย้ายรูปปั้นจำลองนรสิงห์ออกจากอาคารแสงอาทิตย์ไปยังตึกไทยคู่ฟ้า