
15 กันยายน 2568 ปมร้อนที่สังคมกำลังวิจารณ์อย่างหนัก กับ มาตรการอายัดบัญชีม้าและเครือข่ายที่เกี่ยวข้อง เพื่อแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ แต่กลับไปสร้างผลกระทบต่อประชาชน ผู้ค้ารายย่อย และเจ้าของบัญชีที่ไม่เกี่ยวข้อง มีผู้ใช้บัญชีธนาคารหลายราย ถูกอายัดบัญชี ที่ต้องสงสัยกระทำผิดเกี่ยวข้องกับบัญชีม้า แม้หลายคนจะยืนยันว่าไม่ได้เกี่ยวข้องก็ตาม ส่วนการขอปลดล็อกมีความล่าช้า ขั้นตอนการขอคืนบัญชีที่ยุ่งยาก มีความซับซ้อนและใช้เวลานาน ทำให้ผู้ประกอบการและประชาชน ไม่สามารถเข้าถึงเงินทุนหมุนเวียนได้ทันที ก่อให้เกิดความเสียหายทางธุรกิจ และยังมีปัญหาความไม่ชัดเจนของเกณฑ์การบังคับใช้ การขาดเกณฑ์ที่ชัดเจน และเป็นมาตรฐานเดียวกัน
1. มาตรการอายัดบัญชีธนาคาร
- ตำรวจ + ศปอท. + ธนาคาร เร่งระงับบัญชีต้องสงสัยเกี่ยวข้องมิจฉาชีพ
- รองรับกฎหมายใหม่ พ.ร.ก.ไซเบอร์ (พระราชกำหนดมาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พ.ศ. 2568) ให้อำนาจแก่ธนาคารระงับธุรกรรมและอายัดบัญชีชั่วคราวได้ทันที หากพบเหตุอันควรสงสัย
2. ผลกระทบต่อประชาชนผู้สุจริต
- บัญชีถูกระงับโดยไม่ตั้งใจ
- ที่สร้างความปั่นป่วนในสังคม การใช้ชีวิตประจำวัน และการทำธุรกิจ เพราะมีผู้ถูกอายัดบัญชีส่วนหนึ่ง ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับแก๊งมิจฉาชีพ แต่อาจมีการรับโอนเงินจากบัญชีม้าโดยไม่รู้ตัว
- กลุ่มผู้ได้รับผลกระทบหนักๆ คือ ผู้ประกอบการร้านค้า พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ ไรเดอร์ ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี
- ตั้งวอร์รูมและสายด่วน โดยกระทรวงดีอี ร่วมกับ ธปท. และ ปปง.
- เร่งประสานเพื่อปลดล็อกบัญชี ผ่านศูนย์ AOC 1441 กด 2 (ศูนย์ปฏิบัติการเพื่อป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี) หรือ สายด่วน ธปท. 1213
- หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งตรวจสอบและคัดแยกบัญชีที่บริสุทธิ์ออกจากบัญชีม้าโดยเร็วที่สุด
- ปรับปรุงกระบวนการอายัดและปลดอายัดบัญชีให้มีความรวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้บริสุทธิ์ต้องได้รับความเดือดร้อนอีกในอนาคต
1.อายัดบัญชีโดยไม่ได้คัดกรอง
- ใช้ระบบที่ยังไม่สามารถแยกแยะได้ว่า บัญชีไหนเป็นของมิจฉาชีพ และบัญชีไหนเป็นของบุคคลทั่วไปที่ไม่เกี่ยวข้องกับแก๊งหลอกลวง
- ใช้หลักฐานแค่ "ความเชื่อมโยงทางการเงิน" ที่อาจเกิดขึ้นโดยไม่ตั้งใจ
- หากพบบัญชีหนึ่งมีประวัติการรับโอนเงินจากบัญชีที่ถูกแจ้งว่าเป็น "บัญชีม้า" แม้จะเป็นเพียงครั้งเดียว หรือจำนวนเงินไม่มาก บัญชีผู้รับโอนนั้นก็มีโอกาสถูกระงับทันที
- ทำให้เกิดการระงับบัญชีในลักษณะ "ลูกโซ่" หรือ "หางว่าว" (cascading effect) ที่ลามไปถึงบัญชีของคนบริสุทธิ์จำนวนมาก
