
21 กันยายน 2568 ที่ ศาลาประชาคมเทศบาลโพธิ์กระสังข์ อำเภอขุนหาญ จังหวัดศรีสะเกษ พรรคภูมิใจไทยจัดเวทีปราศรัยช่วยหาเสียงเลือกตั้งซ่อม สส.ศรีสะเกษ เขต 5 แทนตำแหน่งที่ว่าง โดยผู้สมัครคือ อีฟ จินณ์ตวรรณ ไตรสรณกุล ลูกสาวของ นายธีระ ไตรสรณกุล อดีต สส.ศรีสะเกษ
โดยในวันนี้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย นำทีมลงพื้นที่ช่วยหาเสียง โดยตอนหนึ่ง นายอนุทิน กล่าวว่า การเมืองสไตล์พรรคเพื่อไทยมักยึดหลัก “ต้องเอาคืน” จนทำให้บ้านเมืองเป็นอย่างที่เห็น ขณะที่พรรคภูมิใจไทยแตกต่างออกไป โดยยกตัวอย่างเมื่อ 2 เดือนก่อน ที่ตนเดินทางมาเปิดตัว อีฟ จินณ์ตวรรณ ผู้สมัครเบอร์ 2 ก็ไม่ได้รับความสะดวกใดๆ จากฝ่ายราชการ แถมทีมงานยังถูกอิทธิพลและแรงกดดันข่มขู่ ซึ่งก็ต้องตั้งคำถามว่าใครเป็นผู้อยู่เบื้องหลัง
อย่างไรก็ตาม วันนี้เมื่อกลับเข้ามาทำงาน ตนยืนยันว่าทุกอย่างต้องดำเนินไปตามปกติ ไม่มีแรงกดดันใด ๆ ทั้งสิ้น เพราะตนมั่นใจในตัว คุณจินณ์ตวรรณที่ส่งลงสมัคร ไม่เคยเชื่อในอิทธิพลหรือแนวคิดเรื่อง “การเอาคืน” คราวก่อนถูกผลักออกจากรัฐบาล จริง ๆ ก็น่าจะสาสมใจมากแล้ว แต่สิ่งนั้นไม่มีประโยชน์ต่อประเทศชาติและประชาชน สิ่งที่สำคัญกว่าคือการทำงาน หากประชาชนมอบความไว้วางใจให้ เราต้องกลับมาทำหน้าที่ให้ดียิ่งกว่าเดิม ดียิ่งกว่าการเอาคืนเสียอีก
กรณีที่พรรคเพื่อไทยไม่เข้าร่วมวิปฝ่ายค้านกับพรรคประชาชนว่า ไม่เป็นปัญหา เพราะรัฐบาลนี้มีอายุเพียง 4 เดือน หลังแถลงนโยบายก็จะยุบสภา ดังนั้นควรทำงานด้วยความรักและสามัคคี ประเทศกำลังมีปัญหากับเพื่อนบ้าน ไม่ควรหันมาขัดแย้งกันเอง ควรรอแข่งขันกันที่การเลือกตั้ง ให้ประชาชนเป็นผู้ตัดสิน ไม่ใช่ฝ่ายการเมืองตัดสินกันเอง
นายอนุทิน ชี้แจงกรณีถูกมองว่าแต่งตั้งคนใกล้ชิดเข้ารับตำแหน่งในคณะรัฐมนตรีว่า ไม่ควรไปมองว่าเป็นคนของใครหรือมาจากจังหวัดไหน สิ่งสำคัญคือผู้ทำงานการเมืองต้องมีความรู้ ความสามารถ และเหมาะสมกับงานในช่วงเวลานั้น หากมีคุณสมบัติเหมาะสมก็สามารถเข้ามารับใช้บ้านเมืองได้
“อย่าไปดูว่าเป็นคนของใคร จังหวัดไหน เพราะคนที่ทำงานการเมืองคนไหนมีความรู้ความสามารถเหมาะสมกับงาน ในช่วงจังหวะเวลาใด ถ้ามีความเหมาะสมก็เอามารับใช้บ้านเมือง”