
26 กันยายน 2568 เข้าสู่โค้งสุดท้าย สำหรับการเลือกตั้งซ่อม สส. ศรีสะเกษ เขต 5 (อ.ขุนหาญ และ อ.ภูสิงห์ ) ซึ่งจะมีขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 28 กันยายน นี้ โดยเป็นการแข่งขันระหว่าง สองพรรคการเมืองใหญ่
ค่ายแดง เพื่อไทย ส่งตัวตายตัวแทน ภูริกา สมหมาย หรือ กุ้ง หมายเลข 1 บุตรสาวของ “อมรเทพ สมหมาย” ที่เพิ่งเสียชีวิตไปเมื่อวันที่ 27 มิ.ย. 2568
ค่ายน้ำเงิน ภูมิใจไทย ส่ง “จินณ์ตวรรณ ไตรสรณกุล” “อีฟ” หมายเลข 2 บุตรสาวของ “ธีระ ไตรสรณกุล” อดีต สส.ศรีสะะเกษ ลงสมัคร
ก่อนถึงวันอาทิตย์ที่ 28 กันยายน คอการเมืองพอจำกันได้ว่า เมื่อวันอาทิตย์ที่ 14 กันยายนที่ผ่านมา ก็มีการเลือกตั้งซ่อม สส.เชียงราย เขต 7 เป็นการแข่งขันระหว่าง ค่ายสีแดง และค่ายสีส้ม โดยพรรคเพื่อไทยคว้าชัยชนะ แต่มาเลือกตั้งซ่อม สส.ศรีษะเกษ วันอาทิตย์นี้ เพื่อไทย จะประสบความสำเร็จเหมือนเชียงรายหรือไม่
จากการพูดคุยกับ คุณศักดา นพสิทธิ์ นักวิเคราะห์ทางการเมือง ชวนมาส่องสมรภูมิเลือกตั้งเดือดครั้งนี้กัน
คุณศักดา บอกว่า พื้นที่ศรีสะเกษกับเชียงรายแตกต่างกัน โดยการเลือกตั้งซ่อม สส.เชียงราย ที่เพื่อไทยชนะพรรคประชาชนนั้น เพราะเพื่อไทยได้รับความนิยม ที่ยังหลงเหลือในความทรงจำ เนื่องจากพื้นที่ภาคเหนือ เชียงใหม่ เชียงราย พื้นที่ฐานที่มั่นเพื่อไทยโดยแท้ และเป็นการต่อสู้กับพรรคประชาชนเท่านั้นเอง พรรคประชาชนจึงด้อยในการรวบรวมเสียง
“เมื่อมาดูที่ศรีสะเกษ การเลือกตั้งซ่อมครั้งนี้ เป็นเพราะอดีต สส.เสียชีวิต ก็จะเป็นการต่อสู้ในลักษณะ พรรคเพื่อไทย กับภูมิใจไทย เห็นได้ว่าคู่ต่อสู้เปลี่ยนไป แต่ด้วยความบังเอิญว่า พื้นที่อีสานเป็นพื้นที่ก้ำกึ่ง ที่เราต้องพิจารณา โดยเฉพาะศรีสะเกษเป็นพื้นที่อีสานใต้ ต่อเนื่องมาจากบุรีรัมย์ขึ้นมา ได้รับอิทธิพลจากบ้านใหญ่บุรีรัมย์ ด้วยเหมือนกัน ในขณะเดียวกัน พรรคเพื่อไทย ที่โดดเด่นตอนนั้นเพราะเป็นนายกฯ คุมอำนาจรัฐ ข้าราชการเกรงเอกเกรงใจบ้าง ก็กลายเป็นปรับเปลี่ยนทันที ให้ภูมิใจไทย ณ ชั่วโมงนี้ "
ฉะนั้น สิ่งที่ต้องมองประกอบด้วยปัจจัยดังนี้
1. สภาพพื้นที่ศรีสะเกษ อยู่ในเขตอีสานใต้ เชี่อมต่อบุรีรัมย์ สุรินทร์
2. ความนิยม กำลังแปรผัน จากเพื่อไทย-ภูมิใจไทย หรือไม่
3. การสนับสนุนพลังจากบ้านใหญ่บุรีรัมย์ –สุรินทร์
4. ทรัพยากรจากตรงนั้น (กระสุนดินดำ)
คุณศักดา ชี้ว่า ที่ศรีสะเกษ เป็นการต่อสู้พรรคการเมืองใหญ่ด้วยกันทั้งคู่ คือ เพื่อไทย กับภูมิใจไทย การต่อสู้ครั้งนี้ เป็นการต่อสู้ระหว่าง ฝ่ายค้าน กับรัฐบาล พรรคเพื่อไทยจะถูกกลับเป็นฝ่ายค้าน ก็อาจโจมตีเขาได้บ้าง แต่โจมตีได้อย่างไร เพราะเขายังไม่ได้ทำอะไร ถ้าจะโจมตีได้บ้าง ก็รูปร่างหน้าตา รมต. แต่พรรคภูมิใจไทย ก็อาจย้อนศรได้เหมือนกันว่า ตอนเพื่อไทยเป็นรัฐบาลไม่ได้ ทำไม่ได้เหมือนกัน ตรงนี้จะทำให้คะแนนเปลี่ยนแปลง
นักวิเคราะห์การเมืองท่านนี้ ยังได้กล่าวถึงปัจจัยด้านทรัพยากร (กระสุนดินดำ) ผมมองว่า พอๆกัน พลังสนับสนุน หาคนมาสนับสนุน ฟังปราศรัย ยุทธวิธีเหล่านี้คล้ายกัน
“แต่สำคัญที่สุด จะเป็นเดิมพันว่า หากพรรคเพื่อไทย รักษาพื้นที่ตรงนี้ไว้ได้ ในขณะที่เป็นการเลือกตั้งซ่อม สส.เพื่อไทย หากชนะก็ได้เท่าเดิม แต่ความเป็นจริงไม่ได้อยู่ตรงนั้น จะหยุดการไหล สส.ที่กำลังลังเล อยู่ว่า จะไปภูมิใจไทยสมัยการเลือกตั้งหน้าหรือไม่
ในขณะที่ภูมิใจไทย ถ้าได้มา 1 แต้ม อาจไม่สำคัญ แต่ที่สำคัญ แต้มนี้จะเป็นแต้มนำพาให้ สส.หันมาสนใจพรรคภูมิใจไทยมากขึ้น ในการเลือกตั้งครั้งหน้า อันนี้จะเป็นการเลือกตั้งทางยุทธศาสตร์ระดับชาติ ระดับพื้นที่ และทุนทรัพย์ สรรพกำลังไม่แพ้วัดกันค่อนข้างยาก และเป็นการสู่กันระหว่างลูกกับลูก