
12 กันยายน 2568 วัดเรตติ้งของพรรคเพื่อไทยกับ พรรคภูมิใจไทย หลัง กกต.ประกาศเลือกซ่อม เป็นวันที่ 28 กันยายนนี้ แน่นอนแล้ว (เลือกซ่อม สส.ศรีสะเกษ เขต 5 คาดจะเกิดขึ้นหลังแถลงนโยบายรัฐบาลอนุทิน )
พรรคภูมิใจไทย-พรรคเพื่อไทย สองพรรคนี้คล้ายว่าจะเข้าตำรา "ผีไม่เผา เงาไม่เหยียบ" เพราะตั้งเเต่ค่ายสีเเดงเขี่ยขั้วสีน้ำเงินหลุด ครม.เเพทองธาร ชินวัตรไปนั้น เเละวันนี้ ภท.ตั้งรัฐบาลอนุทิน ชาญวีรกูลได้ 68สส.สีน้ำเงินน่าจะทุบค่ายสีเเดงลงได้เพราะคลิปเสียงเจ้ากรรม..
วิวาทะของขุนพลสองสีนี้ซัดกันนัวเเละหนักมีการขุดประวัติ/ข้อมูลลึกๆในการร่วมครม.มาเเฉกันเเบบรายวัน เเละวันนี้เวทีหาเเต้มเลือกตั้งซ่อมสส.ศรีสะเกษ เขตห้าน่าจะสนุก
สองพรรคนี้น่าจะฟาดวาทะกรรมกันเดือด เพราะเกมนี้คือศึกวัดเรตติ้งพื้นที่อีสานใต้ ของสองพรรคนี้ เเละการวางเกมในศึกหน้า เพราะภท.เปิดว่าที่นโยบาบรัฐบาล และว่าที่รมต.ชิงกระเเสไปเเล้วเเละมีเเววติดลมบน ส่วนพท.ออกตัวช้าเพราะสารพัดปัญหาจนมีเเววอาจเจ็บใจ
ดูทรงเเล้วขั้วสีเเดงที่เคยกุมสภาพเเกนนำรัฐบาลกำลังสั่งการรื้ออดีตค่ายสีน้ำเงินกันขนานใหญ่ เห็นง่ายๆที่ดินเขากระโดง-ฮั้วสว.-นโยบายกัญชาเสรี-ไม่สนับสนุนการทำงานในรัฐบาลหลายวาระ ภท. จ่อรื้อโผข้าราชการมหาดไทย มาโจมตีในสงครามกับสีน้ำเงิน
ค่ายเเดงช้ำเยอะกับชินวัตรเเฟมิลี่เเละดู 9 สส.พท.ไหลออกไปเเตะมือเสี่ยหนูนั้น ตรองดีๆ สส.อีสาน-อีสานใต้ กี่คน....
ค่ายสีน้ำเงินเคยยกวาทะเป็นขี้ข้าประขาชนดีกว่า "เป็นขี้ข้าคนขายชาติ" มาตอกลับเเละทยอยเปิดหน้าว่าที่รมต.-ว่าที่นโยบายรัฐบาลมาสู้
เพียงเท่านี้ใครต่อใครก็มองออกเเล้วว่า ใครจะวิน (หากประเมินคะเเนนเสียงที่ผู้สมัครสส.คาดว่าจะได้รับ)กับสถานการณ์บ้านเมืองเเละการเมืองในตอนนี้
เจาะรายละเอียดศึกเลือกตั้งซ่อมสส.เขต 5 ศรีสะเกษในวันที่ 28 กันยายน สองพรรคที่เป็นอริกันนั้น
พรรคสีเเดงส่ง "ภูริกา สมหมาย" บุตรสาวของอมรเทพ สมหมาย อดีต สส.ศรีสะเกษ พท.ที่เพิ่งเสียชีวิต
"ภูริกา สมหมาย”
ส่วนขั้วน้ำเงินเปิดตัว "จินณ์ตวรรณ ไตรสรณกุล" ทายาทธีระ ไตรสรณกุล อดีต สส.พื้นที่นี้ลงประชัน
จินณ์ตวรรณ ไตรสรณกุล
ตระกูล "สมหมาย-ไตรสรณกุล" ประชันกันอีกครั้ง โดยสองพรรคส่งเเกนนำไปคุม ชั้วสีเเดง มอบ “สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจเเละสมศักดิ์ เทพสุทิน ”บัญชาการ (ก่อนหน้านั้นวางเกมดันนายใหญ่บ้านจรัญฯไปหาเสียง แต่สถานการณ์เปลี่ยนไปแล้ว นายใหญ่ทักษิณ ต้องเข้าเรือนจำคลองเปรม เป็นเวลา 1 ปี)
