เสธ.เบิร์ด สะท้อนมุมมองทหารต่อการเปิดด่าน-ทิศทางที่ควรจะเป็น

13 กันยายน 2568 พล.ต.วันชนะ สวัสดี หรือ เสธ.เบิร์ด ผู้อำนวยการสำนักงานประสานภารกิจด้านความมั่นคงกับกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร กรมยุทธการทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย ให้สัมภาษณ์ในรายการ ”เนชั่นวิเคราะห์ข่าว เนชั่นทีวี” ช่วงเช้าที่่ผ่านมา ถึงทิศทางของฝ่ายทหารในเรื่องการเปิดด่าน ชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งเป็นท่าทีที่น่าสนใจและน่าถอดรหัสอย่างยิ่ง  

 

เสธ.เบิร์ด บอกว่า การเปิดด่าน ในมุมมองของทหาร มองลึกไปกว่าเรื่องข้อตกลงเบื้องต้นใน GBC (เช่น ร่วมกันเก็บกู้ทุ่นระเบิด กวาดล้างสแกมเมอร์) แต่ทหารมองว่า กัมพูชาต้องสิ้นสภาพการเป็นภัยคุกคามของไทยอย่างสิ้นเชิง โดยพลังอำนาจแห่งชาติทุกด้าน ทั้งด้านการเมือง เศรษฐกิจ การทหาร หรือแม้แต่เรื่องวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ก็ต้องสิ้นสภาพทั้งหมด แม้จะไม่ถึงขนาดต้องกวาดล้างให้เรียบ แต่ต้องอ่อนแรงลงไปจนไม่สามารถเป็นภัยคุกคามต่อไทยได้ ซึ่งต้องใช้งานด้านการทูต การต่างประเทศมาช่วย เพื่อให้ไทยมีอำนาจต่อรองสูงกว่า

 

ส่วนเรื่องการกดดันด้านเศรษฐกิจ จากผู้ค้าตามแนวชายแดน หรือประเทศที่สาม เสธ.เบิร์ด บอกว่า ไม่ได้กดดันมาทางกองทัพ เพราะกองทัพเป็นส่วนปฏิบัติ แต่เข้าใจได้ว่าประเทศที่สามกดดัน เพื่อผลประโยชน์ของประเทศที่สาม ส่วนไทยต้องมองกลับมาว่าจะทำอย่างไรเพื่อผลประโยชน์ของไทยเอง 

 

ที่ผ่านมาทุกฝ่ายเห็นตรงกันว่า กัมพูชาเป็นฝ่ายเริ่มก่อน ทั้งเคลื่อนกำลังอาวุธหนัก และโจมตีทางทหาร ฉะนั้นประเทศที่สามจึงต้องไปกดดันกัมพูชามากกว่าไทย และไทยไม่เคยได้รับความจริงใจจากกัมพูชาเลย แม้แต่ข้อเรียกร้องเบื้องต้นอย่างการเก็บกู้ทุ่นระเบิด ก็ไม่จริงใจ

อย่างไรก็ดี เสธ.เบิร์ด ยืนยันว่า “บิ๊กเล็ก” พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม ในรัฐบาลปัจจุบัน และว่าที่ รมว.กลาโหม ในครม.อนุทิน1 ไม่มีผลประโยชน์ใดๆ เกี่ยวกับการเปิดด่าน แต่ “บิ๊กเล็ก” เกี่ยวข้องกับการพูดคุยในระดับนโยบาย จึงฟังข้อมูลมาหลายๆส่วน โดยเฉพาะความเดือดร้อนของผู้ประกอบการจากการปิดด่าน

 

แต่สำหรับการลงพื้นที่ของตน และฝ่ายทหาร ได้รับฟังชาวบ้านในพื้นที่มาเหมือนกันว่า ทุกคนพร้อมอพยพ แต่ขอให้จบเร็ว จริงๆ ปัญหานี้ถ้าจบตั้งแต่วันที่ 28 กรกฎาคม 2568 ได้ (วันตกลงหยุดยิง) โดยจบด้วยพลังทางทหาร ป่านนี้เศรษฐกิจเริ่มเดินแล้ว ฉะนั้นคิดว่ารัฐบาลทราบดีว่าประชาชนในพื้นที่คิดอย่างไร ตนเคยสะท้อนไปแล้ว แต่การมีเงื่อนไขแบบในปัจจุบัน ปัญหาก็จะจบช้า มีการโยนลูกกันไปมา ระหว่าง RBC กับ GBC เป็นการพูดชิ่งไปชิ่งมา จึงไม่จบเสียที

 

“บิ๊กกองทัพ” ย้ำชัด ยอมไม่ได้เปิดด่าน แม้บางจุด

 

ท่าทีของ “เสธ.เบิร์ด” สอดรับกับนายทหารระดับสูงที่กำลังจะเข้ารับหน้าที่ดูแลกองทัพ และพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ในวันที่ 1 ตุลาคม 2568 นี้ โดยบอกว่า จุดยืนของตนและของกองทัพ คือ การปิดด่านเป็นมาตรการกดดันกัมพูชาที่ได้ผล ฉะนั้นจะไม่มีการยอมเปิดด่าน ไม่ว่าจะเป็นการเปิดบางจุด หรือแบ่งโซนตามความตึงเครียดของพื้นที่ เพราะการกดดันต้องกดดันตลอดแนว ไม่ใช่กดดันบางจุดและผ่อนปรนบางจุด