
18 กันยายน 2568 ความเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้นจากกรมที่ดิน กรณี “เขากระโดง” แทบไม่ต่างอะไรกับความเคลื่อนไหวที่ดีเอสไอ กรณี “ฮั้ว สว.” และมีคดีเขากระโดงรวมอยู่ด้วย เพียงแต่ดีเอสไอไม่ได้เล่นใหญ่เหมือนกรมที่ดิน
กินรวบการเมืองไทย “ครูใหญ่” บุรีรัมย์ จับจังหวะรุกฆาต... ตัดตอน ”เขากระโดง”
https://www.nationtv.tv/politic/378966977
เพราะทันทีที่รัฐบาลเปลี่ยนขั้ว คดีฮั้ว สว.ก็ออกแนวชะงักทันที โดยเฉพาะการดำเนินการในส่วนของการออกหมายเรียกพยาน 1,200 คน เข้าให้การเพื่อ “มัด” ขบวนการจัดฮั้วเลือก สว.
ฉะนั้นข้ออ้างที่จะนำมาใช้คือ กกต.ต้องสรุปก่อนว่ากระบวนการเลือก สว.มีการฮั้ว และมีคนผิด กกต.ชุดใหญ่ต้องชี้มูลเสียก่อน พฤติการณ์จึงจะเข้าขายเป็นความผิดมูลฐาน จากนั้นดีเอสไอจึงค่อยมาดำเนินคดีอาญาในขั้นตอนต่อไป
เรื่องนี้ที่ผ่านมาถือว่า “ก้ำกึ่ง-หมิ่นเหม่” เป็นอย่างยิ่ง และดีเอสไอเองก็ทราบ จึงยังไม่มีการแจ้งข้อหาตรงๆ กับขบวนการฮั้ว สว.เลย การออกข่าวว่าออกหมายเรียก 1,200 คน เป็น “หมายเรียกพยาน” ไม่ใช่ “หมายเรียกเพื่อแจ้งข้อหา”
"จุดเปลี่ยนของคดี ฮั้ว สว. ข่าวว่ารัฐบาลใหม่ไม่ต้องรีบทำอะไร และไม่ต้องรีบย้ายอธิบดีดีเอสไอ ที่ชื่อ พันตำรวจตรี ยุทธนา แพรดำ"
เพราะคดีแทรกแซงดีเอสไอ ที่ค้างอยู่ในศาลรัฐธรรมนูญ และมีผู้ถูกร้อง 2 คน คือ พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม ซึ่งเป็นเจ้ากระทรวงต้นสังกัดของดีเอสไอ และ คุณภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และผู้ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกฯ นั้น คดีนี้ศาลรัฐธรรมนูญใกล้มีคำวินิจฉัยเต็มทีแล้ว
หากผู้ถูกร้องทั้งสองคน หรือคนใดคนหนึ่งถูกศาลตัดสินว่าผิด ก็จะเป็นความชอบธรรมของรัฐมนตรียุติธรรมคนใหม่ “ค่ายสีน้ำเงิน” ที่จะเปลี่ยนตัวอธิบดีดีเอสไอ เพราะถือว่าถูกแทรกแซงจากฝ่ายการเมือง
เกมรุกฆาตดีเอสไอ แต่ทำอย่างค่อยเป็นค่อยไป หรือ “กินทีละคำ” คนทำงานในหน่วยงานแห่งนี้อ่านออกทุกคน จึงไม่แปลกที่คดีจะหยุดชะงัก และมีการประสานเลื่อนนัดพยานจำนวนมากไปอย่างไม่มีกำหนด
งานนี้จึงไม่ใช่แค่ชะลอ และไม่ใช่แค่เกียร์ว่าง แต่เป็นการ “ใส่เกียร์ถอย” กันเลยทีเดียว
อีกด้านหนึ่ง คือ ความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับคดีฮั้ว สว. ในความรับผิดชอบของ กกต. ที่ผ่านมามีข่าวกระเซ็นกระสาย 2 ความเคลื่อนไหว
ข่าวว่ามีการพุ่งเป้าไปที่ “สีส้ม” และ “กลุ่มหลากสี” งานนี้ “สว.สีน้ำเงิน” ทยอยออกมาปฏิเสธว่าไม่เกี่ยวข้องกับพวกตน แต่ก็เป็นสัญญาณอำมหิตที่แผ่ชัดเจนในจังหวะเวลาของการเปลี่ยนรัฐบาลว่า หาก “สีน้ำเงิน” โดนสีอื่นก็ไม่รอดด้วยเช่นกัน