2.ระบบอัตโนมัติของธนาคาร หรือการแจ้งอายัดโดยเจ้าหน้าที่ ยังขาดการตรวจสอบเชิงลึกว่า บัญชีนั้นๆ มีพฤติกรรมที่น่าสงสัยอื่นๆ ร่วมด้วยหรือไม่ เช่น จำนวนครั้งที่ทำธุรกรรมกับบัญชีม้า หรือจำนวนเงินที่เกี่ยวข้อง
3. ขั้นตอนการปลดอายัดที่ยุ่งยากและล่าช้า
- เมื่อบัญชีถูกระงับ ผู้บริสุทธิ์ต้องเข้าสู่กระบวนการพิสูจน์ตนเอง ซึ่งมักใช้เวลานานและต้องติดต่อกับหลายหน่วยงาน ทั้งธนาคารและศูนย์รับแจ้งความออนไลน์ ซึ่งบางครั้งต้องเดินทางไปถึงสถานีตำรวจ ทำให้เสียเวลาและค่าใช้จ่ายโดยไม่จำเป็น
4. กลุ่มคนที่ได้รับความเดือดร้อน
- พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์
- ไรเดอร์
- พนักงานบริษัท
- นักศึกษา/ฟรีแลนซ์ ผู้ที่รับงานอิสระและมีการรับโอนค่าจ้างจากลูกค้าหลายราย หรือนักศึกษาที่รับเงินค่าขนมจากผู้ปกครองที่อาจใช้บัญชีบุคคลอื่น
- ผู้ที่ทำธุรกรรมโอนเงินในชีวิตประจำวัน เช่น โอนเงินค่าเช่าบ้าน หรือโอนเงินคืนเพื่อน หากบัญชีของเพื่อนที่ใช้โอนเงินถูกระบุว่าเป็นบัญชีม้ามาก่อน
5.การสื่อสารที่ขาดประสิทธิภาพ
- ประชาชนจำนวนมากยังไม่ทราบว่าหากบัญชีถูกระงับต้องทำอย่างไร หรือมีช่องทางใดบ้างที่สามารถขอความช่วยเหลือได้อย่างรวดเร็ว
6. ซ้ำเติมรายย่อย - รากหญ้ารับกรรม
- ผู้ประกอบอาชีพอิสระ/ ผู้ประกอบการรายย่อย และเอสเอ็มอี เผชิญปัญหาเศรษฐกิจอยู่แล้ว เมื่อบัญชีถูกอายัด ทำให้ขาดสภาพคล่อง ส่งผลกระทบโดยตรงต่อการประกอบอาชีพ กิจการในชีวิตประจำวัน
** มาตรการอายัดบัญชีมิจฉาชีพนี้ออกโดยสำนักงาน ปปง. และเกี่ยวข้องกับ ธปท. กำหนดหลักเกณฑ์และแจ้งมายังพนักงานสอบสวนให้ดำเนินการ
1.ความไม่ชัดเจนของมาตรการ
- ไม่มีคำอธิบายที่แน่นอนว่า พนักงานสอบสวนต้องทำอะไรบ้าง และขั้นตอนใดที่เป็นอำนาจของ ปปง. หรือธนาคาร
- ไม่ชัดว่าใครมีอำนาจชี้ว่า “บัญชีใด” คือบัญชีมิจฉาชีพแถว 1 (บัญชีต้นทางที่รับเงินโดยตรงจากผู้เสียหาย)
- ความผิดมูลฐานฟอกเงิน มี 2 ฐานความผิด (ฉ้อโกงประชาชน, ฉ้อโกงที่มีลักษณะเป็นปกติธุระ) แต่รายชื่อเจ้าของบัญชีที่แจ้งมาไม่ระบุพฤติการณ์ชัดว่า เข้าข่ายความผิดมูลฐานอย่างไร
2.บางครั้งผู้เสียหายขอถอนอายัดบัญชีเอง พนักงานสอบสวนก็ต้องรับเรื่อง ทำให้เกิดความซ้ำซ้อนและอาจถูกมองว่าเป็นการใช้อำนาจเกินขอบเขต
- ภาระงานของพนักงานสอบสวนที่เพิ่มขึ้น
- ต้องรับคำร้องทั้งจากผู้เสียหาย และผู้ครอบครองบัญชีที่ถูกอายัดซึ่งร้องขอถอนอายัด
- ทำหนังสือประกอบ ส่งต่อไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งกินเวลาและไม่ทันสถานการณ์เงินที่ถูกโอนเร็ว
- แทนที่มาตรการจะช่วยลดงาน กลับกลายเป็นเพิ่มงานเอกสารและภาระรับผิดชอบ
3.ปัญหาความชัดเจนของคดี
- ไม่มีเกณฑ์ชัดเจนว่า “บัญชีใดคือบัญชีมิจฉาชีพแถว 1
- หากอายัดบัญชีที่ไม่ใช่บัญชีแถว 1 ก็อาจถูกโต้แย้งได้ว่าไม่เกี่ยวกับคดีหรือไม่ควรถูกอายัด
- สร้างความลำบากให้พนักงานสอบสวนที่จะต้องอธิบายหรือรับผิดชอบต่อข้อโต้แย้งเหล่านี้