ขณะที่ ค่ายสีน้ำเงิน นำโดย “อนุทิน ชาญวีรกุล หัวหน้าพรรค พร้อมหมวกอีกใบผู้นำประเทศคนที่ 32 สส.ภาคอีสาน ครอบครัวไตรสรณกุล” ที่คุมการเมืองท้องถิ่นจังหวัดนี้ไปร่วมชิงเเต้ม
เหตุเมื่อวันวาน ค่ายสีเเดงปะทะขั้วสีน้ำเงินเกิดมาเเล้วกับยุทธการ “ไล่หนูตีงูเห่า” ในการเลือกตั้งสส.ปี2566 โดยการเลือกตั้งสส.ศรีสะเกษ นั้น จังหวัดนี้มีสส.เก้าคน วันนั้นพรรคสีเเดงคว้าไปเจ็ด พรรคสีน้ำเงินได้สอง (เกมนั้นพท.วิน)
คราวนี้ภท.งัดวาทะไม่เป็น ”ขี้ข้าคนขายชาติ“ มาตอกเเผลเป็น ของพท.ในภาวะปัญหาชายเเดนไทย-กัมพูชานั้น หลังศาลรธน.วินิจฉัย ให้หัวหน้าพรรคเพื่อไทยพ้นเก้าอี้นายกฯปมคลิปเสียงฮุนเซน สร้างความเสื่อมเสียเกียรติภูมิชาติ
คล้ายว่าจะได้ผล...เพราะศรีสะเกษคือพื้นที่เเนวชายเเดนไทย-กัมพูชา บวกกับผลเลือกตั้งนายก อบจ.พื้นที่นี้ครั้งล่าสุดมีการปะทะกันของพรรคภูมิใจไทยกับพรรคเพื่อไทยพบว่า ”เเชมป์เก่า“วิชิต ไตรสรณกุล ได้ 345,467 คะแนน เอาชนะ วิวัฒน์ชัย โหตระไวศยะ ผู้สมัครจากพรรคเพื่อไทยได้ 219,443 คะแนน(เกมนี้เสี่ยหนูทุบเเผลสด พท.)
ย้อนไปยังการเลือกตั้งปี2566 เขต5 ในสามอันดับเเรกพบว่า พรรคเพื่อไทยส่งอมรเทพ สมหมายลงเเข่งเเละได้
32,884คะเเนน พรรคภูมิใจไทยส่งธีระ ไตรสรณกุลคว้าไป
25,837คะเเนน พรรคก้าวไกลส่งพรสิทธิ์ รักษาทรัพย์ ได้
18,978คะเเนน
ตัวเลขสามอันดับเเรกนี้ ชี้วัดได้ส่วนหนึ่งว่า หากพรรคใดได้ฐานเสียง
คะเเนนนิยมจาก“พรรคสีส้ม”ไปนั้น โอกาสเข้าวินในสงครามชิงเเต้มเเละมวลชนวันที่ 28 กันยายนนึ้ สูงยิ่ง เพราะคะเเนนที่พรรคสีส้มเคยถือไว้ หากโยกไปให้หนึ่งพรรค ระหว่างพรรคเพื่อไทย/พรรคภูมิใจไทยนั้น โอกาสที่ผู้สมัครสส.คนนั้นจะเดินไปย่านเกียกกายได้สบายๆย่อมมีมากกว่า
ปัจจัยสำคัญที่อย่ามองข้าม เพราะสงครามใต้ดินที่มีการจ่อสาดกระสุนมาเเข่งกับกระเเสนั้น เเว่วว่าเริ่มปูพรมกันเเล้ว
เพียงเท่านี้ก็พบว่า ศึกนี้ไม่ธรรมดา...
ติดตามว่า พท./ภท. พรรคใดจะเข้าวิน
ย้อนอดีตไปนั้น
พบว่าในวันวานพรรคสีเเดงครอง สส.ศรีสะเกษ ได้เยอะกว่าขั้วน้ำเงิน เเต่การเมืองวันนี้ บวกกับสภาพเรตติ้งหัวขบวนเพื่อไทย ที่วันนี้กลายเป็นอดีตนายกฯ รูดดำดิ่งเหมือนตารางหุ้น ฉะนั้น ภท.น่าจะเดินเกมได้เเต้มกว่า (ไตรสรณกุลคว้านายกอบจ.ศรีษะเกษไว้ได้) เเละภท.มีเเนวโน้มเพิ่มยอดสส.ในอีสานใต้เเละพื้นที่อื่นๆได้มากกว่าพท.หากมีการเลือกตั้งทั่วไปเกิดขึ้น
อีกปัจจัยที่มิอาจละเลยคือ ผลเลือกตั้งนายกอบจ.พื้นที่นี้ครั้งล่าสุดมีการปะทะกันของพรรคภูมิใจไทยกับพรรคเพื่อไทยพบว่า ”เเชมป์เก่า“วิชิต ไตรสรณกุล ได้ 345,467 คะแนน เอาชนะ วิวัฒน์ชัย โหตระไวศยะ ผู้สมัครจากพรรคเพื่อไทยได้ 219,443 คะแนน