
26 กันยายน 2568 เอกสารคำแถลงนโยบายของคณะรัฐมนตรี นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ที่จะแถลงต่อรัฐสภาในวันจันทร์ที่ 29 กันยายน 2568 นั้น เอกสารคำแถลงมีปกสีน้ำเงิน เนื้อหามีทั้งหมด 48 หน้า แต่ในส่วนที่เป็นคำแถลงนโยบายจริงๆ มีเพียงแค่ 7 หน้า ที่เหลือเป็นส่วนของภาคผนวกกับส่วนที่เป็นประกาศแต่งตั้งและรายชื่อรัฐมนตรีทั้งหมดของรัฐบาล ถือเป็นคำแถลงนโยบายที่มีความสั้นและกระชับมาก
รายละเอียดในคำแถลงนโยบาย รัฐบาลกำหนดนโยบายสำคัญที่จะแก้ไขปัญหาเร่งด่วนของประเทศ ทั้งหมด 5 ด้าน ประกอบด้วย
ถอดรหัสไฮไลต์ 4 นโยบายเร่งด่วน
1. จัดทำรัฐธรรมนูญโดยประชาชนมีส่วนร่วม + จัดทำประชามติ
2. ปลดหนี้หรือปล่อยกู้ประชาชนรายละ 1 แสนบาท (เพื่อให้ไปใช้หนี้หรือลดหนี้)
3. ปลดหนี้หรือปล่อยกู้เอสเอ็มอี รายละ 1 ล้านบาท (เพื่อให้ไปใช้หนี้หรือลดภาระหนี้)
*** นโยบายข้อ 2 กับข้อ 3 เท่ากับ “เกทับ - บลัฟแดง” โชว์เหนือรัฐบาลเพื่อไทยหรือไม่ เพราะแจกเงินหมื่นไม่สำเร็จ แต่รัฐบาลภูมิใจไทยขายแนวทางปลดหนี้คนธรรมดา รายละ 1 แสน และเอสเอ็มอีถึงรายละ 1 ล้าน มากกว่าแจกเงินหมื่น 10-100 เท่า และเอสเอ็มอีได้ด้วย
*** ถือเป็นนโยบายประชานิยม หวังผลระยะสั้น และเขย่าสนามเลือกตั้งแน่นอน
“คนละครึ่ง - รายละแสน - กิจการละล้าน”
4. ทำประชามติ ยกเลิกเอ็มโอยู 43-44
แถลงนโยบายเดือดแน่...แค่เอกสารยังร้อน!
เน้นข้อความ... “ด้วยระยะเวลาที่มีอยู่จำกัด และงบประมาณที่รัฐบาลนี้ไม่ได้เป็นผู้จัดทำ ทั้งยังเป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อย…”
เน้นข้อความ... “การสร้างความมั่นคง ความสงบเรียบร้อยและสันติสุขให้เกิดขึ้นกับประเทศชาติบ้านเมืองและการเสริมสร้างความไว้วางใจจากประชาชน”
แขวะรัฐบาลชุดที่แล้วหรือไม่ ?
ข้อความในร่างนโยบายเขียนชัด... “ไม่สนับสนุนให้มีการประกอบธุรกิจการพนันทุกชนิดให้เป็นธุรกิจที่ถูกกฎหมาย ไม่สนับสนุนเอนเทอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ที่มีธุรกิจการพนัน รวมถึงการพนันที่แฝงมาในรูปของกีฬา อาทิ โป๊กเกอร์ และจะดำเนินการแก้ไขพระราชบัญญัติการพนันและกฎกระทรวงที่เกี่ยวข้อง เพื่อควบคุมและลดการอนุญาตการเล่นการพนัน ให้ได้มากที่สุด”
ใช้คำว่า “…โดยในส่วนของพระพุทธศาสนารัฐบาลจะดำเนินการโดยพระสังฆราชานุมัติด้วยความเห็นชอบของมหาเถรสมาคม”
น่าสนใจคำว่า “พระสังฆราชานุมัติ”
ใช้คำว่า “เร่งรัดการปฏิรูปกฎหมาย กฎระเบียบ โดยยกเลิกกฎหมาย กฎระเบียบที่เป็นอุปสรรคและสร้างภาระที่ไม่จำเป็นแก่ประชาชนและภาคธุรกิจที่เรียกว่ากิโยติน (Guillotine) การริเริ่มเสนอกฎหมายที่เกี่ยวกับเศรษฐกิจแพลตฟอร์มดิจิทัลและผลักดันการปรับปรุงกฎหมายว่าด้วยธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์ให้สอดคล้องกับเทคโนโลยีดิจิทัลที่เปลี่ยนไป…”